ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
อปท.เชิญเป็นแขก ย้อนกลับ
อัครเดชวงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์
15 ส.ค. 2565

การเลือกตั้งทั่วไปล่าสุดเมื่อปี 2562 กล่าวได้ว่า มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ ส.ส.หน้าใหม่ไฟแรงได้รับเลือกตั้งเข้ามาอย่างหนาตื แต่ก็น้อยนักที่บรรดา ส.ส.หน้าใหม่ไฟแรงเหลานี้จะถูกมอบหมายหน้าที่ให้ทำอย่างรอบด้าน ที่สำคัญยังมีหน้าที่เป็นกระบอกเสียงคนสำคัญให้กับพรรคการเมืองที่ตนเองสังกัดอยู่ด้วย

และหนึ่งในนั้นที่วันนี้ อปท.นิวส์เชิญเป็นแขกจะขอนำท่านผู้อ่านมาทำความรู้จักด้วยก็คือ ส.ส.จากจังหวัดราชบุรี เขต 4 ชื่อ อัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์หรือ ส.ส.“มุ่ง”จากค่ายพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ที่ได้รับการโหวตเข้ามาด้วยคะแนน 37,423 คะแนน ซึ่งปัจจุบันนอกจากจะทำหน้าที่เป็นรองโฆษกพรรคฯ แล้ว ในสภาผู้แทนราษฎร ส.ส.มุ่งยังเข้าไปทำหน้าที่อยากมามามายในคณะกรรมกาธิการ (กมธ.) สภาฯ หลายคณะ ไม่ว่าจะเป็นเลขานุการและโฆษกคณะกรรมาธิการ กมธ.การพาณิชย์และทรัพย์สินทางปัญญา สภาผู้แทนฯ, รองประธานคณะกรรมาธิการ กมธ. กิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน สภาผู้แทนฯ, โฆษกคณะกรรมาธิการ กมธ.วิสามัญ พิจารณาศึกษาแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) อย่างเป็นระบบ สภาผู้แทนฯ, โฆษกคณะกรรมาธิการ กมธ.วิสามัญ พิจารณาศึกษาการใช้เงินเพื่อแก้ไขผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโคโรนา2019, ประธานคณะอนุ กมธ.รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน สภาผู้แทนราษฎรและที่กำลังฮือฮาก็คือ กมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.)ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.

โดย “ส.ส.มุ่ง” ในวัย 45 ย่าง 46 ปี เริ่มบอกกับ อปท.นิวส์ว่า บ้านเกิดอยู่ที่บ้านห้วยกระบอก ตำบลกรับใหญ่ อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี เป็นบุตรของ วุฒิพงษ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ประธานบริษัทในเครือวงษ์พิทักษ์นักธุรกิจใหญ่แห่งเมืองราชบุนชรี และสมจิตต์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ โดยคุณพ่อเคยเป็นเกษตรกรชาวไร่อ้อยและผันตัวเองมาเปิดธุรกิจคอนกรีตในปัจจุบัน

ด้านการศึกษา ส.ส.มุ่ง บอกว่า เริ่มเรียนที่โรงเรียนดรุณาต่อมาที่โรงเรียนสามเสนวิทยาลัยกรุงเทพมหานคร ในระดับมัธยมปลาย และจบปริญญาตรีคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระหว่างนั้นยังเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมไทย-แคนาดา จบปริญญาโท MBA (บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต) วิทยาลัยบัณฑิตศึกษาการจัดการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น วิทยาเขตกรุงเทพมหานคร ก่อนที่จะไปทำงานวิศวกรเทคนิค บริษัทในเครือปูนซีเมนต์ไทย (SCG)เป็นเวลา 2 ปี ก่อนจะออกมาเพื่อดูแลธุรกิจครอบครัวบริษัทในเครือวงษ์พิทักษ์ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายคอนกรีตผสมเสร็จมาตรฐานสากล

“ผมได้มาช่วยเพื่อรองรับอุตสาหกรรมก่อสร้างภายในประเทศและการให้บริการลูกค้าอย่างครบถ้วน ตามความต้องการของหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน อาทิ งานก่อสร้างถนนต่างระดับสี่แยกบางแพ จังหวัดราชบุรี บ่อไบโอแก๊สของกรมส่งเสริมพลังงานทดแทน โรงงานกระเบื้องโอฬาร กรมชลประทาน การไฟฟาส่วนภูมิภาค โครงการก่อสร้างมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี วิทยาเขตราชบุรี เป็นการขยายธุรกิจของครอบครัวจนมั่นคง เป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงได้รับการยอมรับในระดับภูมิภาคตะวันตก”

ด้านเส้นทางทางการเมืองส.ส.มุ่ง บอกว่าหลังมีโอกาสได้รู้จักกับเพื่อนที่เป็น ส.ส.ชลบุรี ได้ชวนเข้าทำกิจกรรมทางการเมืองกับพรรคประชาธิปัตย์ สมัยนั้นก็ได้ทำหน้าที่เป็นคณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ก็ได้ไปช่วย ส.ส.สรวุฒิ เนื่องจำนงค์ ซึ่งเป็นเพื่อนที่เรียนที่จุฬาฯ มาด้วยกัน ในการช่วยหาเสียงในปี 2554 จน ส.ส.สรวุฒิ กลับมาเป็น ส.ส.สมัยที่ 2 ได้ในปีนั้น และก็ได้ช่วยงานในตำแหน่งรองประธานกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน สภาผู้แทนราษฎร โดยทำงานกับพรรคเรื่อยมา จนผู้ใหญ่ของพรรคได้ทาบทามให้มาลงผู้แทนในจังหวัดราชบุรี ที่อำเภอบ้านโป่งในปี 2556 ซึ่งก็ได้เลขาธิการพรรคในสมัยนั้นคือเฉลิมชัย ศรีอ่อน มาช่วยเปิดตัว พร้อมกับให้ลงเขตที่อำเภอบ้านโป่งซึ่งมีการลงพื้นที่มากว่า 5-6 ปี จนเข้าปี 2562 จึงได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ราชบุรีเขต 4

สำหรับแรงบันดาลใจการเข้าสู่แวดวงการเมือง ส.ส.มุ่ง บอกว่า หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เขาตัดสินใจเข้าสู่เส้นทางการเมือง คือ ส.ส.สรวุฒิ เนื่องจำนงค์ ซึ่งเป็นความช่วยเหลือของเพื่อน จึงได้สัมผัสประสบการณ์ทางการเมืองโดยตรงอีกสาเหตุคือคุณลุงเป็นนัการเมืองท้องถิ่นที่ชอบดูแลพี่น้องประชาชนประกอบกับตนเองก็มีความสนใจการเมืองอยู่แล้ว และเมื่อได้เข้ามาช่วยงานให้กับพรรคประชาธิปัตย์ตั้งแต่ปี 2553 เรื่อยมา ไม่ว่ากิจกรรมหาทุนของพรรค กิจกรรมสาขาพรรคต่างๆ ก็ได้รับความไว้วางใจให้มาลง ส.ส. ในที่สุด

“การเป็น ส.ส. คือเป็นตัวแทนของประชาชนเข้าไปทำหน้าที่ออกกฎหมายและตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล ซึ่งสิ่งสำคัญคือต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ดังเช่นการลงพื้นที่ทุกวัน ต้องอยู่กับพี่น้องประชาชนตลอดต้องทำให้ประชาชนเห็นว่าสามารถไว้ใจเราได้ว่าการที่เลือกเราที่ไม่ได้มีการซื้อเสียง เขาก็จะได้คนที่ทำงานจริงๆ พร้อมส่งเสริมระบบประชาธิปไตย ทำให้ตั้งแต่เป็น ส.ส. มาจึงทำงานหนักมากเสมอ นอกจากต้องทำหน้าที่นิติบัญญัติควบคุมบริหารราชการแผ่นดินแล้ว ยังต้องลงพื้นที่ตลอดเวลาอีกด้วย ถือเป็นบทพิสูจน์ให้ประชาชนได้มั่นใจว่าเลือกคนไม่ผิด”ส.ส.มุ่ง กล่าว

