ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
ท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ ย้อนกลับ
ผู้ว่าฯ ชลบุรี ย้ำพบเห็นคราบน้ำมันบริเวณชายฝั่ง แจ้งสายด่วน ปภ.1784
05 ก.ย. 2566

ผู้ว่าฯ ชลบุรี เผยสถานการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลบริเวณทะเลอ่าวไทย ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้บูรณาการดำเนินการแก้ไขอย่างเต็มกำลังความสามารถ พร้อมย้ำ หากประชาชน-ผู้ประกอบการ-นักท่องเที่ยว พบเห็นคราบน้ำมันบริเวณชายฝั่ง แจ้งสายด่วน ปภ.1784 ตลอด 24 ชั่วโมง

เมื่อวันที่ 4 ก.ย. 66 เวลา 20.00 น. นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เปิดเผยถึงกรณีเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 3 กันยายน 2566 เวลาประมาณ 20.00 น. เกิดเหตุท่อ Main Line น้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือบรรทุกน้ำมัน ขณะขนถ่ายน้ำมันดิบบริเวณทุ่นผูกเรือกลางทะเล หมายเลข 2 (SBM-2) ของโรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณทะเลอ่าวไทย ใกล้เกาะตาเหมือน (ด้านใต้ของเกาะศรีชัง) ซึ่งท่อดังกล่าวส่งมายังฝั่งอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ทำให้เกิดน้ำมันรั่วไหล ประมาณ 3 นาที และคาดว่าเกิดน้ำมันรั่วไหลประมาณ 5 กิโลเมตร ปริมาณน้ำมันประมาณ 50-70 ลูกบาศก์เมตร หรือราว 45,000 ลิตร ซึ่งบริษัท ไทยออยด์ จำกัด (มหาชน) ได้เข้าควบคุมสถานการณ์บริเวณที่เกิดเหตุทันที โดยได้ปิดวาล์วท่อน้ำมันที่เกิดปัญหา ล้อมบูมน้ำมันที่รั่วไหล และมีการใช้สารเคมีเพื่อคุมการกระจายของน้ำมัน แต่เนื่องจากเป็นเวลาคืน ทำให้ไม่อาจประเมินพื้นที่ในการปฏิบัติการล้อมบูมครอบคลุมน้ำมันที่รั่วไหลออกมาได้ทั้งหมด โดยเมื่อช่วงเช้าวันนี้ จังหวัดชลบุรีได้บูรณาการร่วมกับเรือตรวจการณ์ของกรมเจ้าท่า และบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) พบคราบน้ำมันเป็นฟิล์มบาง ๆ จากจุดเกิดเหตุไปทางเกาะสีชัง ประมาณ 2 ไมล์ทะเล (3.6 กิโลเมตร) กระแสน้ำพัดไปทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ขณะเดียวกันลมพัดจากทิศตะวันตกเฉียงใต้ ไหลและพัดออกจากเกาะสีชัง

"วันนี้ ช่วงเวลา 13.00 - 18.00 น. ตนได้ลงพื้นที่พร้อมด้วยนายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า นายวรจักร สถาพรภิญโญ นายอำเภอศรีราชา พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ ของชาติทางทะเล (ศรชล.) เจ้าท่าภูมิภาค ตำรวจน้ำ ประชาสัมพันธ์จังหวัด สาธารณสุขจังหวัด ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด และผู้บริหารบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) เพื่อติดตามการปฏิบัติของทีมบูรณาการจากกองทัพเรือภาคที่ 1 บริษัท ไทยออลย์ จำกัด (มหาชน) ท่าเรือแหลมฉบัง บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และบริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ทั้งนี้ จากการตรวจสอบของกรมควบคุมมลพิษพบว่าบริเวณจุดเกิดเหตุ ได้ดำเนินการจัดเก็บคราบน้ำมันได้ทั้งหมดแล้ว โดยศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยฝั่งตะวันออก (ศวทอ.) สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 2 จะลงพื้นเพื่อเก็บตัวอย่างน้ำบริเวณที่เกิดเหตุไปตรวจสอบคุณภาพน้ำ พร้อมทั้งให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังอย่างต่อเนื่องป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายต่อทรัพยากรทางทะเล โดยบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ได้จัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ ณ อาคารหอประชุม" นายธวัชชัยฯ กล่าว

นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ จากการประเมินของกรมทรัพยากรมลพิษ คาดการณ์ว่า ประมาณ 23.00 น. คืนนี้ จะมีคราบน้ำมัน เข้าที่ตอนใต้ของเกาะค้างคาว ก่อนที่ช่วงเย็นของวันที่ 7 กันยายน คราบน้ำมันจะเข้าที่ชายทะเลอ่าวอุดม และเวลา 12.00 น. ของวันที่ 8 กันยายน จะเคลื่อนเข้าที่เกาะลอย อำเภอศรีราชา และวันที่ 10 กันยายน เวลาประมาณ 15.00 น. คราบน้ำมันจะกระจายตัวถูกพัดเข้าหาฝั่งชายหาดบางแสนไปจนถึงอ่าวอุดม เป็นระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร โดยสำหรับขั้นตอนการเก็บกู้คราบน้ำมัน ตามแผนอุบัติภัยพบว่า ระดับที่ 2 (Tier II) รั่วไหลมากกว่า 20-1,000 ลิตร การขจัดคราบน้ำมันต้องร่วมมือกันระหว่างภาคเอกชนและภาครัฐ ตามแผนป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำ

"ทั้งนี้ เมื่อเวลา 16.30 น. ทีมบูรณาการฯ ได้ดำเนินการใช้บูมกักคราบน้ำมัน จำนวน 6 เส้น เพื่อดักจับคราบน้ำมัน และฉีดสารขจัดคราบน้ำมัน โดยใช้เรือและอากาศยาน บริเวณด้านทิศใต้ของเกาะสีชัง ซึ่ตนยังคงติดตามการปฏิบัติอย่างใกล้ชิด โดยจังหวัดชลบุรีจะได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานของกรมเจ้าท่า กรมควบคุมมลพิษ หน่วยงานทหาร บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) และภาคีเครือข่าย ดำเนินการตามแผนฯ และกรมควบคุมมลพิษจะได้ประสานกับกรมเจ้าท่า จัดตั้งศูนย์ป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาให้บรรเทาผลกระทบที่จะเกิดขึ้นมิติต่าง ๆ โดยเร่งด่วน และถ้ามีความคืบหน้าเพิ่มเติมจะได้สร้างการรับรู้ให้ทราบเป็นระยะต่อไป และหากพี่น้องประชาชน ผู้ประกอบการ และนักท่องเที่ยว พบเห็นน้ำมันรั่วไหลบริเวณทะเลและชายฝั่ง ขอให้ได้แจ้ง "สายด่วน ปภ. โทร. 1784" หรือ "สายด่วนพิทักษ์ป่าและรักษาทะเล โทร. 1362" ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้าตรวจสอบ แก้ไขสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที" นายธวัชชัยฯ กล่าวในช่วงท้าย

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 1 - 15 พฤษภาคม 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...