ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
พลังงาน / สิ่งแวดล้อม ย้อนกลับ
ทช.จัดดำน้ำเพื่อการอนุรักษ์ฟื้นฟูปะการังอ่าวป่าตอง
20 พ.ย. 2565

กรมทะเลและชายฝั่ง ผนึกกำลัง เอ็มซีเอ็ม คอมมูนิเคชั่น และจังหวัดภูเก็ต จัดโครงการ Go Green Active กิจกรรมดำน้ำเพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูปะการังอ่าวป่าตอง

    นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) เป็นหน่วยงานหลักที่มีหน้าที่ดูแลทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ไม่ว่าจะเป็นป่าชายเลน หญ้าทะเล ชายหาด เกาะแก่งต่างๆ รวมทั้งพื้นที่ระบบนิเวศชายฝั่งทะเลที่สำคัญ โดยเฉพาะแนวปะการังซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่อาศัย หลบภัย ของสัตว์น้ำนานาชนิด แหล่งอนุบาลสัตว์น้ำวัยอ่อน และแหล่งท่องเที่ยวดำน้ำที่ถือเป็นส่วนหนึ่งในการดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวทะเล ดังนั้น กรมฯ ได้มีแนวคิดที่จะยกระดับการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งของประเทศไทยให้เกิดความยั่งยืน จึงจับมือกับบริษัท เอ็มซีเอ็ม คอมมูนิเคชั่น จำกัด ริเริ่มโครงการ Go Green Active กิจกรรมดำน้ำเพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูปะการังอ่าวป่าตอง โดยมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2565 ณ บริเวณหาดป่าตอง อำเภอกระทู้ จังหวัดภูเก็ต สำหรับการจัดงานในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมซึ่งส่งผลในเชิงสุขภาพ สร้างจิตสำนึกให้กับนักท่องเที่ยว ประชาชน ผู้ประกอบการในการลดปริมาณขยะ เพื่อลดสภาวะโลกร้อน และให้เห็นคุณค่าของการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีจิตสำนึก รวมทั้งสร้างทัศนคติในการใช้ทรัพยากรสิ่งแวดล้อมอย่างรับผิดชอบ สำหรับการจัดกิจกรรมดังกล่าว ถือเป็นหนทางหนึ่งในการสร้างจิตสำนึกที่ยั่งยืน ทำให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมผ่านเครือข่ายผู้เข้าร่วมกิจกรรมที่มีความชื่นชอบในการดำน้ำในพื้นที่ธรรมชาติ พร้อมทั้งเป็นกระบอกเสียงประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้และเข้าใจในการปฏิบัติภารกิจกอบกู้มหาสมุทรผ่านการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน ยกระดับกิจกรรมดำน้ำเพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล รวมถึงสร้างรายได้ให้ผู้ประกอบการและประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ส่งเสริมการสร้างทัศนคติในการอยู่ร่วมกันในสิ่งแวดล้อมอย่างมีความรับผิดชอบตามหลักแนวคิด Go Green เพื่อลดปริมาณการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและบำบัดสิ่งแวดล้อมด้วยการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
     นายอรรถพล กล่าวต่อว่า ในวันนี้ (19 พฤศจิกายน 2565) ตนได้นำทีมผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ร่วมโครงการ Go Green Active กิจกรรมดำน้ำเพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูปะการังอ่าวป่าตอง ซึ่งภายในงานได้มีการจัดกิจกรรมต่างๆ อาทิ การจัดนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับการอนุรักษ์ธรรมชาติทางทะเล การจัดแสดงงานศิลปะจากขยะรีไซเคิล การแข่งขันดำน้ำชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา หรือ Open Water Princess Cup กิจกรรมดำน้ำเก็บขยะในแนวปะการัง เก็บขยะใต้ทะเล ชายหาด การดำน้ำปลูกฟื้นฟูปะการังโดยการเก็บชิ้นส่วนปะการังที่แตกหัก และกิจกรรมดำน้ำติดตั้งซ่อมแซมทุ่นสำหรับผูกจอดเรือแทนการทิ้งสมอป้องกันไม่ให้ทิ้งสมอบนแนวปะการัง เป็นต้น พร้อมกันนี้ กรมฯ ได้เชิญนักดำน้ำอาสาสมัครของกรมฯ จำนวน 250 คน พร้อมทั้งสนับสนุนยานพาหนะสำหรับอาสาสมัครเครือข่ายนักดำน้ำ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ที่มีความชำนาญและมีประสบการณ์ในการดำน้ำเพื่อการอนุรักษ์ เรือยาง เรือ Diving Boat พลขับ อาหาร อุปกรณ์ดำน้ำ และทุ่นลอยเพื่อความปลอดภัยของนักดำน้ำและกำหนดจุดดำน้ำเพื่อการอนุรักษ์ปะการัง