และผลจากการลงพื้นที่อย่างทำให้มีวิสัยทัศน์ถึงปัญหาประชาชนได้ดียิ่งขึ้น รู้จักปัญหา รู้จักพื้นที่ ของพี่น้องประชาชนได้อย่างแท้จริง นับเป็นจุดแข็งที่เมื่อได้มาเป็น ส.ส. ทำให้สามารถใช้กลไกสภาผู้แทนราษฎรในการทำงานแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชนได้เลย

“ถ้าคนไม่เคยลงพื้นที่เลย กว่าจะรู้ว่าตำบลหนึ่งมีกี่หมู่บ้าน กว่าจะรู้ว่าแต่ละหมู่บ้านอยู่ตรงไหน กว่าจะรู้ว่าพี่น้องประชาชนมีปัญหาอะไร กว่าจะรู้จักผู้นำ ผมว่า 4 ปี ก็หมดไปกับการศึกษาพื้นที่แล้ว แล้วจะทำงานได้อย่างไร การที่ผมมีผลงานเยอะ ก็มาจากการที่ลงพื้นที่ตลอดระยะเวลาตอนเป็น ส.ส.เป็นเวลา6 ปี ทำให้รู้ปัญหา รู้จักคน รู้จักพื้นที่ ทำให้ช่วงรณรงค์หาเสียง ใช้ข้อนี้เป็นตัวชูโรงในการรณรงค์หาเสียง และพี่น้องก็มั่นใจในสิ่งที่เราทำเพราะเขาเห็นว่าเราทำ”ส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าว

ส.ส.มุ่งยังกล่าวอีกว่า สิ่งสำคัญของการเป็น ส.ส.คือความตั้งใจในการทำหน้าที่ เมื่ออาสาจะทำก็ต้องทำดีเสมอต้นเสมอปลาย มีความอดทนมีความมุ่งมั่นทำงานเพื่อส่วนรวม และต้องยึดมั่นในคำพูด พูดอะไรแล้วต้องทำให้ได้

ส่วนการดำรงตำแหน่งกมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. (ฉบับที่...) พ.ศ... รัฐสภา ส.ส.มุ่ง บอกว่า ขอยืนยันว่าได้ทำหน้าที่เป็นไปตามกระบวนการทางรัฐสภา และในฐานะ กมธ.เสียงข้างน้อยและผู้ลงมติสนับสนุนหาร 500 คนไม่กังวลและเชื่อว่าสมาชิกรัฐสภาคนอื่นก็ไม่กังวลเช่นเดียวกัน เนื่องจากการลงมติเรื่องดังกล่าวเป็นเอกสิทธิของสมาชิกรัฐสภาที่รัฐธรรมนูญคุ้มครองและการลงมติดังกล่าวเป็นอิสระ ไม่มีการชี้นำ

“เรื่องของการแจกกล้วย ผมก็ไม่ทราบว่ามีจริงหรือไม่ สิ่งที่สำคัญก็คือนักการเมืองต้องใส่ใจต่อพี่น้องประชาขน ในระบบประชาธิปไตยสมาชิกผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้งมาจากพี่น้องประชาชน ก็ต้องทำตัวให้มีความน่าเชื่อถือ การแจกกล้วยถือเป็นภาพลักษณ์ที่ไม่ดีกับสภาผู้แทนราษฎร แต่เชื่อว่า ส.ส.ส่วนใหญ่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการแจกกล้วย  หรือถ้าจะมีก็เป็นส่วนน้อยเท่านั้น เพราะทุกสาขาอาชีพต้องมีทั้งคนดีและคนไม่ดี”ส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์กล่าว

 

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 เมษายน 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...