ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
อปท.เชิญเป็นแขก ย้อนกลับ
ยุทธนา ป่าไม้ ผู้อำนวยการเขตภาษีเจริญ
17 ธ.ค. 2564

นอกจากความมุ่งมั่นของหน่วยงานภาครัฐที่ต้องการให้บริการประชาชนอย่างแข็งขันแล้ว สิ่งสำคัญไม่แพ้กัน คือการปรับโครงสร้างทางสังคมให้มีความเหมาะสมและแข็งแรง เพื่อให้การพัฒนาเดินไปอย่างมีศักยภาพ เช่นเดียวกับยุทธนา ป่าไม้ ผู้อำนวยการเขตภาษีเจริญกรุงเทพมหานคร (กทม.) ที่มีหลักคิดและความเป็นผู้นำ ผ่านการบริหารและการบริการประชาชน ขณะเดียวกันก็ดูแลประชาชนเสมือนเครือญาติ ส่งผลให้การบริการประชาชนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จริงใจและเข้าถึงประชาชนอย่างแท้จริง

                อปท.นิวส์เชิญเป็นแขกฉบับนี้ จึงขอนำท่านผู้อ่านมาทำความรู้จักกับผู้อำนวยการ (ผอ.) เขตภาษีเจริญผู้นี้ โดยผอ.ยุทธนา เริ่มบอกกับเราว่าตัวเองเป็นเด็กเมืองกรุง (กรุงเทพฯ) ตั้งแต่เกิด แต่ไปเติบโตที่ภาคใต้ ทั้งที่จังหวัดสงขลาและจังหวัดนครศรีธรรมราช เนื่องจากที่บ้านทำสวนยางและสวนมะนาว จนเมื่ออายุ 6 ขวบจึงต้องเดินทางไปกลับระหว่างกรุงเทพฯ กับนครศรีธรรมราชโดยเรียนประถมศึกษาตอนต้น ชั้น ป. 1-ป. 4 จากโรงเรียนจารุศิลป์ ต่อประถมศึกษาตอนปลาย ชั้น ป.5-ป.7 จากโรงเรียนวัดประยุรวงศาวาส มัธยมศึกษาตอนต้น มศ. 1-3 และมัธยมศึกษาตอนปลาย มศ.  4-5 จากโรงเรียนวัดนวลนรดิศ เมื่อเข้าช่วงมหาวิทยาลัยมีความสนใจด้านกฎหมาย ทำให้ไปศึกษาและจบปริญญาตรีด้านนิติศาสตร์ในแหล่งผลิตบัณฑิตให้มีความรู้คู่คุณธรรม อย่างมหาวิทยาลัยรามคำแหงต่อมาก็ได้เรียนจบปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยเดียวกันในด้านรัฐศาสตร์

ผอ.ยุทธนา เล่าต่อไปว่า แม้ที่บ้านจะมีสวนยางและสวนมะนาว แต่ตัวเองมีความคิดว่าอยากจะนำความรู้ที่ได้ศึกษามาไปช่วยเหลือสังคมและมีความเชื่อว่าจะสามารถนำไปสร้างประโยชน์ต่อยอดในการช่วยเหลือและให้บริการประชาชนได้และนี่ก็คือปณิธานที่ทำให้ตัวเองก้าวเข้าสู่เส้นทางการรับราชการ เพราะต้องการเพื่อช่วยเหลือและบริการพี่น้องประชาชน ด้วยการน้อมนำศาสตร์พระราชา “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา”ของในหลวงรัชการที่ 9 มาเป็นอดุมการณ์ในการทำงานรับใช้บริการประชาชน

ด้วยการตัดสินใจในครั้งนั้นผอ.ยุทธนา จึงได้เริ่มต้นไปสอบเข้าฝ่ายจัดเก็บรายได้ที่จังหวัดพังงาเริ่มรับราชการ ครั้งแรก ณ สุขาภิบาลคุระบุรี อำเภอคุระบุรีจังหวัดพังงา ในตำแหน่งเจ้าหน้าที่จัดเก็บรายได้ 1 ตั้งแต่ ปี 2531-2532 รวมระยะเวลาประมาณเกือบ 2 ปี เป็นโอกาสให้ที่ทำให้ได้เข้าใจและมีความรู้เรื่องเกี่ยวกับภาษีต่างๆ เช่น ระบบประเมินภาษี การตรวจสอบภาษี การให้คำแนะนำและการบวกภาษี เป็นต้น หลังจากรับราชการอยู่ที่ต่างจังหวัด 2 ปี จึงได้มาสอบรับราชการที่กรุงเทพฯ ในตำแหน่งเจ้าพนักงานปกครอง ซึ่งก็ได้ดำรงตำแหน่งเจ้าพนักงานปกครอง 3 หมวดบัตรประจำตัวประชาชน ฝ่ายทะเบียน สำนักงานเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย 

