ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
ท้องถิ่นไทย ย้อนกลับ
เมียนมา ทะลักเข้ามาทั้งครอบครัวกันต่อเนื่อง
06 เม.ย. 2567

         เมียนมา ทะลักเข้ามาทั้งครอบครัวกันต่อเนื่อง!! 3 นายอำเภอ เมืองกาญจน์ รับลูกบูรณาการจับแรงงานต่างด้าว วันเดียว 148 คน บางส่วนกลัวจะไปเกณฑ์ทหารอยู่ประเทศตัวเองไม่มีความสุข หนีตายไปเอาดาบหน้า เพื่อโอกาสที่ดีกว่า

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายใต้การอำนวยการของ ร้อยโททศพล ไชยโกมินทร์  ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พลตำรวจตรี นครินทร์ สุคนธวิท ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พลตรี วุทธยา จันทมาศ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 9 พันตำรวจเอก บรรจง อัมฤทธิ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พันตำรวจเอก กฤตชัย ทองอยู่ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พันตำรวจเอก วุฒิพงษ์  เย็นจิตต์ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี  พันตำรวจเอก ภัทรชัย กอสนานรอง ผบก.ภ.จว. กาญจนบุรี พันตำรวจเอก สธนทัต ตั้งสิทธิ์เสรีวงศ์ รอง ผบก.ภ.จว. กาญจนบุรี  นายสุริยศักดิ์ เหมือนอ่วม นายอำเภอสังขละบุรี พันตำรวจเอก ไพฑูรย์ศรีวิลัย ผกก.สภ.สังขละบุรี  นายณัฐพัชร์ งามศิริโรจน์  หัวหน้าฝ่ายความมั่นคงปลัดอำเภอสังขละบุรี  พันตำรวจเอก กรณ์ สมคะเณย์ ผกก.ตม.จ.กาญจนบุรี พันตำรวจเอก มานะ สำราญวงศ์ ผกก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี  พันเอก พงศ์พัฒน์ ห้องสินหลาก ผบ.ร.29/ผบ.หน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้ากกล.สุรสีห์ พันเอก สุรเดช เมฆานุวงศ์ รอง ผบ.ร.29/รอง ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ พันตำรวจเอก สุกิจ ก้องจตุศักดิ์ ผกก.ตชด.13 (ค่ายพระพุทธยอดฟ้า)  

         หลังจากที่ได้รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา มาจากชายแดนด้าน อำเภอสังขละบุรี มุ่งหน้าเข้าตัวจังหวัดกาญจนบุรี เป็นจำนวนมาก   พลตำรวจตรี นครินทร์ สุคนธวิท  ผบก.ภ.จ.กาญจนบุรี จึงสั่งการณ์เตรียมลับมือแรงงานเหล่านี้ในทุกเส้นทางอย่าได้ให้หลุดรอดผ่านเข้ามาได้

        จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบหาข่าวได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีการขนแรงงานต่างด้าวที่บริเวณริมน้ำซอยพุทรา หมู่บ้านดงสัก หมู่ที่ 2 ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จว.กาญจนบุรี  ก่อนจะถึงที่เกิดเหตุเจ้าที่ได้เห็นเรือหางยาว 5 ลำ บรรทุกแรงงานต่างด้าวประมาณ 100 คนขับหลบหนีออกไปอย่างรวดเร็ว จึงได้แจ้งหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่เขตติดต่อกันให้ช่วยตามจับกุมไว้ได้ทั้งหมด 

        เจ้าที่หน้าได้ตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวพบกลุ่มคนมีลักษณะคล้ายแรงงานต่างด้าวนั่งอยู่บริเวณริมน้ำซองกาเลียเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวขอตรวจค้นบัตรประจำตัวหรือเอกสารที่แสดงการอนุญาตให้เข้ามาหรืออยู่ในราชอาณาจักรไทยของบุคคลทั้งหมดพบว่า ผู้ต้องหาทั้งหมด ในส่วนกระเป๋าเดินทางเสื้อผ้าของต่างด้าวทั้งหมดได้ใส่ในถุงสีดำ แสดงให้เห็นว่าผู้นำพาที่หลบหนีไปแล้วล่วงหน้าได้เตรียมการมาอย่างดี

        แรงงานทั้ง17 คน ชาย 12 คน หญิง 5 คน ไม่สามารถแสดงเอกสารสำคัญประจำตัวหรือเอกสารการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรได้ ผู้ต้องหาที่ 1 ถึง 17 คน ไม่สามารถพูดและเข้าใจในภาษไทยได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ขอให้ นางแขวิไล ไม่ทราบนามสกุล เป็นล่ามแปลภาษา 

          จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพ ว่าตนและพวกได้เดินทางเข้ามาในประเทศไทยได้ประมาณ 2 วัน เดินผ่านช่องทางธรรมชาติ แล้วขึ้นรถมาถึงบริเวณริมน้ำจุดที่โดนจับกุมดังกล่าว ได้ชักพักแล้วเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเข้ามาจับได้ ชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหา พรบ. หลบหนีเข้าเมืองโดย ไม่ได้รับอนุญาตเข้ามาอาณาจักรไทย นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.สังขละบุรี สืบสวนขยายผลดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

