สวัสดีครับทุกท่านผมได้เฝ้าสังเกตการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วและทรงพลังของโลกดิจิทัลมาโดยตลอด ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของเทคโนโลยี แต่คือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและวิถีชีวิตของมนุษย์อย่างถอนรากถอนโคน ก่อนที่เราจะก้าวเข้าสู่ปี 2569 อย่างเต็มตัว เรามาย้อนมองบทเรียนสำคัญที่โลกดิจิทัลได้มอบให้ในช่วงที่ผ่านมา และเตรียมพร้อมรับมือกับคลื่นลูกใหม่ของนวัตกรรมที่จะเข้ามาเขย่าโลกในปีหน้ากันครับ

บทเรียนสำคัญโลกดิจิทัลที่กำลังผ่านไป มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง เรามาดูกัน กับสิ่งที่ผมเห็น
เรื่องที่ 1 เลยที่มองเห็นได้ชัดคือ การเร่งตัวของ AI ทั่วถึงทุกภาคส่วน (AI Democratization) ในช่วงที่ผ่านมา เราเห็นการเปลี่ยนผ่านจาก AI ที่เป็นเพียงเรื่องของห้องแล็บ สู่เครื่องมือที่ทุกคนเข้าถึงได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นการสร้างสรรค์เนื้อหา (Generative AI) การช่วยเขียนโค้ด หรือการวิเคราะห์ข้อมูล บทเรียนคือ "AI ไม่ได้มาแทนที่มนุษย์ แต่คนที่ใช้ AI จะมาแทนที่คนที่ไม่ได้ใช้”
เรื่องที่ 2 การล่มสลายของกำแพงแพลตฟอร์ม (Platform Interoperability) ผู้คนเริ่มเบื่อหน่ายกับการถูกผูกขาดด้วยแพลตฟอร์มใดแพลตฟอร์มหนึ่ง บทเรียนที่ได้คือการเรียกร้องให้มีการเชื่อมต่อและแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างแพลตฟอร์มได้มากขึ้น สะท้อนถึงความต้องการของผู้ใช้งานที่ต้องการความเป็นเจ้าของข้อมูลและอิสระในการใช้งาน
เรื่องที่ 3 เศรษฐกิจผู้สร้างสรรค์ที่เติบโตแบบก้าวกระโดด (Creator Economy Boom) คนธรรมดากลายเป็น "สื่อ" และ "เจ้าของธุรกิจ" ได้ด้วยตัวเองผ่านช่องทางดิจิทัล บทเรียนนี้ชี้ให้เห็นว่า อำนาจในการสร้างรายได้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในองค์กรขนาดใหญ่ แต่กระจายสู่บุคคลที่มีความสามารถในการสร้างสรรค์และดึงดูดผู้ติดตาม
และเรื่องที่ 4 ความตระหนักด้านความปลอดภัยไซเบอร์และข้อมูลส่วนบุคคล เมื่อข้อมูลส่วนตัวกลายเป็นสินทรัพย์ที่มีค่าที่สุด ภัยคุกคามทางไซเบอร์จึงทวีความรุนแรงขึ้นอย่างมาก บทเรียนคือทุกภาคส่วน ทั้งรัฐ ธุรกิจ และประชาชน ต้องยกระดับความเข้าใจและการป้องกันให้เป็นวาระแห่งชาติ
.jpg)
ดังนั้นในปี 2569 ที่กำลังจะมาถึง จะเป็นปีที่โลกดิจิทัลก้าวสู่ยุคแห่งการบูรณาการที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ไม่ใช่แค่การใช้งาน แต่คือการหลอมรวมเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ากับประสบการณ์ทางกายภาพและสังคมอย่างแนบเนียน
ซึ่งเราคนไทยควรจับตา 5 เทรนด์พฤติกรรมผู้คนและสิ่งใหม่ ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นดังนี้
1. พฤติกรรมการแสวงหา “ความแท้จริง” ในโลกเสมือน (The Authenticity Quest) ผู้คนจะยิ่งระมัดระวังและไม่เชื่อในสิ่งที่เห็นในโลกออนไลน์ง่ายๆ เพราะเทคโนโลยี Deepfake และ Generative AI ทำให้เกิดเนื้อหาปลอมจำนวนมหาศาล พฤติกรรมผู้บริโภคจะหันไปให้ความสำคัญกับ Proof of Humanity การพิสูจน์ว่าเนื้อหานั้นถูกสร้างโดยมนุษย์จริง และไม่ใช่ AI และพฤติกรรมที่เรียกว่า Ephemeral & Live Content เนื้อหาที่เกิดขึ้นแบบเรียลไทม์หรือหายไปอย่างรวดเร็ว (เช่น Live สด) จะได้รับความเชื่อถือสูงกว่า เนื่องจากยากต่อการปลอมแปลง
