เมื่อวันที่ (29 ส.ค. 68) การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) นำโดย นายสุขทัศน์ ต่างวิริยกุล รองผู้ว่าการด้านปฏิบัติการ พร้อมคณะผู้บริหาร กยท. ได้รับมอบหมายจาก ดร.เพิก เลิศวังพง รักษาการผู้ว่าการ กยท. เข้าพบผู้บริหารระดับสูง ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ติดตามความคืบหน้าโครงการนำไม้ยืนต้นยางพารามาใช้เป็นหลักประกัน
นายสุขทัศน์ ต่างวิริยกุล รองผู้ว่าการด้านปฏิบัติการ การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) กล่าวว่า ปัจจุบัน กยท. และ ธ.ก.ส. ได้เริ่มดำเนินการนำร่องโครงการฯ แล้วในพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู โดยมีเกษตรกรชาวสวนยาง 4 รายแรกที่ได้รับสินเชื่อสำเร็จเป็นที่เรียบร้อย โดยการดำเนินโครงการฯ นี้ แสดงให้เห็นว่าต้นยางพาราสามารถใช้เป็นหลักประกันทางการเงินได้จริง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน ควบคู่กับการช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรอย่างยั่งยืน สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ต้องการมุ่งขยายโอกาสให้เกษตรกรเข้าถึงสินเชื่อได้มากขึ้น
“กยท. เชื่อมั่นว่าโครงการฯ นี้เป็นอีกก้าวสำคัญในการยกระดับต้นยางพาราจากพืชเศรษฐกิจที่สร้างรายได้ สู่การเป็นสินทรัพย์ที่ช่วยเพิ่มโอกาสและความมั่นคงทางการเงินให้ชาวสวนยางอย่างแท้จริง” นายสุขทัศน์ กล่าวทิ้งท้าย สำหรับเกษตรกรชาวสวนยาง ที่สนใจเข้าร่วมโครงการฯ ต้องมีคุณสมบัติ อาทิ ต้องเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ต้นยางที่ปลูกในที่ดินมีเอกสารสิทธิ โดยต้นยางพาราต้องมีอายุตั้งแต่ 7 ปีขึ้นไป และมีขนาดเส้นรอบวงของลำต้นไม่น้อยกว่า 48 ซม. ที่ความสูง 170 ซม. จากพื้นดิน (เหนือรอยกรีด) เป็นต้น ทั้งนี้ ธ.ก.ส. ได้กำหนดวงเงินกู้ไม่เกินร้อยละ 50 ของวงเงินจดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจไม้ยืนต้นที่ธนาคารรับเป็นหลักประกัน