สวัสดีครับ วันนี้เราจะมาคุยกันเรื่องใกล้ตัวแต่สำคัญมากในยุคนี้ นั่นคือ "Generative AI" หรือที่เรียกง่ายๆ ว่า "ปัญญาประดิษฐ์สร้างสรรค์" หลายคนอาจจะเคยได้ยินคำนี้ หรืออาจจะเคยเห็นผ่านตามาบ้างแล้วในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพสวยๆ ที่เหมือนจริง เสียงเพลงที่น่าฟัง หรือแม้แต่ข้อความที่ดูเหมือนคนเขียนเอง
แล้ว Generative AI คืออะไรกันแน่...?อธิบายให้เข้าใจง่ายๆ มันก็คือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ฉลาดมากๆ ที่สามารถ "สร้าง" สิ่งใหม่ๆ ขึ้นมาได้เอง ไม่ใช่แค่ทำตามคำสั่งแบบเดิมๆ เหมือนที่เราเคยเห็นคอมพิวเตอร์ทำ แต่สามารถคิดและสร้างงานศิลปะ เรื่องราว เพลง หรือแม้แต่รูปภาพคนที่ไม่เคยมีอยู่จริงได้ด้วยตัวมันเอง นี่คือความพิเศษของ“ปัญญาประดิษฐ์สร้างสรรค์" ครับ
ซึ่งแน่นอนว่าประโยชน์ที่ Generative AI มอบให้มีมากมายมหาศาลครับ มันสามารถช่วยให้เราทำงานได้เร็วขึ้น สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ได้ง่ายขึ้น เช่น:
สร้างภาพสวยๆ หรือออกแบบสินค้า: สำหรับพี่น้องที่ทำธุรกิจเล็กๆ ก็อาจจะใช้ AI ช่วยออกแบบโลโก้ หรือสร้างภาพสินค้าสวยๆ ได้
เขียนข้อความหรือบทความ: ช่วยให้คนทั่วไปสามารถเขียนข้อความ โพสต์ลงโซเชียลมีเดีย หรือแม้แต่เขียนรายงานสั้นๆ ได้อย่างรวดเร็ว
สร้างเพลงหรือเสียง: สำหรับคนที่ชอบดนตรี ก็อาจจะใช้ AI สร้างท่วงทำนอง หรือสร้างเสียงประกอบต่างๆ ได้
เป็นเครื่องมือช่วยในการเรียนรู้: เด็กๆ หรือแม้แต่ผู้ใหญ่ก็สามารถใช้ AI ในการค้นหาข้อมูล หรือสรุปเนื้อหาที่ซับซ้อนให้เข้าใจง่ายขึ้น
แต่สิ่งที่ต้อง "ระวัง" และ “รู้เท่าทัน"แม้ Generative AI จะมีประโยชน์มาก แต่ก็เหมือนเหรียญที่มีสองด้านครับ มีสิ่งที่เราต้องระวังและรู้เท่าทัน เพื่อป้องกันไม่ให้เราตกเป็นเหยื่อ หรือถูกหลอกได้ง่ายๆ โดยเฉพาะในยุคที่ข้อมูลข่าวสารไหลเวียนรวดเร็วแบบนี้
1. ข้อมูลปลอม หรือ "Deepfake": นี่คือสิ่งที่อันตรายที่สุดอย่างหนึ่งที่ Generative AI สามารถทำได้ มันสามารถสร้างภาพหรือวิดีโอที่เหมือนจริงมากๆ โดยเฉพาะภาพบุคคลสำคัญ หรือสร้างเสียงพูดของคนดังได้อย่างแนบเนียน จนบางทีเราอาจแยกไม่ออกว่าอันไหนจริง อันไหนปลอม สิ่งนี้ถูกนำไปใช้ในการสร้างข่าวปลอม ทำให้คนเข้าใจผิด หรือแม้แต่ใช้ในการฉ้อโกงครับ
ซึ่งสิ่งที่เราต้องทำ"อย่าเพิ่งเชื่อทันที" หากเห็นภาพ วิดีโอ หรือได้ยินเสียงแปลกๆ ที่ดูน่าตกใจ หรือน่าสงสัย ให้ตรวจสอบแหล่งที่มาของข้อมูลเสมอ และพยายามหาข้อมูลจากหลายๆ ที่เพื่อเปรียบเทียบ
2. ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องหรือไม่เป็นกลาง: Generative AI เรียนรู้ข้อมูลจากสิ่งที่มีอยู่บนอินเทอร์เน็ต ซึ่งบางครั้งข้อมูลเหล่านั้นอาจจะไม่ถูกต้อง ไม่ครบถ้วน หรือมีอคติได้ เมื่อ AI สร้างข้อความหรือข้อมูลออกมา มันก็อาจจะเอาข้อผิดพลาดหรืออคตินั้นมาด้วย
ซึ่งสิ่งที่เราต้องทำ: "ตรวจสอบความถูกต้อง" หาก Generative AI ให้ข้อมูลอะไรมา อย่าเพิ่งปักใจเชื่อ 100% ควรค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ เช่น เว็บไซต์ราชการ สถาบันการศึกษา หรือข่าวจากสำนักข่าวที่น่าเชื่อถือ
3. ปัญหาด้านลิขสิทธิ์และการขโมยผลงาน: บางครั้ง Generative AI อาจจะไป "เรียนรู้" จากผลงานของคนอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต แล้วนำมา "สร้างสรรค์" เป็นผลงานใหม่ที่คล้ายคลึงกัน ทำให้เกิดปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์ได้
ซึ่งสิ่งที่เราต้องทำ: หากเราใช้ Generative AI ในการสร้างผลงาน ควรตรวจสอบให้ดีว่างานที่สร้างขึ้นมานั้นไม่ได้ไปละเมิดลิขสิทธิ์ของใคร และถ้าจะนำไปเผยแพร่ ควรระบุแหล่งที่มาว่าสร้างโดย AI
4. การลดทอนความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์: หากเราพึ่งพา Generative AI มากเกินไป อาจทำให้เราไม่ได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ของตัวเองเท่าที่ควร และทักษะบางอย่างของเราก็อาจจะลดลงได้
ซึ่งสิ่งที่เราต้องทำ: ใช้ Generative AI เป็น "เครื่องมือช่วย" ไม่ใช่ให้มันทำทุกอย่างแทนเราทั้งหมด ยังคงต้องใช้ความคิดและวิจารณญาณของเราเองเป็นหลัก
กล่าวโดยสรุปได้ว่า Generative AI เป็นเทคโนโลยีที่น่าทึ่ง และจะเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้นเรื่อยๆ ครับ สิ่งสำคัญที่สุดคือ "เราต้องเป็นผู้ควบคุม" ไม่ใช่ให้เทคโนโลยีมาควบคุมเราจำไว้ว่า
1. เราต้องมีสติและคิดวิเคราะห์ก่อนเชื่อโดยเฉพาะข่าวสารที่ดูเกินจริง หรือน่าตกใจ
2. เราต้องตรวจสอบแหล่งที่มาหากไม่แน่ใจ อย่าเพิ่งกดแชร์
3. เราต้องเรียนรู้และปรับตัวยิ่งเรารู้จักเทคโนโลยีมากเท่าไหร่ เราก็จะยิ่งใช้มันได้อย่างชาญฉลาดและปลอดภัยมากขึ้นเท่านั้น
หากเราทุกคนรู้เท่าทันและใช้เจ้า “ปัญญาประดิษฐ์สร้างสรรค์" Generative AI อย่างมีวิจารณญาณ มันจะเป็นประโยชน์ต่อชีวิตของเรา และช่วยให้เราก้าวทันโลกยุคใหม่ได้อย่างมั่นใจครับ
ภาพประกอบจาก freepik : Pikisuperstar