ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
เกษตรนำไทย ย้อนกลับ
ก.เกษตรผุดโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง รัฐช่วยซื้อปุ๋ยปลูกข้าว
27 มี.ค. 2567

น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตระหนักดีว่า ข้าวเป็นสินค้าที่สำคัญของประเทศ ซึ่งสามารถส่งออกได้กว่าแสนล้านบาทต่อปี โดยในประเทศมีเกษตรกรที่ปลูกข้าวกว่า 4.68 ล้าน ครอบครัวหรือประมาณ 16 ล้านคน ส่วนใหญ่ยังมีฐานะยากจน เนื่องจากราคาผลผลิตแปรปรวน ต้นทุนการผลิตมีการปรับราคาสูงขึ้น เช่น ปุ๋ยเคมี ยาปราบศัตรูพืช ส่งผลให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวมีต้นทุนสูงขึ้น ดังนั้น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน โดยการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา และการสร้างความเข้มแข็งจากการมีส่วนร่วมของเกษตรกรในพื้นที่ จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวให้ดำรงชีพอยู่ได้

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงมีมติเห็นชอบโครงการสนับสนุนปุ๋ยลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ในปีการผลิต 2567/68 โดยสนับสนุนปุ๋ยที่เหมาะสมตามความต้องการของเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ในรูปแบบ “ปุ๋ยคนละครึ่ง” (ภาครัฐและเกษตรกรจ่ายคนละครึ่ง) โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อสนับสนุนการลดต้นทุนการผลิตให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว โดยให้เกษตรกรมีส่วนร่วมในการซื้อปุ๋ย เพื่อเพิ่มโอกาสและบรรเทาความเดือดร้อนให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวเข้าถึงปัจจัยการผลิตให้สามารถดำรงชีพอยู่ได้

ทัังนี้ โครงการดังกล่าวจะสนับสนุนค่าปุ๋ยในอัตราปุ๋ยไร่ละ 50 กิโลกรัม ครัวเรือนละไม่เกิน 20 ไร่ (ไม่เกินครัวเรือนละ 1,000 กิโลกรัม) ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวที่จะปลูกข้าวในปีการผลิต 2567/68 ที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร โดยใช้จ่ายจากเงินทุน ธ.ก.ส. สำรองจ่ายการดำเนินงานตามความโครงการฯ 33,422.950 ล้านบาท และงบกลางรายการสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ปี 2567 จำนวน 108.006 ล้านบาท ซึ่งกรมการข้าว จะจัดทำข้อมูลเพื่อนำเสนอโครงการต่อคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) และเสนอคณะรัฐมนตรีเห็นชอบโครงการและงบประมาณต่อไป

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 เมษายน 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...