ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
เกษตรนำไทย ย้อนกลับ
เกษตรฯ เร่งรัดขับเคลื่อนมาตรการ ลด ละ เลิก สารเคมี 3 ชนิด
28 ก.พ. 2562

โดยเมื่อเร็วๆ นี้ นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการนายอนันต์ สุวรรณรัตน์ ปลัดกระทรวงเกษตรฯ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการจำกัดการใช้สารเคมี 3 ชนิดของกระทรวง นำรายละเอียดแผนปฏิบัติงานมาเสนอ โดยเรื่องที่ให้ทำเร่งด่วนคือ การสำรวจปริมาณสารเคมีทั้ง 3 ชนิด ทั้งจากผู้นำเข้าและร้านจำหน่ายว่า มีอยู่เท่าไร เนื่องจากยังมีองค์กรต่างๆ ผู้ได้รับอนุญาตให้นำเข้าได้นำเข้าเกินกำหนด จึงต้องสำรวจให้เสร็จภายในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้เพื่อให้กระจ่างต่อสังคม ซึ่งจะต้องมีรายละเอียดชื่อผู้ครอบครอง รวมทั้งวัน เดือน ปีที่ได้รับอนุญาตให้นำเข้า โดยการอนุญาตครั้งต่อไปต้องระบุชัดเจนว่า บริษัทใดเคยนำเข้าเท่าไร แล้วจะลดเหลือเท่าไร แผนการควบคุมในพื้นที่ตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะไม่ให้มีการจำหน่าย ครอบครองหรือใช้อย่างเด็ดขาด

ทั้งนี้ กรมวิชาการเกษตรต้องเร่งกำหนดวิธีการฝึกอบรมทั้งผู้จำหน่าย เกษตรกร ลูกจ้างรับฉีดพ่นสารเคมีซึ่งต้องมีหลักสูตรที่ให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดทราบถึง วิธีการใช้ที่ถูกต้องและปลอดภัย โดยจะให้กรมส่งเสริมการเกษตรซึ่งมีทั้งเกษตรจังหวัด เกษตรอำเภอ และมีเจ้าหน้าที่เกษตรตำบลครอบคลุมทั่วประเทศเข้ามาช่วย รวมถึงใช้ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการเกษตร (ศพก.) ซึ่งมี 882 แห่งในทุกอำเภอและศพก. เครือข่ายอีก 10,000 กว่าแห่งเป็นแหล่งถ่ายทอดความรู้ อีกทั้งจะประสานกับกระทรวงมหาดไทยในการแต่งตั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่มาสนับสนุน

นอกจากนี้ กรมวิชาการเกษตรต้องร่วมกับภาควิชาการและภาคเอกชนศึกษาวิจัยหาวิธีการหรือสารอื่นมาทดแทนสารเคมีทั้ง 3 ชนิด สิ่งสำคัญที่ต้องทำทันทีคือ การจัดทำแผนปฏิบัติการเร่งรัดขยายพื้นที่การทำเกษตรปลอดภัยตามมาตรฐาน GAP และ/หรือเกษตรอินทรีย์ให้ครบ 149 ล้านไร่ภายใน 2 ปี โดยคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนของกระทรวงต้องรายงานความคืบหน้าต่อสาธารณชนทุก 3 เดือน

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 เมษายน 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...