เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2568 ณ นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ได้เข้าพบหารือกับ Dr. Tedros Adhanom Ghebreyesus เลขาธิการองค์การอนามัยโลก (WHO) ในห้วงการประชุมสหประชาชาติ ครั้งที่ 9 ว่าด้วยการแข่งขันทางการค้าและการคุ้มครองผู้บริโภคซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 7–11 กรกฎาคม 2568 เพื่อแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและขับเคลื่อนความร่วมมือในการคุ้มครองสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนจากภัยร้ายของบุหรี่ไฟฟ้า ในการหารือครั้งนี้ เลขาธิการองค์การอนามัยโลก ได้แสดงความชื่นชมระบบสาธารณสุขของประเทศไทย โดยเฉพาะนโยบาย “หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า” หรือที่รู้จักกันดีว่า “30 บาทรักษาทุกโรค” ซึ่งสามารถเข้าถึงประชาชนในทุกระดับ และถือเป็นต้นแบบที่หลายประเทศนำไปศึกษาและประยุกต์ใช้ โดยเห็นว่าประเทศไทยมีศักยภาพสูงในการขับเคลื่อนนโยบายเพื่อยกระดับสุขภาวะของประชาชน นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้หยิบยกประเด็นที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่งในปัจจุบัน คือ “การแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าในกลุ่มเด็กและเยาวชน” ซึ่ง Dr. Tedros ได้เน้นย้ำว่า ขณะนี้บริษัทผู้ผลิตบุหรี่ไฟฟ้ามีการพัฒนาและทำการตลาดด้วยรสชาติ สีสัน และรูปแบบที่จงใจดึงดูดกลุ่มเยาวชน อีกทั้งในบางประเทศยังมีการวางจำหน่ายใกล้สถานศึกษา ส่งผลให้เยาวชนมีแนวโน้มใช้บุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แสดงจุดยืนของรัฐบาลไทยที่ให้ความสำคัญกับการป้องกันและปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้า โดยดำเนินมาตรการเชิงรุก ทั้งด้านการสกัดกั้นการลักลอบนำเข้า การตรวจสอบและดำเนินคดีร้านค้าที่จำหน่ายทั้งหน้าร้านและออนไลน์ ตลอดจนการสื่อสารรณรงค์ในสถานศึกษา เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ และปลูกจิตสำนึกให้เด็กและเยาวชนตระหนักถึงพิษภัยของบุหรี่ไฟฟ้า “การคุ้มครองผู้บริโภคและการดูแลสุขภาวะของประชาชนเป็นภารกิจร่วมกันของทุกภาคส่วน” นางสาวจิราพรฯ กล่าว พร้อมย้ำว่า สคบ. พร้อมเดินหน้าเสริมสร้างความร่วมมือกับองค์การอนามัยโลกทั้งในระดับประเทศและภูมิภาค โดยเฉพาะในยุคดิจิทัลที่ผู้บริโภคต้องเผชิญกับความเสี่ยงจากสินค้าและบริการใหม่ ๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพโดยตรง ทั้งนี้ การหารือดังกล่าวถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการผลักดันนโยบายเชิงป้องกัน เพื่อสร้างสังคมไทยที่เข้มแข็ง ปลอดภัย และมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน “ประเทศไทยยืนหยัดเคียงข้าง WHO ในการดูแลสุขภาพประชาชนทุกช่วงวัย โดยเฉพาะเยาวชนซึ่งเป็นอนาคตของชาติ” และ สคบ. พร้อมเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการคุ้มครองผู้บริโภค เพื่อสุขภาวะที่ดีของคนไทยทุกคน