ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
การเมือง / การปกครอง ย้อนกลับ
เพื่อไทย จี้ บิ๊กตู่ รับผิดชอบปกปิดอหิวาต์หมู
13 ม.ค. 2565
“เพื่อไทย” จี้ “ประยุทธ์” รับผิดชอบปกปิดอหิวาห์หมู ชี้ “แพงทั้งแผ่นดิน” เกษตรกรรายได้ไม่เพิ่ม รอวันอดตาย แนะ เร่งเพิ่มรายได้ประชาชนและเกษตรกร เพื่อสู้ของแพง

เมื่อวันที่ 13 ม.ค. 65 นายภาควัต ศรีสุรพล ส.ส. ขอนแก่น และ คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ราคาหมูที่พุ่งขึ้นและสร้างความเดือดร้อนให้คนทั้งประเทศ แถมยังไปฉุดให้ราคาไก่ ราคาไข่ ราคาปลา พลอยสูงขึ้นไปด้วย เพราะเป็นอาหารทดแทน ได้สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่รายได้ลดลงแต่ต้องรับภาระค่าครองชีพที่พุ่งขึ้นสูง จนแทบไม่มีปัญญาจะซื้ออาหารมาประทังชีวิตกันอยู่แล้ว สาเหตุมาจากโรคอหิวาต์แอฟริกาในหมู ที่ทำให้หมูเสียชีวิตกันเป็นจำนวนมาก คาดกันว่าอาจมีจำนวนการตายถึงครึ่งหนึ่งของปริมาณหมูในประเทศเลย ซึ่งจะทำให้ราคาหมูจะอยู่ในระดับราคาที่สูงไปอีกนาน และยิ่งจะเข้าช่วงตรุษจีนในต้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ ราคาหมูจะยิ่งพุ่งกระฉูด ซึ่งจะสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนกันอย่างมาก

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่าการระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในหมูนี้ น่าจะเกิดตั้งแต่ปี 2562 แล้ว และมีสถานการณ์แย่ขึ้นตลอดมา แต่รัฐบาลกลับไม่ยอมรับ และพยายามปัดข่าว สส. ของพรรคเพื่อไทยได้แสดงความเป็นห่วงและได้สอบถามเรื่องนี้หลายหนทั้งเป็นเอกสารราชการ ตามเอกสาร ที่ นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ สส. หนองคาย พรรคเพื่อไทย ตั้งกระทู้ถามรัฐบาลในเรื่องโรคอหิวาต์แอฟริกาในหมูนี้ กระทู้หมายเลข 058/ร. ลงวันที่ 15 สิงหาคม 2562 และ ตนเองก็เสนอข่าวสอบถามผ่านสื่อมวลชนตอกย้ำในวันที่ 11 สิงหาคม 2564 แต่รัฐบาลกลับพยายามบ่ายเบี่ยงและไม่ยอมรับจนกระทั่งเกิดความเสียหายอย่างหนักต่อเกษตรกร และสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างมาก ดังนั้นจึงอยากขอเรียกร้องกับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะนายกรัฐมนตรีจะรับผิดชอบเรื่องนี้อย่างไร รวมถึง รมว. เกษตรและสหกรณ์ และ อธิบดีกรมปศุสัตว์ด้วย จะทำเป็นเนียนๆให้เรื่องเงียบไปเองคงเป็นไปไม่ได้ เพราะปัญหาหมูขาดแคลนและราคาพุ่งสูงนี้จะอยู่กับประเทศไทยไปอีกนาน และจะเพิ่มภาระค่าครองชีพให้กับประชาชนอย่างมากถ้าหากไม่เร่งหาทางแก้ไข นอกจากนี้เกษตรกรผู้เลี้ยงหมูผู้ที่ถูกทอดทิ้งต้องฝ่าด่านความทุกข์ด้วยการช่วยเหลือตนเองมาตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา กลับไม่เคยได้รับการเยี่ยวยา ไม่มีมาตรการรับมืออย่างทันท่วงที หรือแม้กระทั่งการสนับสนุนการป้องกันโรคนี้จากภาครัฐ ยกตัวอย่างเช่น การสนับสนุนยาพ่นคอกฆ่าเชื้อที่มีประสิทธิภาพแก่เกษตรกรฉีดพ่นโรงเรือนเพื่อป้องกันเชื้อโรค เนื่องจากโรคนี้ยังไม่มีวัคซีนและวิธีการรักษาที่จำเพาะ ดังนั้นพลเอกประยุทธ์จะต้องรับผิดชอบในฐานะผู้นำประเทศ ที่ปล่อยให้มีการปิดบังข้อมูลสำคัญ ไม่ต่างจากช่วงปฏิวัติเผด็จการที่ชอบปกปิดข้อมูลกับประชาชนมาตลอดจนเป็นนิสัยไปแล้ว

