ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพิจารณากลั่นกรองการประกวดผ้าลายพระราชทาน “ผ้าลายสิริราชพัสตราภรณ์” และงานหัตถกรรม ระดับจังหวัด ประจำปี 2568
วันศุกร์ที่ 1 สิงหาคม 2568 เวลา 13.30 น. ณ ห้องศรีรัตน ชั้น 2 โรงแรมรัตนชล อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพิจารณากลั่นกรองการประกวดผ้าลายพระราชทาน “ผ้าลายสิริราชพัสตราภรณ์” และงานหัตถกรรม ระดับจังหวัด ประจำปี 2568 โดยมี นางสาวประภัสรา ศรีทอง ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดชลบุรี นางสาวขวัญเรือน ศรีจันทร์ ปลัดจังหวัดชลบุรี นายวรนัฐ ติรประเสริฐสิน พัฒนาการจังหวัดชลบุรี นางสุกุมล คุณปลื้ม ประธานคณะกรรมการพัฒนาสตรีภาคกลาง หัวหน้าส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการประชุมฯ
ด้วยกระทรวงมหาดไทย โดยกรมการพัฒนาชุมชน ได้จัดทำโครงการส่งเสริมภูมิปัญญาผ้าไทย และดำเนินการเผยแพร่ลายผ้าพระราชทาน “ผ้าลายสิริราชพัสตราภรณ์” ซึ่งสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา พระราชทานพระดำริให้นำลวดลายผ้าไทยมาพัฒนาต่อยอดสู่ความร่วมสมัย สามารถใช้ได้ในชีวิตประจำวันและเวทีสากล ภายใต้แนวคิด "ผ้าไทยใส่ให้สนุก" โดย ปลัดกระทรวงมหาดไทยได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด เผยแพร่ลายผ้าพระราชทานให้กลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ช่างทอผ้า และช่างหัตถกรรม นำไปสร้างสรรค์ผลงาน สร้างอัตลักษณ์ และเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น
โดยจังหวัดชลบุรี ได้จัดให้มีการประกวดผ้าลายพระราชทาน “ผ้าลายสิริราชพัสตราภรณ์” และงานหัตถกรรม ระดับจังหวัด ประจำปี 2568 ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ช่างทอผ้า และช่างหัตถกรรมในจังหวัด เข้าร่วมส่งผลงานเข้าประกวด ซึ่งในปีนี้มีผลงานส่งเข้าร่วมทั้งสิ้น 57 ชิ้นงาน แบ่งออกเป็น ประเภทงานหัตถกรรม 5 ชิ้น, ประเภทผ้ามัดหมี่ (2 ตะกอ / 3 ตะกอขึ้นไป) 6 ผืน, ประเภทเทคนิคสร้างสรรค์ 8 ผืน และประเภทบาติก มัดย้อม เขียนเทียน 38 ผืน
จากการประชุมคณะกรรมการฯ ในครั้งนี้ ได้มีการพิจารณาคัดเลือกผลงานที่มีความโดดเด่น เหมาะสมตามเกณฑ์ที่กำหนด ซึ่งมีจำนวนทั้งสิ้น 37 ชิ้นงาน ที่ผ่านการคัดเลือกเพื่อส่งเข้าประกวดในระดับภาคและระดับประเทศต่อไป
การจัดกิจกรรมฯ ดังกล่าว ไม่เพียงแต่เป็นเวทีเชิดชูเกียรติแก่ผู้อนุรักษ์และสืบสานภูมิปัญญาผ้าไทยและงานหัตถกรรมเท่านั้น แต่ยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก สร้างรายได้ให้แก่ชุมชน และส่งเสริมให้ผ้าไทยกลายเป็นที่นิยมในทุกเพศทุกวัย ทุกโอกาส อีกด้วย