วัฒนธรรมจีนกับการค้าขายในสายเลือด จากรองศาสตราจารย์ ดร.หลี่ เหรินเหลียง ผู้เชี่ยวชาญจีนศึกษา นิด้า
เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2568 ผู้เข้าอบรมหลักสูตรผู้บริหารรุ่นใหม่ธุรกิจไทย–จีน รุ่นที่ 2 (Young Executive Program บทจ.2) ได้เข้ารับฟังการบรรยายจาก รองศาสตราจารย์ ดร.หลี่ เหรินเหลียง รองคณบดีฝ่ายวิชาการ คณะพัฒนาสังคมและยุทธศาสตร์การบริหาร สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ผู้เชี่ยวชาญด้านจีนศึกษา ประชาคมอาเซียนศึกษา และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ณ โรงแรมดิเอมเมอรัลด์ รัชดาฯ
หลักสูตรนี้จัดขึ้นโดยความร่วมมือของสถาบันสื่อและบริหารธุรกิจไทย–จีน สมาคมผู้สื่อข่าวไทย–จีน และหอการค้าไทย–จีน โดยได้รับการสนับสนุนจากสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย และ China Media Group เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ไทย–จีนอย่างยั่งยืน
หัวข้อการบรรยาย “วัฒนธรรมจีนกับการค้าขายในสายเลือด” ได้ชี้ให้เห็นถึงความย้อนแย้งทางประวัติศาสตร์ว่า เหตุใดสังคมจีนโบราณซึ่งเคยเหยียดหยามพ่อค้า กลับสร้างชนชาติที่มีชื่อเสียงด้านการค้าขายไปทั่วโลก
ดร.หลี่ เหรินเหลียง อธิบายว่า อุดมคติของชาวจีนโบราณคือการรับราชการ เป็นขุนนาง หรือการสอบจอหงวน ในขณะที่อาชีพพ่อค้าถูกมองว่าไร้เกียรติ อีกทั้งจีนยังเป็นประเทศเกษตรกรรมที่ให้คุณค่าสูงต่อการทำการเกษตร ขณะเดียวกัน ลัทธิขงจื๊อก็เน้นคุณธรรมมากกว่าการแสวงหากำไร ส่งผลให้พ่อค้าในอดีตถูกจำกัดสิทธิ์และถูกดูหมิ่น
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยทางสังคมทำให้ชาวจีนค่อยๆ พัฒนาความสามารถด้านการค้า ไม่ว่าจะเป็นการสั่งสมทักษะมาตั้งแต่สมัยโบราณ การที่ประชากรหนาแน่นจนต้องเลือกค้าขายเพื่อความอยู่รอด บทบาทของครอบครัวที่ร่วมมือกันทำธุรกิจ วัฒนธรรมที่ให้ความสำคัญกับประโยชน์ใช้สอยในทางปฏิบัติ รวมถึงอิทธิพลจากตะวันตกในช่วงปลายราชวงศ์ชิง จนถึงการปฏิรูปเศรษฐกิจ ทำให้พ่อค้าและผู้ประกอบการได้รับการยอมรับมากขึ้นในสังคม
นอกจากนี้ ผู้บรรยายยังได้วิเคราะห์ลักษณะการค้าของชาวจีนแต่ละภูมิภาค เช่น พ่อค้าจีนเหนือที่เน้นเครือข่ายและความสัมพันธ์ พ่อค้าจีนตะวันออกที่พิถีพิถันและสนใจนวัตกรรม พ่อค้าจีนตอนใต้ที่กล้าเสี่ยงและเชี่ยวชาญการค้าระหว่างประเทศ และพ่อค้าจีนทางตะวันตกเฉียงใต้ที่ดำเนินธุรกิจอย่างมั่นคงและอิงทรัพยากรท้องถิ่น
การบรรยายครั้งนี้ได้สะท้อนให้ผู้เข้าอบรมเข้าใจแก่นแท้วัฒนธรรมการค้าของจีนอย่างลึกซึ้ง ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับพันธมิตรชาวจีนในอนาคตอย่างยั่งยืน