2. สิ่งใหม่ๆ จะเกิดขึ้น เป็นยุคของ Chatbot ที่เราต้องพิมพ์คำสั่งจะกำลังจะหมดไป แทนที่ด้วย AI Agent ที่ทำงานอัตโนมัติให้เราอย่างชาญฉลาด AI Agent จะเรียนรู้พฤติกรรม ความชอบ และเป้าหมายส่วนตัวของเรา เพื่อจัดการงานต่างๆ แทนเราโดยอัตโนมัติ เช่น เจรจาราคา จัดการตารางนัดหมาย คัดกรองอีเมลสำคัญ และแม้กระทั่งซื้อของที่จำเป็นโดยที่เราไม่ต้องสั่งซ้ำอีก ถามว่ามีผลผลกระทบต่อคนไทยไหม...? แน่นอนมีข้อดีคือเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานส่วนบุคคลจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก แต่ก็ต้องแลกมากับความท้าทายด้านความเชื่อมั่นและการควบคุมอำนาจของ AI Agent เหล่านี้
3. พฤติกรรมวิกฤตความสนใจ The Attention Recession เนื่องจากเนื้อหาท่วมท้นจนเกินขีดจำกัด การแข่งขันเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้คนจะถึงขีดสุด พฤติกรรมผู้คนจะเริ่ม "ประหยัด" ความสนใจของตัวเองถามว่าจะเกิดอะไรขึ้น....? แน่นอนเนื้อหาที่ชนะจะไม่ใช่แค่เนื้อหาที่สั้นที่สุด แต่เป็นเนื้อหาที่ "คุ้มค่าต่อการลงทุนเวลา" ที่สุด แพลตฟอร์มต่างๆ จะปรับไปสู่การนำเสนอเนื้อหาที่ตอบโจทย์ความสนใจที่เฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น (Hyper-Personalization) และมีฟังก์ชันที่ช่วย "สรุป" หรือ "ย่อย" เนื้อหาที่ซับซ้อนให้เข้าใจได้ในไม่กี่วินาที
4. สิ่งใหม่ๆ การคำนวณเชิงพื้นที่ (Spatial Computing) จะเริ่มเข้ามาแทนที่สมาร์ทโฟนในบางมิติ ผ่านอุปกรณ์สวมใส่ที่ผสมผสานโลกจริงกับโลกดิจิทัล เช่น แว่นตา AR/MR ที่ใช้งานง่ายขึ้น ข้อมูลดิจิทัลจะถูก "ฉาย" ซ้อนทับลงบนสภาพแวดล้อมทางกายภาพของเราอย่างเป็นธรรมชาติ (Real-World Overlays) เช่น ป้ายบอกทางดิจิทัลที่ปรากฏในอากาศ ข้อมูลสุขภาพที่แสดงผลขณะออกกำลังกาย หรือเครื่องมือสำหรับช่างเทคนิคที่ปรากฏบนชิ้นส่วนเครื่องจักร เทคโนโลยีนี้จะเป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนา Smart City และบริการสาธารณะที่เหนือกว่า เช่น การซ่อมบำรุงที่ใช้ AR ช่วยนำทาง หรือการให้ข้อมูลท่องเที่ยวและประวัติศาสตร์ในพื้นที่ผ่านเลนส์ AR
5. พฤติกรรมสุขภาพดิจิทัลและการล้างพิษ : Digital Wellness & Detoxification เมื่อเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตมากขึ้นเรื่อยๆ ผู้คนจะเริ่มแสวงหาสมดุลอย่างจริงจัง พฤติกรรม "การตัดขาดจากโลกออนไลน์" เป็นช่วงๆ จะกลายเป็นกระแสหลัก จะมีการลงทุนในการพัฒนาแอปพลิเคชันและอุปกรณ์ที่ช่วยจำกัดการใช้งานหน้าจออย่างจริงจังมากขึ้น บริษัทต่างๆ อาจจะต้องเสนอทางเลือกในการทำงานที่ปลอดเทคโนโลยีดิจิทัล (Digital-Free Time) เพื่อรักษาสุขภาพจิตของพนักงาน
กล่าวสรุปได้ว่า สิ่งที่คนไทยต้องเตรียมรับมือในโลกในปี 2569 จะเป็นโลกที่ ฉลาดขึ้น เร็วขึ้น และเป็นส่วนตัวมากขึ้น สำหรับคนไทยแล้ว การทำความเข้าใจและปรับตัวต่อการมาถึงของ AI Agent และ Spatial Computing เป็นสิ่งสำคัญยิ่ง
ดังนั้นผมขอให้เราทุกคนไม่หยุดที่จะเรียนรู้ และฝึกฝนการใช้เครื่องมือ AI ในการทำงานและชีวิตประจำวัน ท่านจะต้องมองหาโอกาสในการใช้เทคโนโลยีเหล่านี้มาเพิ่มประสิทธิภาพการบริการสาธารณะ และสร้างเมืองที่ชาญฉลาดอย่างแท้จริง การเรียนรู้คือวัคซีนที่ดีที่สุดต่อการเปลี่ยนแปลงครับ