ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
ท้องถิ่นไทย ย้อนกลับ
รมว.เกษตรฯ สั่งที่ปรึกษาฯลงพื้นที่ตรวจสอบนายทุนครอบครองที่ สปก.เบื้องต้นตรวจแล้ว 3 แห่ง
04 พ.ค. 2567

      รมว.เกษตรฯ สั่งที่ปรึกษาฯลงพื้นที่ตรวจสอบนายทุนครอบครองที่ สปก.เบื้องต้นตรวจแล้ว 3 แห่ง มีทั้งสนามกอล์ฟ-แผงโซลาเซลและนายทุนระดับประเทศ พร้อมขู่หากพบข้าราชการเข้าไปเอ้อแระโยชน์เจอทั้งวินัยและอาญา

      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ /ประธานคณะทำงานขับเคลื่อนการตรวจสอบและพิจารณาความผิดเกี่ยวกับผู้ได้รับการจัดที่ดินและผู้ถือครองที่ดินโดยมิชอบในเขตปฏิรูปที่ดิน (สปก.) พร้อมด้วยนายวินัย เมฆดำ ปฏิรูปที่ดินจังหวัดกาญจนบุรี และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ “พญานาคราช”  กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่พิจารณาความผิดเกี่ยวกับการถือครองที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน (สปก.)เนื้อที่ ประมาณ 130 ไร่ ที่สนามกอล์ฟชื่อดัง ตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซื้อต่อจากราษฎร จำนวน 11 ราย และนำมาใช้ประโยชน์ 

     เมื่อไปถึงนายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ได้ร่วมประชุมตรวจสอบแผนที่ทางอากาศบริเวณที่ตั้งของสนามกอล์ฟ รวมทั้งนำเอกสารและรายชื่อของประชาชน 11 ราย ที่เคยได้รับการจัดสรรที่ดิน สปก.อย่างถูกต้องตามกฎหมายแต่ภายหลังได้นำที่ดินมาขายให้กับทางสนามกอล์ฟดังกล่าว การประชุมครั้งนี้มีผู้แทนสนามกอล์ฟมาร่วมชี้แจง พร้อมกับแจ้งว่ามีเอกสารถูกต้องครบถ้วน แต่ ณ ขณะนี้ไม่สามารถนำมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ได้ เนื่องจากเอกสรทั้งหมดเก็บเอาไว้ที่สำนักงานใหญ่ ซึ่งการประชุมใช้เวลาไม่นานมากนักก็แล้วเสร็จ

     ทั้งนี้นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ เปิดเผยว่า วันนี้เราเดินทางมาตรวจสอบที่ดิน สปก.ที่ปรากฏ หากตรวจสอบแล้วพบว่าที่ดินยังอยู่ในกรรมสิทธิ์ของ สปก.เราก็มีขั้นตอนการดำเนินการ เช่น หลังจากตรวจสอบแล้วเสร็จภายในวันนี้ ขั้นตอนต่อไปคือเราต้องส่งหนังสือไปถึงสนามกอล์ฟฯ เพื่อให้นำพยานเอกสารหลักฐานมาหักล้างภายใน 30 วัน ถ้าไม่สามารถนำเอกสารหลักฐานมาหักล้างได้ เราต้องมีคำสั่งให้ออกไปจากพื้นที่ของเรา ถ้าไม่ยอมออกเราก็มีมาตรการขั้นตอนในการดำเนินคดีตามกฎหมายฐานบุกรุกที่ดินของรัฐ

     สำหรับแปลงที่ดิน สปก.ภายในบริเวณสนามกอล์ฟนั้น เมื่อปี 2536 ปฏิรูปที่ดินจังหวัดกาญจนบุรีได้จัดที่ดินให้กับราษฎรไปจำนวน 11 ราย จากการสืบสวนพบว่าราษฎรทั้ง 11 ราย ได้มีการขายที่ดินให้กับสนามกอล์ฟ จากนั้นคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดในสมัยก่อน ได้ใช้อำนาจคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดเพิกถอนทั้ง 11 แปลง ซึ่งที่ดินจำนวนดังกล่าวจะต้องตกเป็นกรรมสิทธิ์ของ สปก.

     แต่ปัจจุบันนี้สภาพที่เห็น พบว่าสนามกอล์ฟได้เข้ามาใช้ประโยชน์ในที่ดินแปลงดังกล่าวที่ถูกเพิกถอนไปแล้ว วันนี้เราจึงเข้ามาตรวจสอบในเรื่องของวิทีทางปกครองว่าทางสนามกอล์ฟฯมีเอกสารอะไรที่จะนำมาหักล้างในแปลงที่ดิน สปก.ที่ถูกคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพิกถอนไปแล้วหรือไม่ ถ้าทางสนามกอล์ฟมีเอกสาร สค.1 หรือ นส.3 หรือ นส.3ก มาแสดงก็ถือว่าถูกต้องตามกฎหมายที่ดิน แต่ถ้าไม่มีเอกสารมาหักล้าง เราจะต้องสั่งระงับให้หยุดไม่ให้เข้ามาใช้ประโยชน์ในที่ของ สปก.ต่อไป

     ซึ่งการเข้ามาตรวจสอบที่ดิน สปก.ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีในวันนี้ ทาง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ท่านสั่งกำชับให้ตรวจสอบให้หนักทั้ง 72 จังหวัดทั่วประเทศ สำหรับจังหวัดกาญจนบุรีถือเป็นจังหวัดที่ 2 ที่เทคออฟมาจากจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเมื่อวานนี้ได้มีคำสั่งย้ายข้าราชการ สปก.ในจังหวัดนครราชสีมาทั้งหมด และได้ย้ายเจ้าหน้าที่คนใหม่มาดำรงตำแหน่งแทน สำหรับจังหวัดกาญจนบุรีถ้าตรวจสอบแล้วพบว่ามีเจ้าหน้าที่ท่านใดเข้าไปเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน เราก็จะดำเนินการเช่นเดียวกันกับที่จังหวัดนครราชสีมาทั้งทางวินัยและอาญา ซึ่งเราจะทำให้เป็นบรรทัดฐานเดียวกันทั้งหมด

      สำหรับช่วงเช้าที่ผ่านมา เราได้เข้าไปตรวจสอบและพิจารณาความผิดเกี่ยวกับผู้ได้รับการจัดที่ดินและผู้ถือครองที่ดินโดยมิชอบในเขตปฏิรูปที่ดิน (สปก.)มาแล้ว 2 แห่ง แห่งแรกเป็นพื้นที่ประกอบกิจการแผงโซลาเซล และแห่งที่ 2 เป็นของเอกชนรายใหญ่ที่มีชื่อเสียงระดับประเทศมีเนื้อที่ประมาณ 1 หมื่นไร่ หลังจากนี้เจ้าหน้าที่คงต้องกลับมาจังหวัดกาญจนบุรีอีกหลายครั้งจนกว่าจะตรวจสอบแล้วเสร็จ


   ///////////////////////////////////////////////////////
ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา   ไหลวารินทร์ 
(หมายเหตุลงตรวจสอบ 1.สนามกอล์ฟ ไมด้า กอล์ฟ คลับ หมู่ 7 ต.ลาดหญ้า อ.เมืองกาญจนบุรี 2.บริษัท สุราพิเศษทิพราช จำกัด หมู่ 1 ตำบลวังด้ง อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี 3. บริษัทผลิตโซล่า เซลล์ ต.สิงห์ อ.ไทรโยค)

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 31 พฤษภาคม 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...