สวัสดีครับพี่น้องชาว อปท.นิวส์ ทุกท่าน วันนี้ผม อ.ดร.ต้นรัก ธวัชชัย สุขสีดา ในฐานะที่ปรึกษาอนุกรรมาธิการศึกษาการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมให้เท่าทันต่อโลกดิจิทัล ขออาสาพามาทำความรู้จักกับสิ่งที่เรียกว่า "ปัญญาประดิษฐ์" หรือ AI ที่หลายคนอาจจะเคยได้ยินแต่รู้สึกว่าไกลตัวเหลือเกิน แท้จริงแล้ว AI ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป แต่ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเราอย่างที่เราไม่ทันรู้ตัวด้วยซ้ำ
               AI คืออะไร? ทำไมต้องสนใจ...? AI ย่อมาจาก Artificial Intelligence หรือปัญญาประดิษฐ์ พูดง่ายๆ คือ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ถูกพัฒนาให้มีความสามารถคล้ายสมองมนุษย์ คิด วิเคราะห์ เรียนรู้ และตัดสินใจได้ โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยให้ชีวิตของเราสะดวกสบายขึ้น ทำงานได้รวดเร็วขึ้น และแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนได้

               ปัจจุบัน AI ไม่ได้อยู่แค่ในห้องทดลองหรือภาพยนตร์ไซไฟ แต่เข้ามาอยู่ในมือถือของเรา ในรถยนต์ของเรา ในบ้านของเรา และในบริการต่างๆ ที่เราใช้ทุกวัน การเรียนรู้และเข้าใจการใช้ AI จะช่วยให้เราใช้ชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และไม่ตกยุคในโลกดิจิทัลที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็วนี้ครับ
               ซึ่ง AI อยู่รอบตัวเรามากกว่าที่คิด ลองนึกภาพตามนะครับว่าในแต่ละวันเราเจอ AI ที่ไหนบ้าง ทั้งบนสมาร์ทโฟน ไม่ว่าจะเป็นระบบช่วยสะกดคำอัตโนมัติ (Autocorrect) การแนะนำภาพยนตร์หรือเพลงที่คุณน่าจะชอบจากแอปพลิเคชันสตรีมมิ่ง การสั่งงานด้วยเสียงอย่าง "สวัสดี Siri" หรือ "โอเค Google" รวมถึงการจัดเรียงรูปภาพในคลังภาพตามใบหน้าหรือสถานที่ ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นผลงานของ AI ที่ช่วยให้การใช้งานมือถือของเราง่ายขึ้น
               อีกทั้งการเดินทาง โดยแอปแผนที่นำทางที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ ใช้ AI ในการวิเคราะห์สภาพจราจรแบบเรียลไทม์ เพื่อแนะนำเส้นทางที่เร็วที่สุดให้คุณหลีกเลี่ยงรถติด หรือแม้แต่การเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน ก็มี AI คอยจับคู่ผู้โดยสารกับคนขับที่อยู่ใกล้ที่สุด

               รวมถึงการจับจ่ายใช้สอย เมื่อคุณเลือกซื้อสินค้าออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือ เสื้อผ้า หรือของใช้ต่างๆ AI จะช่วยแนะนำสินค้าที่คุณอาจจะสนใจจากประวัติการซื้อหรือการค้นหาของคุณ ทำให้คุณเจอสินค้าที่ถูกใจได้ง่ายขึ้น
               แม้แต่ในบ้านของเรา ลองดูที่ สมาร์ททีวี ของคุณสิครับ การแนะนำรายการโปรด หรือการสั่งงานด้วยเสียง ก็ใช้ AI ทั้งนั้น หรือแม้กระทั่ง เครื่องปรับอากาศอัจฉริยะ ที่สามารถเรียนรู้พฤติกรรมการใช้งานของคุณเพื่อปรับอุณหภูมิให้เหมาะสมและประหยัดพลังงาน
               แถมเรายังใช้ AI มาช่วยเรื่องความปลอดภัยด้วย โดยเฉพาะระบบกล้องวงจรปิดอัจฉริยะที่สามารถแจ้งเตือนเมื่อตรวจพบความผิดปกติ หรือระบบการสแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อกโทรศัพท์ ก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของการนำ AI มาใช้เพื่อความปลอดภัย
               คำถามที่สำคัญคือ วันนี้เราจะใช้ AI อย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุดในชีวิตประจำวันเรา...?
ผมในฐานะประชาชนทั่วไปคนหนึ่ง เราไม่จำเป็นต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน AI แต่การรู้เท่าทันและนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันจะช่วยให้เราได้รับประโยชน์มากมายครับ เริ่มต้นด้วยเรียนรู้และลองใช้ อย่ากลัวที่จะลองใช้ฟังก์ชันหรือแอปพลิเคชันใหม่ๆ ที่มี AI เป็นส่วนประกอบ ลองสั่งงานด้วยเสียงกับโทรศัพท์ของคุณ หรือลองค้นหาสินค้าที่อยากได้ผ่านการแนะนำของแอปพลิเคชัน ตามด้วยใช้ AI เป็นผู้ช่วยส่วนตัว โดยให้ AI ช่วยเตือนความจำ จัดการตารางงาน หรือแม้กระทั่งช่วยแปลภาษาเวลาที่คุณไปต่างประเทศ ให้ติดตามข่าวสาร เพราะโลกของ AI ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว การติดตามข่าวสารหรือบทความเกี่ยวกับ AI จะช่วยให้คุณไม่ตกเทรนด์และรู้ว่ามีเทคโนโลยีใหม่ๆ อะไรบ้างที่จะเข้ามาช่วยให้ชีวิตของคุณดีขึ้น แต่ต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง แม้ AI จะมีประโยชน์มาก แต่เราก็ควรใช้ด้วยความระมัดระวัง ไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวที่ไม่จำเป็น และตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลที่ได้จาก AI เสมอ
               สุดท้ายนี้ผมอยากจะบอกทุกท่านว่า AI กำลังเปลี่ยนโลกของเรา และเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของทุกคนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การทำความเข้าใจและเรียนรู้ที่จะใช้ประโยชน์จาก AI ไม่เพียงแต่จะช่วยให้ชีวิตของเราสะดวกสบายขึ้น แต่ยังเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับการเป็นพลเมืองในโลกยุคดิจิทัลอย่างแท้จริงครับ หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับพี่น้องชาว อปท.นิวส์ ทุกท่านนะครับ หากมีข้อสงสัยหรืออยากพูดคุยเพิ่มเติม ยินดีเสมอครับด้วยความเคารพ อ.ดร.ต้นรัก ธวัชชัย สุขสีดา