ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
สังคม / บุคคล ย้อนกลับ
สมาคมวารสารฯ มธ. ประกาศรางวัล ‘วารสารศาสตราธร ปี68’ สร้างพลังสื่อสารเชิงบวก
28 พ.ย. 2568

“มานิจ-พงษ์ศักดิ์” 2 ปรมาจารย์แห่งวงการสื่อไทย คว้ารางวัลเกียรติยศวารสารศาสตราธร

สมาคมวารสารศาสตร์ ธรรมศาสตร์ ร่วมกับ คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดพิธีมอบรางวัล“วารสารศาสตราธร” ประจำปี 2568 เนื่องในโอกาสครบรอบ 71 ปี การสถาปนาคณะฯ เพื่อเชิดชูและประกาศเกียรติคุณบุคคลต้นแบบที่ใช้พลังแห่งการสื่อสารอย่างสร้างสรรค์เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้สังคม

โดยในปีนี้ สำหรับรางวัลเกียรติยศ คณะกรรมการสมาคมวารสารศาสตร์ ได้มีมติเอกฉันท์ มอบแด่ผู้ทรงคุณวุฒิผู้มีคุณูปการอย่างยิ่งต่อวงการสื่อสารมวลชนไทย คือ นายมานิจ สุขสมจิตร และ นายพงษ์ศักดิ์ พยัฆวิเชียร

นายภูวนารถ ณ สงขลา นายกสมาคมวารสารศาสตร์ ธรรมศาสตร์ กล่าวว่า รางวัล‘วารสารศาสตราธร’ จัดตั้งขึ้นมาเพื่อยกระดับมาตรฐานวิชาชีพสื่อสารมวลชนไทย และยกย่องเชิดชูเกียรติศิษย์เก่า คณาจารย์ บุคลากร ที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความมุ่งมั่น ทุ่มเท ใช้พลังแห่งการสื่อสารอย่างสร้างสรรค์ มีความรับผิดชอบต่อสังคม ยึดมั่นในหลักจริยธรรม จรรยาบรรณ มาตรฐานวิชาชีพ และสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้สังคม โดยเริ่มมอบครั้งแรกในปี 2565 ในวาระครบรอบ 68 ปีของคณะวารสารศาสตร์ฯ

“ทุกวันนี้ สื่อไทยต้องแบกรับแรงกดดันรอบด้าน ทั้งการแข่งขันกับอัลกอริทึม การแพร่กระจายของข่าวปลอม และข้อมูลบิดเบือน ความเชื่อมั่นในสื่อกระแสหลักที่ลดลง รวมถึงแรงกดดันทางการเมืองและเศรษฐกิจ ยิ่งไปกว่านั้น ยุคนี้ยังเป็นในยุคที่ใครๆ ก็เป็นสื่อได้ ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย ยิ่งทำให้ ‘เส้นแบ่ง’ ระหว่างคนทั่วไปที่แค่มีสื่อในมือ กับนักสื่อสารมวลชนมืออาชีพที่มีจรรยาบรรณและความรับผิดชอบยิ่งต้องชัดเจน รางวัลวารสารศาสตราธรตั้งขึ้นมาเพื่อชี้ให้เห็นความแตกต่างนี้ และตอกย้ำให้สังคมเห็นว่าการรักษาจรรยาบรรณและมาตรฐานวิชาชีพสื่อสารมวลชนยังเป็นสิ่งจำเป็น และเราจะร่วมกันรักษาไว้”

สำหรับการมอบรางวัล‘วารสารศาสตราธร’ปี 2568 แบ่งออกเป็น 4 สาขา รวม 8 รางวัล ประกอบด้วย 1) รางวัลเกียรติยศ ซึ่งเป็นรางวัลที่เริ่มมอบครั้งแรกในโอกาสครบรอบ 70 ปี คณะวารสารฯ เมื่อปี 2567 มอบให้กับ นายประกิต อภิสารธนรักษ์  โดยมารับพร้อมกันในปีนี้  สำหรับในปี 2568 มีรางวัลเกียรติยศ รวม 2 รางวัล  2) รางวัลสาขาศิษย์เก่ายอดเยี่ยม ด้านสื่อสารมวลชน 2 รางวัล 3) สาขาศิษย์เก่ายอดเยี่ยมด้านจิตอาสา 2 รางวัล และ 4) สาขาคณาจารย์และบุคลากรยอดเยี่ยม 2 รางวัล โดยมีรายชื่อผู้ได้รับรางวัลในแต่ละสาขา ดังนี้

รางวัลเกียรติยศ
นายมานิจ สุขสมจิตร อดีตบรรณาธิการอาวุโสหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ กรรมการสภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และกรรมการคณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน ผู้คร่ำหวอดในวงการสื่อสารมวลชนไทยมานานกว่า 6 ทศวรรษ ทั้งในฐานะนักข่าว นักวิชาการ ผู้นำองค์กรวิชาชีพสื่อและมีบทบาทสำคัญในการต่อสู้เพื่อเสรีภาพสื่อด้วยการผลักดันให้ยกเลิก ปร.42 ซึ่งเป็นกฎหมายที่ลิดรอนเสรีภาพสื่อมวลชน พร้อมทั้งยกระดับมาตรฐานวิชาชีพและสร้างบรรทัดฐานจริยธรรมสื่อให้เป็นที่ยอมรับ และด้วยผลงานอันทรงคุณค่าตลอดชีวิตที่ผ่านมา ทำให้ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็น “ราชบัณฑิต” ประเภทวิชาสังคมศาสตร์ สาขาวิชานิเทศศาสตร์ สำนักธรรมศาสตร์และการเมือง และเป็นราชบัณฑิตคนแรกของวงการสื่อสารมวลชนไทย

นายพงษ์ศักดิ์ พยัฆวิเชียร ประธานมูลนิธิอิศรา อมันตกุล อดีตประธานสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ และคณะผู้ร่วมก่อตั้งหนังสือพิมพ์มติชน ผู้ได้รับยกย่องให้เป็นหนึ่งในปรมาจารย์แห่งวงการหนังสือพิมพ์ไทย มีบทบาทสำคัญในการต่อสู้เพื่อเสรีภาพสื่อ สร้างมาตรฐานความถูกต้อง ยกระดับวัฒนธรรมสื่อคุณภาพ ต่อสู้เพื่อศักดิ์ศรีและรักษาจริยธรรมวิชาชีพสื่อสารมวลชนไทยมาโดยตลอด ภายใต้อุดมการณ์ที่ยึดมั่น “งานหนังสือพิมพ์ คือ การทำงานเพื่อคนอื่น ไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง” ด้วยผลงานที่สร้างคุณูปการต่อวิชาชีพสื่อมวลชนและสังคมไทยมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ได้รับรางวัล “เกียรติยศคนหนังสือพิมพ์” ประจำปี 2568 จากสมาคมหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยอีกหนึ่งรางวัล

นายประกิต อภิสารธนรักษ์ ประธานกรรมการ และผู้ก่อตั้ง บริษัท ประกิต โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเถือป็นบริษัทในวงการโฆษณาที่มีชื่อเสียง โดยนายประกิตเป็นผู้ให้ความสำคัญกับการให้ทุนการศึกษา เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้กับนักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ โดยได้มอบทุนการศึกษาให้กับนักศึกษาคณะวารสารศาสตร์ เป็นประจำทุกปีมายาวนานกว่า 30 ปี อีกทั้งนายประกิต ยังได้รับรางวัลเข็มเกียรติยศจาก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อปี 2566 และมีผลงานด้านการบริจาคเพื่อโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ อีกด้วย ( มอบให้นายอภิรักษ์ อภิสารธนรักษ์ บุตรชาย เป็นผู้แทนในการรับมอบรางวัล )

สาขาศิษย์เก่ายอดเยี่ยมด้านสื่อสารมวลชน
นางสาววาสนา นาน่วม คอลัมนิสต์และผู้สื่อข่าวอาวุโสสายทหาร ผู้มีบทบาทโดดเด่นในการนำเสนอข่าวสารด้านความมั่นคงอย่างเจาะลึก รอบด้าน สร้างสรรค์ มีความรับผิดชอบต่อสังคม และเป็นประโยชน์ต่อเกียรติภูมิด้านความมั่นคงของประเทศไทย ( ติดภารกิจทำข่าวต่างประเทศ มอบให้บุตรสาวเป็นผู้แทนในการรับมอบรางวัล )

นายปฏิภาณ บุณฑริก ผู้กำกับภาพยนตร์อิสระที่ใช้พลังสื่ออย่างสร้างสรรค์ เพื่อสะท้อนประเด็นสังคมและปัญหาสิ่งแวดล้อมในประเทศไทย มีผลงานที่ได้รับรางวัลระดับนานาชาติ 2 รางวัล ได้แก่ LG OLED New Currents Award และ NETPAC Award จากภาพยนตร์ยาวเรื่อง “Solids by the Seashore” หรือ “ทะเลของฉันมีคลื่นเล็กน้อยถึงปานกลาง” จาก Busan International Film Festival 2023

สาขาศิษย์เก่ายอดเยี่ยมด้านจิตอาสาเพื่อความยั่งยืน
นางสาวคมฉาย ธนะพานิช ผู้ช่วยผู้กำกับภาพยนตร์และผู้ร่วมก่อตั้งองค์กร ThaiWhales ผู้สร้างสรรค์เรื่องราว ทั้งภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว และภาพยนตร์ ถ่ายทอดประเด็นการอนุรักษ์วาฬและสัตว์ทะเลหายาก ผ่านเว็บไซต์และโซเชียลมีเดีย ThaiWhales รวมถึงการจัดกิจกรรมเพื่อปลุกสังคมให้ตระหนักรู้ถึงความสำคัญและร่วมมือกันปกป้องรักษาทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลอย่างยั่งยืน

นางสาวภัคธินันท์ อัครลักษมีพัชร อดีตผู้ป่วยโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองระยะที่ 4 ที่ผ่านการรักษาจนโรคสงบ และผันตัวมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ผู้เปี่ยมไปด้วยพลังบวก ต้นแบบของการใช้สื่อโซเชียลอย่างสร้างสรรค์โดยใช้เป็นช่องทางในการถ่ายทอดประสบการณ์การต่อสู้กับโรคร้าย เพื่อสร้างกำลังใจและสร้างความหวังให้ผู้ป่วยโรคมะเร็งว่าโรคนี้สามารถรักษาหายได้หากรู้วิธีปฏิบัติที่ถูกต้อง

สาขาคณาจารย์และบุคลากรยอดเยี่ยม
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กมลมาศ ชาญวิเศษ อาจารย์ประจำคณะวารสารศาสตร์และสื่อสาร มวลชน อาจารย์ผู้อุทิศตนในการพัฒนาการศึกษาด้านสื่อสารมวลชน โดยเฉพาะด้านการใช้สื่อสังคมออนไลน์และวัฒนธรรมดิจิทัลของเยาวชน และสร้างสรรค์งานวิจัยที่มีคุณค่าต่อสังคม พร้อมถ่ายทอดความรู้และปลูกฝังค่านิยมที่ดีให้แก่นักศึกษารุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง

นางสาวนันท์นภัส บุญเลิศ บุคลากรผู้ทุ่มเทในการปฏิบัติงานและเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนภารกิจของคณะวารสารศาสตร์ฯ ด้วยความมุ่งมั่น เสียสละ รับผิดชอบ และเป็นแบบอย่างที่ดีของบุคลากรที่ทำงานเพื่อประโยชน์ส่วนรวมและพัฒนาองค์กรให้เติบโตก้าวหน้า

“หากมองรายชื่อผู้ได้รับรางวัลวารสารศาสตราธรทั้งในปีนี้และปีที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่า ‘คนสื่อ’ ที่ได้รับการยกย่อง มีความหลากหลาย ไม่ได้จำกัดอยู่แค่นักข่าวหรือผู้ทำงานในสื่อกระแสหลักเพียงอย่างเดียว สะท้อนให้เห็นถึงบทบาทของ ‘นักสื่อสารมวลชนยุคใหม่’ ที่แม้แพลตฟอร์มอาจเปลี่ยน รูปแบบอาจแตกต่างออกไป แต่สิ่งที่ยังเหมือนเดิมคือเจตนารมณ์อันมุ่งมั่นในการใช้พลังการสื่อสารอย่างสร้างสรรค์เพื่อสร้างคุณค่าและการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับสังคม รางวัลวารสารศาสตราธรจึงไม่ได้เป็นเพียงแค่การประกาศเกียรติคุณ แต่คือ ‘คำมั่นสัญญา’ ของคณะวารสารศาสตร์ฯ และสมาคมฯ ที่มีต่อสังคมไทยว่า เราจะไม่ยอมปล่อยให้วิชาชีพสื่อสารมวลชนไทยต้องเสื่อมถอย จะยืนหยัดรักษามาตรฐาน และสร้าง ‘วัฒนธรรมความภาคภูมิใจ’ ว่าการทำงานในวิชาชีพสื่ออย่างมีคุณธรรมนั้นมีเกียรติ มีคุณค่า มีความหมาย สมควรได้รับการยกย่อง เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่กล้านำเสนอความจริง ยืนหยัดในความถูกต้อง และใช้พลังแห่งการสื่อสารสร้างสรรค์สังคมให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน” นายภูวนารถ กล่าวทิ้งท้าย

พิธีมอบรางวัลประจำปี 2568 จัดขึ้นเมื่อวันอังคารที่ 26 พฤศจิกายน 2568 ณ โรงภาพยนตร์ JC Cinema คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ติดตามข่าวสารของรางวัลและกิจกรรมอื่น ๆ ได้ที่ ช่องทาง เฟซบุ๊ค : สมาคมวารสารศาสตร์ ธรรมศาสตร์ (Journalism Alumni Association)

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2568
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
20 พ.ย. 2568
ความมุ่งมั่นในชีวิตที่ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค ผนวกกับการทำงานอยากชาญฉลาด นับเป็น กุญแจดอกสำคัญที่จะมีผลส่งให้บุคคลที่ยึดมั่นใน สิ่งที่กล่าวถึงนี้ มีเส้นทางชีวิตที่จะก้าวเดินไปสู่ความ สำเร็จได้ไม่มากก็น้อย ดังตัวอย่างจากหลายๆ คน ที่เราเคยได้ยินได้ฟังมา และหนึ่งในบุ...