     ทั้งนี้ ได้มีนักดำน้ำและอาสาสมัครของกรมฯ เข้าร่วมกิจกรรมรวมจำนวน 315 คน ร่วมกันดำน้ำ 60 จุด ครอบคลุมพื้นที่แนวปะการัง 400 ไร่ โดยภายหลังเสร็จสิ้นกิจกรรม นักดำน้ำอาสาสมัครสามารถเก็บขยะทะเลรวมน้ำหนักทั้งสิ้น 2000 กก. พร้อมกันนี้ กรมฯ ได้มอบใบประกาศเกียรติบัตรแก่นักดำน้ำอาสาสมัครในโอกาสที่ร่วมกันทำคุณประโยชน์ต่อทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณทางเอ็มซีเอ็ม คอมมูนิเคชั่น จังหวัดภูเก็ต เทศบาลเมืองป่าตอง นักดำน้ำอาสาสมัคร และประชาชนในพื้นที่ที่ร่วมกันดำเนินโครงการ Go Green Active กิจกรรมดำน้ำเพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูปะการังอ่าวป่าตองจนประสบความสำเร็จ โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการจัดกิจกรรมในครั้งนี้จะเป็นกระบอกเสียงที่สามารถสร้างจุดเปลี่ยนและสร้างจิตสำนึกของประชาชนให้หันมาใส่ใจในสิ่งแวดล้อม อีกทั้งสร้างความประทับใจและประสบการณ์ที่ดีต่อนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศอีกด้วย “นายอรรถพล กล่าวทิ้งท้าย”
     พลเรือโท อาภากร อยู่คงแก้ว ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 กล่าวว่า ตนรู้สึกเป็นเกียติที่ได้เป็นประธานเปิดโครงการ Go Green Active กิจกรรมดำน้ำเพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูปะการังอ่าวป่าตอง พร้อมกับปล่อยตัวกลุ่มนักดำน้ำเพื่อแข่งขันดำน้ำชิงถ้วย Open Water Princess Cup และดำน้ำเก็บขยะในแนวปะการัง ในโอกาสนี้ ตนยินดีเป็นอย่างยิ่งที่เลือกจังหวัดภูเก็ตเป็นสถานที่จัดกิจกรรมสุดยิ่งใหญ่ ที่มีนักดำน้ำเข้าร่วมกิจกรรมเพื่ออนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลเป็นจำนวนมาก ผ่านการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนอย่างกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และบริษัท เอ็มซีเอ็ม คอมมูนิเคชั่น จำกัด ที่ส่งเสริมและสนับสนุนให้ชาวภูเก็ตได้มีกิจกรรมเพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูท้องทะเลหลากหลายกิจกรรม นอกจากนี้ ตนขอขอบคุณพี่น้องประชาชนในจังหวัดภูเก็ตที่มีส่วนร่วมขับเคลื่อนการดำเนินงานมาโดยตลอด นอกจากนี้ ตนอยากให้พี่น้องชาวจังหวัดภูเก็ตและนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต ให้ช่วยกันดูแลทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล ท่องเที่ยวอย่างมีจิตสำนึก เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งมีความสมบูรณ์ สวยงามเช่นนี้ ต่อไป
     ด้านคุณสิริรักษ์ ศิริพงษ์ Managing Director บริษัท เอ็มซีเอ็ม คอมมูนิเคชั่น จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ ได้ตระหนักถึงปัญหาด้านทรัพยากรธรรมชาติ แนวปะการัง
และสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล โดยเห็นว่าโครงการ Go Green Active กิจกรรมดำน้ำเพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูปะการังอ่าวป่าตอง สอดคล้องกับภารกิจกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รวมถึงเล็งเห็นถึงความสำคัญด้านการท่องเที่ยวทางทะเลของจังหวัดภูเก็ต จึงมีแนวคิดในการจัดกิจกรรมดำน้ำขึ้น โดยรูปแบบกิจกรรมแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ การดำน้ำเก็บขยะในแนวปะการัง การแข่งขันดำน้ำชิงถ้วยพระราชทาน Open Water Princess Cup ดำเนินการวัดผลจากความสำเร็จของภารกิจที่ได้รับมอบหมาย โดยมีกรรมการจากสมาคมกีฬาดำน้ำเป็นกรรมการตัดสิน สำหรับผู้ชนะจะได้รับรางวัลถ้วยพระราชทานจากสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา อย่างไรก็ตาม ทีมงานต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ช่วยกันสนับสนุนโครงการและเป็นกำลังสำคัญที่ทำให้การจัดงานในครั้งนี้ประสบความสำเร็จและได้ผลตอบรับเป็นอย่างดี ตนรู้สึกภูมิใจที่ได้เห็นพลังของมวลชนที่ร่วมใจกันดูแลและขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ และพร้อมเดินหน้ารักษาท้องทะเลไทยให้คงอยู่อย่างสมดุลและยั่งยืนสืบไป

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 เมษายน 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...