เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่มีการออก พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 8 พ.ย. ที่ผ่านมา และกำลังเป็นประเด็นถกเถียงอย่างกว้างขวาง อยู่ในขณะนี้ เนื่องจากกฎหมายฉบับนี้มีข้อกำหนดสำคัญ ได้แก่ การห้ามจำหน่ายและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในช่วง “เวลาต้องห้าม” คือ 00.00-11.00 น. และ 14.00-17.00 น. พร้อมบทลงโทษสูงสุดปรับเป็นเงินถึง 10,000 บาท ทำให้ผู้ประกอบการหลายกลุ่มแสดงความไม่เห็นด้วย เพราะกระทบต่อรายได้ เศรษฐกิจท้องถิ่น และภาคการท่องเที่ยวโดยตรง

นายเลิศชาย นนท์ศิลา อายุ 56 ปี ผู้ประกอบการร้านอาหาร “ต้นข้าวดนตรี” อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ถ้าพูดถึงกฎหมายใหม่ ไม่รู้ว่าใครเป็นคนออกกฎหมายฉบับนี้ มันมีผลกระทบต่อผู้ประกอบการอย่างมาก โดยเฉพาะร้านอาหาร ไม่ว่าจะเป็นภัตตาคารทั่วไป ร้านเล็ก ร้านใหญ่ ต่างได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง ซึ่งนักท่องเที่ยวก็เริ่มชินกับการดื่มในช่วงเย็น ตนคิดว่าในช่วงหลังจากที่เสร็จภารกิจการงาน คนส่วนมากก็จะมานั่งรับประทานอาหาร พบปะเพื่อฝูง และนั่งดื่มสังสรรค์กัน เริ่มสตาร์ทก็จะประมาณ เวลา 22.00 น. และนั่งรับประทานไปเรื่อยๆ จนถึงเที่ยงคืน ซึ่งถ้ากฎหมายฉบับนี้ บังคับใช้ อย่างเข้มงวดจริงจัง มันก็จะมีผลกระทบต่อผู้ประกอบการอย่างแรง เนื่องจากพอถึงเที่ยงคืนแล้ว จะให้ผู้ประกอบการไล่ลูกค้าไม่ให้นั่งดื่มแล้ว ก็คงเป็นเรื่องยาก ถึงแม้ร้านจะไม่ได้ขายให้ ก็จริง แต่ลูกค้าจะนั่งต่อ ซึ่งทั้งผู้ขายและลูกค้าที่นั่งดื่ม ก็จะต้องมีความผิดในกฎหมายฉบับนี้ และมีโทษปรับทั้งสองฝ่ายเลย ลูกค้าก็จะโดนปรับคนละ 1 หมื่นบาท อย่างนี้ก็ไม่ไหวเหมือนกัน

โดยเฉพาะช่วงนี้ เป็นช่วงไฮซีซั่น เป็นช่วงท่องเที่ยว ซึ่งการท่องเที่ยวก็เป็นส่วนหนึ่งของรายได้ของประเทศหลักๆ ตนก็อยากให้แก้ไขกฎหมายฉบับนี้จริงๆ ขอให้ไปปรับเปลี่ยนใหม่ อยากให้มีการทบทวนอีกครั้ง เข้าใจอยู่ว่าทางผู้ประกอบการต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบของหน่วยงานของราชการโดยเคร่งครัด แต่ตนว่ากฎหมายฉบับนี้ พอเหอะ! สมควรปลดล็อกได้แล้ว เพราะว่ามันมีผลกระทบจริงๆ ทั้งคนดื่ม คนขายก็ลำบากใจ ทุกวันนี้ค้าขายก็ลำบากมากพออยู่แล้ว ลูกค้าก็เริ่มลดลงไปเยอะ เศรษฐกิจก็ไม่ค่อยจะดีอยู่แล้ว ยิ่งกลายเป็นซ้ำเติมเข้าไปอีก มิหนำซ้ำข้าวยากหมากแพง ต้นทุนสูง ทั้งค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเงินเดือนพนักงาน ก็ต้องจ่ายเท่าเดิม ส่วนรายรับกลับน้อยลง.
ทีมข่าว จ.ศรีสะเกษ // รายงาน
.