สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ BDI และสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (TCT) ประกาศความร่วมมือขับเคลื่อนการท่องเที่ยวไทยด้วยข้อมูลขนาดใหญ่ ปัญญาประดิษฐ์ และเทคโนโลยีดิจิทัล พร้อมวางแผนเดินสายถ่ายทอดองค์ความรู้และกลไกสนับสนุนใน 9 พื้นที่นำร่อง มุ่งวางรากฐานให้ทุกภาคส่วนสามารถใช้ข้อมูลและ AI เป็นเครื่องมือสำคัญในการยกระดับการทำงาน เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และผลักดันภาคการท่องเที่ยวไทยให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว
ความร่วมมือดังกล่าวจัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Shaping Thai Tourism by Big Data, AI & Digital Transformation” เพื่อแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลและข้อมูลมาเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศ
นางสาววิชุพรรณ ภูเก้าล้วน ศรีสัญญา รองประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ภาพรวมตลาดท่องเที่ยวโลกในปัจจุบันมีความซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งจากปัจจัยทางเศรษฐกิจ สังคม พฤติกรรมนักท่องเที่ยว ตลอดจนความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ส่งผลให้การบริหารจัดการและการกำหนดนโยบายด้านการท่องเที่ยวจำเป็นต้องอาศัยข้อมูลที่ถูกต้อง ครอบคลุม และทันสมัย เพื่อสนับสนุนการตัดสินใจอย่างมีประสิทธิภาพ
ในบริบทดังกล่าว ข้อมูลขนาดใหญ่และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์จึงมีบทบาทสำคัญในการยกระดับการวิเคราะห์เชิงลึก ทั้งในมิติพฤติกรรมนักท่องเที่ยว แนวโน้มการเดินทาง ความต้องการของตลาด รวมถึงการคาดการณ์เชิงสถิติ
ซึ่งสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ทั้งในระดับนโยบายภาครัฐและระดับกลยุทธ์ของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โดยเพื่อรองรับการยกระดับศักยภาพดังกล่าว BDI และดีป้าได้เข้ามาสนับสนุนเทคโนโลยีและเครื่องมือดิจิทัลในฐานะกลไกหลักของความร่วมมือครั้งนี้
ด้าน ศ.ดร.ธีรณี อจลากุล ผู้อำนวยการสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (BDI) ระบุว่า อุตสาหกรรมท่องเที่ยวถือเป็นหนึ่งในฟันเฟืองสำคัญของเศรษฐกิจไทย ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของตลาดท่องเที่ยวโลก ทำให้การบริหารจัดการและการกำหนดทิศทางเชิงนโยบายต้องพึ่งพาข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน ซึ่งข้อมูลขนาดใหญ่และ AI จะช่วยให้หน่วยงานและผู้ประกอบการเข้าใจพฤติกรรมนักท่องเที่ยว แนวโน้มการเดินทาง และความต้องการของตลาดได้อย่างลึกซึ้ง
สามารถนำข้อมูลไปใช้ให้เกิดประโยชน์ เพิ่มความแม่นยำในการวางแผน และยกระดับการตัดสินใจให้สอดคล้องกับบริบทที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ BDI ได้พัฒนาแพลตฟอร์มอัจฉริยะด้านการท่องเที่ยวแห่งชาติ หรือ TRAVEL LINK เพื่อทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการรวบรวม เชื่อมโยง และบริหารจัดการข้อมูลด้านการท่องเที่ยวจากหลากหลายแหล่ง พร้อมเปิดโอกาสให้หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากข้อมูลได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
อีกทั้ง สามารถต่อยอดสู่การวิเคราะห์เชิงลึก เพื่อสนับสนุนการตัดสินใจได้อย่างเป็นรูปธรรมทั้งในระดับพื้นที่และระดับประเทศ อย่างไรก็ตาม BDI เห็นว่า การนำข้อมูลและแพลตฟอร์มไปใช้ให้เกิดผลลัพธ์อย่างแท้จริง จำเป็นต้องดำเนินควบคู่กับการพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านการท่องเที่ยว
ที่มาของการจัดโครงการอบรมร่วมกับ TCT และดีป้า เพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ และทักษะการใช้ข้อมูลขนาดใหญ่และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ให้กับบุคลากรทั้งภาครัฐและเอกชน
ขณะที่ ดร.ปรีสาร รักวาทิน รักษาการรองผู้อำนวยการใหญ่ กลุ่มงานส่งเสริมการประยุกต์ใช้ดิจิทัล ดีป้า กล่าวว่า อุตสาหกรรมท่องเที่ยวมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อเศรษฐกิจไทย ทั้งในแง่สัดส่วนต่อ GDP และผลกระทบต่อเศรษฐกิจฐานราก ดีป้าจึงร่วมกับ TCT และ BDI เดินหน้าสนับสนุนภาคการท่องเที่ยว ด้วยการผลักดันให้เกิดการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์อย่างเป็นรูปธรรม ภายใต้กลไก AI Transformation ที่ครอบคลุมตั้งแต่การเตรียมความพร้อมกำลังคนดิจิทัล ควบคู่กับการยกระดับ Digital & AI Solution ซึ่งเปรียบเสมือนโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของเศรษฐกิจยุคใหม่
นอกจากนี้ ดีป้ายังได้ดำเนินโครงการ AI Transformation เพื่อส่งเสริมการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลที่ขึ้นทะเบียนบนบัญชีบริการดิจิทัลไปประยุกต์ใช้ในภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรม และภาคเกษตรกรรม ผ่านมาตรการสนับสนุน 2 รูปแบบ
ได้แก่ การยกระดับธุรกิจด้วยดิจิทัลผ่านมาตรการ d-transform และการส่งเสริมการเริ่มต้นใช้งานดิจิทัลผ่านมาตรการ d-voucher โดยผู้สนใจสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ aitransform.depa.or.th
สำหรับแผนการดำเนินงานในระยะต่อไป ดีป้า BDI และ TCT เตรียมเดินหน้าถ่ายทอดองค์ความรู้และกลไกส่งเสริมการนำเทคโนโลยีดิจิทัล ข้อมูลขนาดใหญ่ และ AI มาประยุกต์ใช้ พร้อมตั้งเป้าขยายผลให้ครอบคลุม 22 จังหวัดท่องเที่ยวหลักทั่วประเทศ เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยในเวทีสากล
โดยในระยะเริ่มต้นจะจัดกิจกรรมโรดโชว์และการอบรมใน 9 พื้นที่นำร่อง ได้แก่ จังหวัดเชียงราย อุดรธานี ขอนแก่น บุรีรัมย์ ระยอง พระนครศรีอยุธยา กระบี่ พื้นที่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์และเพชรบุรี รวมถึงพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
โดยครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว และผู้สนใจใช้ประโยชน์จากข้อมูลด้านการท่องเที่ยว รวมไม่น้อยกว่า 1,000 คน โดยทุกฝ่ายเชื่อมั่นว่าความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นก้าวสำคัญในการวางรากฐานการใช้ข้อมูลและปัญญาประดิษฐ์ เพื่อขับเคลื่อนการท่องเที่ยวไทยให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว