ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
ท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ ย้อนกลับ
กทม. นำร่อง 72 แยก ดึงเทคโนโลยีสัญญานไฟจราจร Adaptive Control
06 พ.ค. 2568

กทม. ดึงเทคโนโลยีสัญญานไฟจราจร Adaptive Control เปลี่ยนอัตโนมือ เป็นอัตโนมัติ นำร่อง 72 แยก เพื่อคนกรุงเทพฯ เดินทางดี

วานนี้ (5 พ.ค. 68) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้บริหารสำนักการจราจรและขนส่ง ลงพื้นที่บริเวณถนนสุขุมวิท 101/1 ส่องระบบสัญญานไฟจราจรอัตโนมัติ Adaptive Control หรือการปรับสัญญาณไฟตามปริมาณการจราจร
ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวว่า ปัจจุบันสัญญาณไฟจราจรในกรุงเทพมหานครมีประมาณ 500 แยก ซึ่งเป็นระบบอัตโนมือ คือ ให้ตำรวจเป็นคนกดสัญญาณไฟตามสภาพการจราจรที่เห็น หรือตั้งเวลาไว้ หากเราเห็นสัญญาณไฟที่เมื่อแดงปุ๊บแล้วมีการนับถอยหลังเลยจะเป็นแบบตั้งเวลาไว้ ไม่ได้ปรับตามสภาพการจราจร ซึ่งแบบนี้บางครั้งรถโล่งแต่ยังเป็นไฟเขียวอยู่ แต่ฝั่งที่เป็นไฟแดงรถติดยาว หรือหากเป็นตำรวจกดเองก็อาจไม่เห็นสภาพการจราจรทั้งหมด

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวต่อว่า ตอนนี้จึงมีการติดตั้งระบบ Adaptive Control โดยเป็นการใช้กล้องวัดปริมาณจราจร และใช้คอมพิวเตอร์คำนวณว่าจะปล่อยรถอย่างไรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งขณะนี้ติดตั้งไปแล้ว 72 แยก ตามแนวถนนสุขุมวิท แนวถนนเพชรบุรี แนวถนนพระรามสี่ แนวถนนพหลโยธิน และบริเวณย่านสีลม โดยมีแผนจะติดตั้งเพิ่มอีก 200 แยก ในปีหน้า

ทั้งนี้ จากการนำร่องทดลองใช้ระบบ Adaptive Control พบว่า ในช่วงที่ไม่ใช่ชั่วโมงเร่งด่วนการจราจรดีขึ้นประมาณ 15% ส่วนในชั่วโมงเร่งด่วนอยู่ระหว่างเก็บข้อมูลกับทางตำรวจ อาจมีบางแยกที่รถติดหนักมากก็ต้องใช้ตำรวจมากดสัญญาณไฟ ซึ่งต้องดูความเหมาะสมประสานทั้ง 2 ระบบควบคู่กัน

“การปรับสัญญาณไฟตามปริมาณรถ บางครั้งเราบอกล่วงหน้าไม่ได้เพราะเราไม่รู้ว่ารถจะหมดเมื่อไหร่ อาจจะเห็นแค่ 5 วินาทีสุดท้ายแต่ไม่เห็นทั้งช่วง แต่สิ่งสำคัญคือระเบียบวินัยจราจร เทคโนโลยีอะไรฉลาดแค่ไหนก็ช่วยไม่ได้ถ้าคนไม่ปฏิบัติตามกฎ ไม่มีวินัยจราจร” ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าว

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 1 - 15 พฤษภาคม 2568
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
21 เม.ย. 2568
“กีฬา ... กีฬา ... เป็นยาวิเศษ” ส่วนหนึ่งของคำประพันธ์ที่นำมาร้องกันในสมัยก่อน หรืออาจจะร่วมถึงในยุคสมัยนี้ด้วยก็คงไม่ผิด และแน่นอนความหมายของนั้นก็คือ การเล่นกีฬา การออกกำลังกายนั้น มีคุณประโยชน์ต่อร่างกายเปรียบเสมือนเกราะป้องกันโรคภัยของเรานั่นเอ...