นายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดการประชุมใหญ่สามัญประจำปีบัญชี 2568 สหกรณ์ออมทรัพย์ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำกัด โดยมี ผู้บริหารสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสมาชิกสหกรณ์ เข้าร่วม ณ โรงแรมเชียงใหม่ภูคำ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมกล่าวบรรยายพิเศษในหัวข้อ แนวนโยบายของรัฐบาลต่อการส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินกิจการของสหกรณ์ออมทรัพย์ ซึ่งได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของสหกรณ์ออมทรัพย์ในฐานะสถาบันการเงินที่มั่นคงสำหรับสมาชิก พร้อมเสนอแนะให้สหกรณ์ฯ มุ่งเน้น 4 ประเด็นหลักในการทำงาน ได้แก่ 1) ธรรมาภิบาลและความโปร่งใส การบริหารงานต้องอาศัยความซื่อสัตย์ ตรวจสอบได้ และเปิดเผยข้อมูลอย่างรอบด้าน 2) การบริหารความเสี่ยงและคุณภาพสินเชื่อ ต้องมีระบบกลั่นกรองสินเชื่อที่เหมาะสม มีการตั้งสำรองหนี้อย่างรอบคอบ และติดตามการชำระหนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันปัญหาหนี้เสีย 3) การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ เพื่อเพิ่มความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยในการบริการ เช่น ระบบชำระเงินออนไลน์ ระบบสารสนเทศสมาชิก และการแจ้งยอดเงินผ่านมือถือ และ 4) การดูแลสมาชิกอย่างรอบด้าน นอกจากการให้บริการทางการเงิน ควรส่งเสริมความรู้ด้านการบริหารการเงินส่วนบุคคลและจัดสวัสดิการที่เหมาะสม โดยเฉพาะการช่วยเหลือสมาชิกที่มีภาระหนี้สินสูง
ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เตรียมความพร้อมให้การสนับสนุนสหกรณ์ตามนโยบายของ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ต้องการให้ทบทวนระเบียบ กฎหมายที่เป็นอุปสรรคในการสร้างความสามารถในการแข่งขันของสหกรณ์ อีกทั้ง อยู่ระหว่างการจัดตั้งคณะกรรมการร่วมระหว่างภาครัฐและตัวแทนสหกรณ์เพื่อพิจารณาทบทวนกฎระเบียบต่าง ๆ รวมถึงกำลังพิจารณาการขยายอายุผู้จัดการสหกรณ์จาก 60 ปี เป็น 65 ปี ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการส่งเสริมและสนับสนุนกิจการสหกรณ์อย่างจริงจัง
สำหรับสหกรณ์ออมทรัพย์ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำกัด มีสมาชิกทั้งหมด 40,620 คน ประกอบด้วย สมาชิกสามัญ 38,403 คน และสมาชิกสมทบ 2,217 คน จากการดำเนินงานของสหกรณ์ฯ ประจำปีบัญชี 2566 (1 ม.ค. - 30 ก.ย. 2566) มีการดำเนินงานในส่วนการลดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) จากกว่า 1,400 ล้านบาท ในปี 2563 เหลือเพียง 301.92 ล้านบาท ในปัจจุบัน ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จอย่างสูง อีกทั้ง สามารถทำกำไรสุทธิได้ถึง 476.98 ล้านบาท โดยมีสินทรัพย์รวม 14,476.19 ล้านบาท และได้รับเกียรติบัตรจากสหกรณ์จังหวัดปทุมธานี 2 ด้าน ได้แก่ 1) สหกรณ์มีความเข้มแข็งระดับหนึ่งและมีชั้นคุณภาพการควบคุมภายในระดับดีมาก 2) สหกรณ์ที่ขับเคลื่อนนโยบายแก้ไขหนี้คงค้างของสมาชิกได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกด้วย