อุทยานฯลำคลองงู ประกาศ ห้ามเข้าไปในพื้นที่อุทยานแห่งชาติลำคลองงู ป้องกันฝุ่น PM2.5 จากการลักลอบเผา ฝ่าฝืน โทษคุก 4-20 ปี ปรับสูงสุด 2 ล้านบาท
วันนี้ 9 ธ.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอรรคนิตย์ กลางประพันธ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติลำคลองงู จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า ด้วยปัจจุบันใกล้เข้าสู่สถานการณ์ปัญหาไฟป่า ที่ส่งผลให้เกิดปัญหาฝุ่นควันที่มีค่า PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ อีกทั้งยังส่งผลทำให้เกิดปัญหามลภาวะโลกร้อน ซึ่งมีผลให้เกิดความแปรปรวนของสภาวะอากาศโลกร้อน ถือเป็นปัญหาวิกฤตด้านสิ่งแวดล้อมที่จำเป็นต้องแก้ไขเร่งด่วน
.jpg)
.jpg)
ทำให้รัฐต้องสูญเสียงบประมาณในการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ เครื่องมือ และยานพาหนะเป็นจำนวนมาก ซึ่งสาเหตุเกิดจากการเผาป่าล่าสัตว์ การเก็บหาของป่า และการกำจัดวัชพืชในที่ดินทำกินของเกษตรกรที่อยู่ใกล้พื้นที่ป่า เพื่อเตรียมการเพาะปลูกโดยไม่มีการควบคุมส่งผลให้ไฟลุกลามเข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติกลายเป็นไฟป่า
ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันมิให้เกิดปัญหาหมอกควัน และไฟป่า อุทยานแห่งชาติลำคลองงู จังหวัดกาญจนบุรี จึงขอประกาศ จึงอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 มาตรา 20 บุคคลใดซึ่งเข้าไปในอุทยานแห่งชาติ ต้องปฏิบัติตามคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ ซึ่งได้สั่งให้ปฏิบัติตามระเบียบที่อธิบดีกำหนด

จึงห้ามมิให้ผู้ใดเข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติลำคลองงู ในท้องที่ตำบลชะแล ตำบลท่าขนุน ตำบลสหกรณ์นิคม อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ยกเว้นพื้นที่ที่กำหนดให้เป็นเขตบริการ เขตนันทนาการกลางแจ้ง และเขตกิจกรรมพิเศษประเภท 1 (พื้นที่ทำกินตามมาตรา 64 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562)
หากกรณีมีเหตุจำเป็น ให้ประสานอุทยานแห่งชาติลำคลองงู พร้อมแจ้งรายชื่อและสาเหตุความจำเป็นในการเข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติ เพื่อพิจารณาอนุญาตเป็นรายกรณี หากผู้ใดฝ่าฝืน ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 100,000 บาท การเผาวัชพืชในพื้นที่เกษตรกรรมในแนวเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติลำคลองงู ต้องมีการควบคุมไม่ให้ไฟลุกลามเข้าป่า หากมีการลุกลามเข้าไปในพื้นที่ป่าธรรมชาติ ถือเป็นความผิดตามกฎหมาย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 4-20 ปี หรือปรับตั้งแต่ 400,000-2,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ตั้งแต่บัดนี้ไปจนถึงวันที่ 31 พ.ค.2569
.....................................
ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์