การที่หมูขาดแคลนและราคาเพิ่มสูงและยังมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นอีก และอาจจะสูงกว่าค่าแรงขึ้นต่ำได้ ทำให้ราคาอาหารชนิดอื่นเช่น ไก่ ไข่ไก่ เนื้อวัว ปลา มีราคาสูงขึ้นด้วยจากความต้องการที่มากขึ้น ประกอบกับราคาน้ำมันที่แพงขึ้น ค่าไฟฟ้าสูงขึ้น ค่าก๊าซกำลังจะขึ้น (ถ้าไม่โดนด่ารัฐบาลคงขึ้นในเดือนหน้าไปแล้ว พอโดนด่าเลยเลื่อนไปอีก 2 เดือน) ค่าทางด่วนเพิ่ม ฯลฯ และ จะมีสินค้าอื่นๆขึ้นราคากันอีก หรืออาจเรียกได้ว่าปัจจุบันนี้ “แพงทั้งแผ่นดิน” เดือดร้อนกันไปทั่ว เพราะรายได้ไม่เพิ่มแถมลดลง คนตกงานกันเป็นหลายล้านคน จะเอาเงินที่ไหนไปซื้ออาหารและสินค้าจำเป็น โดยเฉพาะเกษตรกรที่รายได้ลดลงจากราคาสินค้าเกษตรที่ลดลงตลอดโดยเฉพาะราคาข้าว แต่ต้องมาแบกรับค่าครองชีพที่สูงขึ้นมากจะทนกันไม่ไหว ต้องรอวันอดตายกันแน่

คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยได้เตือนมาตลอดเรื่องปัญหาเงินเฟ้อ ค่าครองชีพจะสูงมาตลอด แต่พลเอกประยุทธ์เหมือนจะไม่เข้าใจ การแจกเงินอย่างเดียวคงช่วยไม่ได้มาก ยิ่งคนละครึ่ง ยิ่งใช้ยิ่งได้ ช้อปดีมีคืน เที่ยวด้วยกัน ฯลฯ ไม่สามารถช่วยเหลือคนที่มีรายได้น้อย คนตกงาน และคนกำลังลำบากได้เลย เพราะไม่มีเงินจะไปร่วมจ่ายด้วย ได้แต่มองทำตาปริบๆ ดังนั้น รัฐบาลจะต้องเร่งหาทางเพิ่มรายได้ให้กับประชาชนเพื่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อ อีกทั้ง ต้องเร่งสร้างงานเพื่อให้คนตกงานมีงานทำมีเงินใช้ อีกทั้งพลเอกประยุทธ์ต้องเลิกนิสัยปกปิดข้อมูลเหมือนตอนสมัยเป็นเผด็จการได้แล้ว เพราะยุคสมัยปัจจุบันต้องมีความโปร่งใส การปกปิดข้อมูลจะทำให้ปัญหาเพิ่มขึ้น เหมือนเรื่องอหิวาห์แอฟริกาในหมูนี้ และพลเอกประยุทธ์จะต้องแสดงความรับผิดชอบในเรื่องนี้จะบอกว่าไม่รู้ไม่ได้ และในขณะที่ประชาชนลำบากกันอย่างมาก แต่พลเอกประยุทธ์ยังจะคิดซื้อเครื่องบินรบ F 35 กันอีก ซึ่งไม่รู้ว่าใช้อะไรคิด

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 1 - 15 เมษายน 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...