“ซึ่งก็พบปัญหามากมาย ทั้งทำบัตรไม่ได้หรือไม่ได้ทำบัตร เราก็เข้าไปแก้ปัญหาให้ทำให้เข้าใจและเข้าถึงปัญหาของประชาชนมากขึ้น ตรงกับเจตนาในการทำงานของผมที่มีความต้องการแก้ปัญหาที่ประชาชนอาจไม่เข้าใจเนื่องจากอดีตก็เคยมีปัญหาเกี่ยวกับการทำบัตรมาก่อนเช่นกัน เลยอยากทำตำแหน่งดังกล่าวให้ดีที่สุด” ผอ.ยุทธนา กล่าว พร้อมกับบอกต่อไปว่า

ได้เก็บประสบการณ์จนปี 2557 จึงได้ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตคลองสาน และปี 2559 จึงได้ย้ายไปดำรงตำแหน่ง ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตพระนคร ต่อมาก็ได้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการเขตสัมพันธวงศ์ ซึ่งช่วงดำรงตำแหน่งได้ทำโครงการจัดระเบียบทางเท้าของ กทม. ในแหล่งท่องเที่ยวอย่าง “สตรีทฟู๊ดเยาวราช”ที่มีเป้าหมายในการรักษาความสะอาด สร้างความปลอดภัยในการช้อปสินค้าต่างๆ เป็นการปรับอัตลักษณ์ให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน มีเอกลักษณ์ความเป็นจีนมากขึ้น ก่อนที่ปีต่อมา ปี 2560 ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการสูง สำนักปลัดกรุงเทพมหานครจนปี 2561 จึงได้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการอีกครั้งที่เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ซึ่งก็ได้มีการทำ MOU กับโรงเรียนในพื้นที่ เพื่อให้การศึกษาดำเนินไปแบบบูรณาการจนได้ดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการเขตภาษีเจริญในปัจจุบัน

ด้วยหลักในการทำงาน ตามศาสตร์พระราชา “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา”จึงเริ่มการลงพื้นที่เพื่อตรวจเยี่ยมและพูดคุยกับผู้นำชุมชนและชาวชุมชนในพื้นที่ภาษีเจริญ เพื่อสอบถามปัญหาและความต้องการของชุมชน รวมถึงพูดคุยให้กำลังใจท่ามกลางวิกฤตโควิด-19 ณ ชุมชนนวมประดิษฐ์ และชุมชนเจริญวิถี เขตภาษีเจริญผ่านหลักคิดสำคัญคือมองประชาชนเหมือนคนในครอบครัว กล่าวคือ จะดูแลพี่น้องประชาชนเหมือนกันญาติพี่น้องของตน ซึ่ง ผอ.ยุทธนาได้ให้เหตุผลเอาไว้ว่า

“การดำเนินงานต่างๆ ถ้าเรามองว่าประชาชนเหมือนญาติ เราก็อยากที่จะช่วยเหลือเขาเหมือนกับญาติของเราเอง วันนี้ถึงเราไม่รู้จักเขาเลย แต่เขาก็คือญาติคือพี่น้องประชาชน ที่ควรได้รับความช่วยเหลือดูแลอันสมควรแก่เหตุ เพราะเชื่อได้ว่าพี่น้องประชาชนคงไม่มีใครอยากมา สน. อำเภอ หรือไปศาล เพราะทุกคนก็ไม่อยากมีคดี แต่เมื่อเขาก้าวย่างเข้ามาแล้ว แปลว่าเขาได้รับความเดือดร้อน สิ่งที่เราต้องทำในฐานะข้าราชการ เราก็ต้องดำเนินงานตามศาสตร์พระราชา”ผอ.เขตภาษีเจริญกล่าว

ผอ.ยุทธนา บอกอีกว่าหัวใจสำคัญของการดูแลและให้บริการประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ คือทุกคนต้องรู้หน้าที่ของตนและเป็นพลเมืองที่ดี อย่างไรก็ตาม การดำเนินการส่วนต่างๆ เหล่านี้เริ่มเสื่อมถอย ข้าราชการบางส่วนก็ไม่ได้ทำหน้าที่ที่ควรจะทำ

สำหรับภารกิจการลงพื้นที่ ที่ใครหลายคนอาจมองว่าเป็นงานปกติที่ต้องทำ แต่ ผอ.ยุทธนา บอกว่า มันเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การบริการประชาชนมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะการลงพื้นที่เป็นการไปตรวจสภาพความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนอย่างทั่วถึง ทั้งตรวจสอบสภาพแวดล้อมริมคลอง ดูแลถนนหนทางต่างๆ ที่อาจต้องมีการปรับปรุงพัฒนาพูดคุยสอบถาม รับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะต่างๆรวมถึงประชาสัมพันธ์ข่าวสารราชการ เช่น การเชิญชวนประชาชนในพื้นที่ที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนโควิด-19 เข็มที่ 1 ให้รีบไปรับวัคซีนกันได้ หรือแรงงานต่างด้าวก็สามารถไปฉีดวัคซีนโควิด-19 ได้ เช่นที่สถานีกลางบางซื่อ เปิดให้บริการฉีดวัคซีนทุกวัน โดยจองคิวผ่านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ พร้อมแจกเอกสารประชาสัมพันธ์ในเรื่องการดูแลสุขภาพ พร้อมกับหน้ากากอนามัย และเน้นย้ำให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด

ผอ.ยุทธนา บอกถึงการดูแลความสะอาดชุมชนในเขตภาษีเจริญ ด้วยการนำเจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความสะอาดฯ เจ้าหน้าที่ฝ่ายเทศกิจและจิตอาสา ร่วมทำกิจกรรม Big Cleaning Day ล้างถนนลดฝุ่นละอองในพื้นที่สำนักงานเขตภาษีเจริญ โดยจัดเจ้าหน้าที่ จำนวน 30 นาย และรถบรรทุกน้ำ 2 คัน ฉีดพ่นละอองน้ำในอากาศ รวมถึงฉีดล้างใบไม้ยืนต้นและไม้พุ่มเตี้ยริมถนน พร้อมทั้งล้างทำความสะอาดทางเท้า และป้ายรถประจำทางบริเวณถนนเพชรเกษม ตั้งแต่หน้ามหาวิทยาลัยสยาม ถึงสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสบางหว้า

นอกจากนี้ เพื่อให้การบริการประชาชนสอดคล้องกับยุควิถีใหม่ จึงต้องมีการปรับตัวใช้เทคโนโลยีส่งเสริมการบริการให้ประสิธิภาพมากขึ้น เลยได้จัดอบรมออนไลน์ ใช้ระบบลงนามเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ (e-Document Signing) ในการออกใบอนุญาตหรือต่อใบอนุญาตประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน ลดการเดินทางมาติดต่อราชการยังสำนักงานเขต จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.)

ด้านแนวทางในการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนเขตภาษีเจริญ ในฐานะผู้อำนวยการเขตภาษีเจริญวัย 59 ปี ได้เผยเป้าหมายอย่างหนักแน่นว่า เป้าหมายสำคัญหลังจากได้ดำรงตำแหน่ง คือการส่งเสริมการท่องเที่ยว เนื่องจากในเขตภาษีเจริญมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าส่งเสริมมากมาย ในเขตมีวัดถึง 27 วัด เป็นวัดที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานตั้งแต่สมัยรัตนโกสินทร์ เป็นมนต์เสน่ห์ที่จะทำให้นักท่องเที่ยวต้องการเดินทางมาสัมผัสประสบการณ์และซึมซับวัฒนธรรมแห่งประวัติศาสตร์ ตอนนี้ได้มีการประสานกับวัดต่างๆ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวแล้ว

            

                นอกจากนี้ ยังได้เปิดมุมมองไปถึงการท่องเที่ยวรูปแบบต่างๆ อาทิ การท่องเที่ยวทางน้ำ ที่มีความพร้อมที่จะรองรับนักท่องเที่ยว ซึ่งตอนนี้ได้มีการทำโครงการนำร่องด้านการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์บนแม่น้ำเจ้าพระยาสายเก่า เป็นการโยงถึงกันทั้งหมด 3 เขต ได้แก่ เขตธนบุรี เขตภาษีเจริญ และเขตบางกอกใหญ่ และการล่องเรือไหว้พระ 9 วัด ในเดือน ธันวาคม

                สำหรับแผนการเก็บรายได้ ก็ต้องปรับกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพเช่นกัน โดย ผอ.ยุทธนา เผยว่า เนื่องจากมีการปรับใช้กฎหมายในการเก็บภาษีที่ดินใหม่เป็น พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 2562 โดยในพ.ร.บ. ดังกล่าวมีการกำหนดเอาไว้ว่ารัฐจะต้องเป็นผู้แจ้งกับประชาชนให้เสียภาษี หากไม่แจ้งก็ไม่สามารถดำเนินการจัดเก็บภาษีได้ ด้วยเหตุนี้ จึงต้องสำรวจข้อมูลให้ครบถ้วน ปัจจุบันข้อมูลยังไม่ครบทั้งหมด ได้เพียง 65% อีก 35% กำลังอยู่ระหว่างเร่งรัด ซึ่งตรงนี้จะดำเนินการรวดเร็วอย่างเป็นรูปธรรมได้ ต้องได้ความร่วมมือจากผู้บริหารต่างๆ และนายอำเภอ ในการช่วยกันจัดการ เพราะหากปล่อยปะละเลยก็ไม่สามารถที่จะไปเก็บภาษีได้

                ผอ.ยุทธนา ถือเป็นข้าราชการต้นแบบสำคัญของประเทศไทย ที่ทำให้เห็นว่าหากต้องการให้บริการประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้น จะต้องมีความมุ่งมั่นและอุดมการณ์ที่ชัดเจนอย่างไร ซึ่งจะสะท้อนผ่านผลงานการให้บริการ ที่เข้าถึงและเข้าใจประชาชนอย่างแท้จริง

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 31 มีนาคม 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...