          หนึ่งในผู้ต้องหานายอ่องมัน อายุ 33 ปี อยู่จังหวัดมะละแหม่ง ประเทศเมียนมา เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวด้วยน้ำตาอันแสนเศร้า ว่าตนเองได้เดินทางมากับภรรยานางโมวินอายุ 33 ปี พร้อมด้วยลูกสาววัย 10 ปี สาเหตุที่ต้องหลบหนีเข้ามาอยู่บ้านตนเองที่ ประเทศเมียนมาไม่มีความสุข กลัวว่าจะโดนจับไปเป็นทหารเกณฑ์ ไม่มีงานทำ ทำมาหากินลำบาก ตนเองเคยเข้ามาทำงานที่ประเทศไทยแล้วครั้งหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน ครั้งนี้จะมาเข้ามาทำงานในจังหวัดสมุทรสาครโรงงานทำถุงปุ๋ย โดยเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางครั้งนี้ 30,000 บาทเมื่อไปถึงปลายทางแล้วจึงจะนำเงินมาจ่ายให้กับผู้นำพาที่มาส่ง แต่ต้องมาโดนจับ
           
ต่อมา นายชาคริต ตันพิรุฬห์ นายอำเภอทองผาภูมิ สั่งการให้นายวัลลภ จินดา ปลัดอำเภอ นายนพดล นิ่มเนตร ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ตำบลท่าขนุน  พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ อส.อ.ทองผาภูมิ ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ทหารหน่วย ชพส. 1202 ฉก.ลาดหญ้า เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 7 สภ.ทองผาภูมิ ตชด.135 ร่วมกันจับกุมผู้หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายชาวเมียนมา จำนวน 77 คน ชาย 55 คน หญิง 18 คน ประกอบด้วย ชาย 55 คน หญิง 18 คน และผู้ติดตาม 4 คน ณ บริเวณป่าในหมู่บ้านขนุนคี่ หมู่ที่ 4 ตำบลท่าขนุน อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี

โดยพฤติการณ์การจับกุมผู้หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายครั้งนี้ เนื่องจากการลาดตระเวนของเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้เดินลาดตระเวนในบริเวณดังกล่าว จนพบว่ามีผู้หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายซ่อนตัวอยู่ในป่าของหมู่บ้านดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการควบคุมตัวไว้ 

จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าแรงงานต่างด้าวส่วนใหญ่ไม่สามารถพูดและฟังได้ จากนั้นได้ให้แรงงานต่างด้าวดังกล่าวแสดงบัตรประจำตัวประชาชนหรือเอกสารประจำตัว มาให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ แต่ไม่พบว่าผู้หลบหนีเข้าเมือง ดังกล่าวมีบัตรประจำตัวหรือเอกสารทั้งหมด มาแสดงแก่เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ให้การว่าพวกตนได้หลบหนีภัยจากการสู้รบในประเทศเมียนมา โดยเดินทางมาจากประเทศเมียนมาตามช่องทางธรรมชาติ ทางด่านพระเจดีย์สามองค์ อ.สังขละบุรี และได้ขึ้นเรือ หมู่บ้านดงสัก ต่อมาเพื่อมาขึ้นยังท่าเรือบ้านขนุนคี่ โดยเสียเงินให้แก่นายหน้ารายละ 30,000 บาท ที่จะเข้าไปทำงานในพื้นที่ชั้นในของประเทศไทย เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพ พรบ. หลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต  ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมด นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ในส่วนของอำเภอไทรโยค ภายใต้การอำนวยการของ ร้อยโท ทศพล ไชยโกมินทร์ ผวจ.กาญจนบุรี โดยนายเนรมิต เหลืองอร่ามฟ้า นายอำเภอไทรโยค นายกิรติ  ร่วมกับ สภ.ไทรโยค ทหารชุด กกล. สุรสีห์ ตชด.136 ตำรวจชุดสืบจังหวัดกาญจนบุรี  ตม.จ.กาญจนบุรี ตำรวจทางหลวงไทรโยค 

บูรณาการร่วมจับกุม บุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง สถานที่จับกุม บริเวณถนน 323 หน้าวัดพุปลู ตำบลสิงห์ อำเภอไทรโยค  จังหวัดกาญจนบุรี ของกลางรถยนต์ อีซูซุแค็ปสีบรอนซ์เงิน ทะเบียน 3 ฒถ 9554 กทม. มีนายขจร นามสมมติ คนอำเภอไทรโยค  เป็นผู้ขับนำพา จับกุมแรงงานต่างด้าวได้ทั้งหมด 58 คน ชาย 48 คนหญิง 10 คน โดยเสียค่าเดินทางให้นายหน้า 30,000 บาท จ่ายเมื่อถึงที่หมาย ทั้งหมดมาจาก  ย่างกุ้ง อิรวดี  พะโค  พะอาน มัณฑะเลย์ มะกวย เนปิดอว์ จะเดินทางไปทำงานในพื้นที่ชั้นในของประเทศไทยชลบุรี สมุทรสาคร ราชบุรี กาญจนบุรี สุราษฎร์ธานี ระยอง

เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาแจ้งกล่าวหาว่านายขจร ผู้ต้องหาที่ 1 ว่า ให้การช่วยเหลือซ่อนเร้นด้วยประการใดๆแก่คนต่างด้าวให้รอดพ้นการจับกุมของเจ้าหน้าที่ ส่วนผู้หลบหนีเข้าเมืองแจ้งข้อกล่าวหากับคนต่างด้าวทั้งหมดว่าเป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาติ ควบคุมส่งพนักงานสอบสวน สภ.ไทรโยค ดำเนินคดี./
   //////////////////////////////////////////////////////////
ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา   ไหลวารินทร์ - รายงาน

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 เมษายน 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...