ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
ท้องถิ่นไทย ย้อนกลับ
สุดท้ายไม่รอด ตามรวบ ไอ้โจ้ ขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่
11 เม.ย. 2567

         ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้ากรณี เจ้าหน้าที่นำโดย พ.ต.อ.มนตรี แตงโต ผกก.สภ.ทองผาภูมิ พ.ต.ท.ธีรพร วิจิตรบรรณการ รอง ผกก.สส.สภ.ทองผาภูมิ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.สส.3 บก.สส.ภ.7 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ร้อย ตชด.135 เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติด ภ.7 (ชปส.ภ.7) เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.สส.1 บก.สส.ภ.7 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปส.4 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สส.สตม. และเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กกล.สุรสีห์

        ร่วมกันจับกุมตัวนายพิทักษ์ หรือดำ โม่อ่อน อายุ  71 ปี พร้อมด้วยของกลาง ยาบ้า จำนวน 298,000 เม็ด ยาไอซ์ น้ำหนัก 9 กิโลกรัม ได้ที่บริเวณจุดตรวจสามแยกทองผาภูมิ หมู่ 1 ตำบลท่าขนุน  อำเภอทองผาภูมิ  จังหวัดกาญจนบุรี  จากการสอบปากคำรวมทั้งการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อติดตามจับกุมตัวผู้ร่วมขบวนการ สุดท้ายศาลจังหวัดทองผาภูมิได้พิจารณาอนุมัติหมายจับเพิ่มอีก 2 ราย ประกอบด้วย 

       1. นายพิพัฒน์ หรือโจ้ แก้วบัวขาว ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดทองผาภูมิ ที่ 23/2566  ลงวันที่ 8 พ.ค.2566 ในความผิดฐาน “สมคบกันกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด” และ 2.นายนัฐพล  หรือเต้ย กองแก้ว ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดทองผาภูมิที่ 23/2566  ลงวันที่ 8 พ.ค.2566   ในความผิดฐาน “เป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด”


        ต่อมาวันที่ 4 พ.ค.66 เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวนายนัฐพล หรือเต้ย กองแก้ว ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดทองผาภูมิที่ 23/2566  ลงวันที่ 8 พ.ค.2566   ในความผิดฐาน “เป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด”ได้ที่บริเวณจุดตรวจสามแยกทองผาภูมิ  พร้อมด้วยของกลาง ยาบ้า จำนวน 110,179 เม็ด ส่วนนายพิพัฒน์ หรือโจ้ อยู่ระหว่างการหลบหนีหมายจับ

        โดยคดีดังกล่าวนั้น พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภาค 7 ได้ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจากเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ ที่ลักลอบนำเข้าจากชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน จึงสั่งการให้ พล.ต.ต.นครินทร์ สุคนธวิท ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภาค 7 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.จว.กาญจนบุรี และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ทองผาภูมิ เร่งรัดติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาที่กำลับหลบหนีหมายจับมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว ก่อนที่จะถึงช่วงหยุดยาวเทศกาลวันสงกรานต์ ประจำปี 2567 ที่กำลังจะมาถึงนี้ล่าสุดเวลา 13.00 น.วันที่ 10 เม.ย.67 เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่า พบนายพิพัฒน์ หรือโจ้ แก้วบัวขาว ผู้ต้องหาตามหมายจับ หลบหนีเข้ามาอาศัยอยู่ในพื้นที่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี หลังจากได้รับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ

         จากนั้นจึงนำกำลังออกติดตามร่วมกับ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.บ้านโป่ง เจ้าหน้าที่ชุดตำรวจ สภ.เมืองราชบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด ภาค 7 จนกระทั่งเวลา 16.00 น.เจ้าหน้าที่พบนายพิพัฒน์ฯ อยู่ที่บริเวณริมถนนเพชรเกษมสายเก่า ท้องที่หมู่ 4 ต.ดอนกระเบื้อง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุม พร้อมแสดงและอ่านหมายจับศาลจังหวัดทองผาภูมิ  ที่ 23/2566   ลงวันที่  8 พ.ค.66 และหมายจับที่  37/2566 ลงวันที่  23 มิ.ย.66 ให้นายพิพัฒน์ ผู้ต้องหาได้เข้าใจ ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาไปตรวจค้นหาสิ่งผิดกฎหมายเพิ่มเติมที่บ้านพักในพื้นที่ ต.ห้วยหมอนทอง และห้องพักแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.ทุ่งลูกนก อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย

       เจ้าหน้าที่จึงนำตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.ทองผาภูมิ เบื้องต้นนายพิพัฒน์ หรือโจ้  แก้วบัวขาว อายุ 31 ปี  ผู้ต้องหาตามหมายจับ ชาว ต.ห้วยหมอนทอง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ยังให้การปฏิเสธ แต่ด้วยพยานและหลักฐานที่แน่นหนา เจ้าหน้าที่จึงนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิดำเนินคดีตามกฎหมาย ในข้อกล่าวหา “กระทำความผิดฐาน ร่วมกันจำหน่ายโดยการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1(เมทแอมเฟตามีน) อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า เป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายให้กลุ่มประชาชน และมีผลการทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชน และข้อหา “สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด ผู้นั้นสมคบกันกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดฯลฯ 

                                                  .................................
ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา  ไหลวารินทร์ - รายงาน

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 เมษายน 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...