นายกฯ ถกด่วน คอภ. เร่งเครื่องรับมืออุทกภัยภาคใต้ สั่งยกระดับการช่วยเหลือประชาชน ระบายน้ำ แจ้งเตือนทุกช่องทาง ตั้งศูนย์อพยพพร้อมจัดทีมแพทย์ดูแลผู้ประสบภัย
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการและบริหารสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติ (คอภ.) ครั้งที่ 2/2568 โดยมี นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คมนาคม นายโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี นายภราดร ปริศนานันทกุล รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รมช.มหาดไทย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี รวมทั้ง นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ อธิบดีกรมการปกครอง นายสหรัฐ วงศ์สกุลวิวัฒน์ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการและหัวหน้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล และผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์
นายอนุทิน กล่าวว่า สืบเนื่องจากเกิดฝนตกหนักในพื้นที่ภาคใต้ ทำให้เกิดอุทกภัยในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เพื่อติดตามสถานการณ์พร้อมทั้งได้สั่งการให้ทุกหน่วยงาน ระดมความช่วยเหลืออย่างเต็มกำลัง โดยเฉพาะเครื่องมือ เครื่องจักรกล สาธารณภัย เครื่องสูบน้ำจากทุกภาคทั่วประเทศ เข้าช่วยเหลือในพื้นที่ภาคใต้ โดยเน้นย้ำให้ดูแล ช่วยเหลือประชาชนให้มีความปลอดภัยเป็นลำดับแรก
“วันนี้ได้เชิญทุกภาคส่วนมาประชุม เพื่อติดตามสถานการณ์และการให้ ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย รวมทั้งสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่ยังคงมีผู้ประสบภัยได้รับ ความเดือดร้อนให้ได้รับการช่วยเหลืออย่างเพียงพอ ทั่วถึง และทันต่อ สถานการณ์ และจากปัจจุบันสถานการณ์ในหลายพื้นที่ยังอยู่ในภาวะต้องเฝ้าระวัง อย่าง ใกล้ชิด เนื่องจากฝนที่ตกหนัก ระดับน้ำในแม่น้ำ ลำคลองต่าง ๆ ยังคงมี แนวโน้ม เพิ่มสูงขึ้น จึงได้มีข้อสั่งการไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการช่วยเหลือประชาชนในทุกพื้นที่ด้วยความเร็วรวด ทั่วถึง จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย” นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน ได้มีข้อสั่งการให้กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยา สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ กรมชลประทาน ร่วมกันเฝ้าระวังติดตามแนวโน้มสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ตลอด 24 ชั่วโมง แจ้งเตือนประชาชนผ่านระบบ Cell broadcast ให้ทราบและเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที และให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ใช้กลไกท้องถิ่นและท้องที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการแจ้งเตือนประชาชนผ่านช่องทางต่าง ๆ ในทุกช่องทาง และครอบคลุมทุกพื้นที่
“ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ประสบอุทกภัย ใช้กลไกศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัด ในการบริหารจัดการ บูรณาการหน่วยงานทุกภาคส่วน เข้าให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยให้เป็นไปอย่างมีเอกภาพ โดยให้ความสำคัญกับการแจกจ่ายอาหารปรุงสำเร็จที่รับประทานได้ทันที น้ำดื่ม รวมถึงสิ่งของจำเป็นให้กับประชาชนในพื้นที่ได้อย่างทั่วถึง สำหรับพื้นที่ที่น้ำท่วมสูง อาจเกิดอันตรายกับประชาชน ให้จัดตั้งศูนย์อพยพให้ประชาชนได้พักพิงชั่วคราว พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ดูแลความเป็นอยู่ให้ครอบคลุมทุกด้าน และมีทีมปฏิบัติการตระเวนช่วยเหลือ พาประชาชนมายังศูนย์อพยพ ได้อย่างปลอดภัย” นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน ยังได้สั่งการให้ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ กรมชลประทาน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หน่วยทหาร สนับสนุนจังหวัดที่ประสบอุทกภัย วางแผนเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ ทำการพร่องน้ำ เพิ่มประสิทธิภาพการไหลของน้ำ ลดปริมาณน้ำที่ท่วมขัง สนับสนุนเครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำ ตลอดจนเครื่องจักรกลสาธารณภัยที่เกี่ยวข้อง พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนให้มีน้อยที่สุด
นอกจากนี้ ให้กระทรวงคมนาคม กำชับหน่วยงานในพื้นที่ ดูแลเส้นทางคมนาคม ทั้งถนน และทางรถไฟ จัดให้มีเส้นทางสำรอง เส้นทางเลี่ยงในพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขัง จัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก ติดตั้งป้ายเตือนป้ายแนะนำเส้นทางเลี่ยงที่ปลอดภัยและประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบ ให้กระทรวงสาธารณสุข กำชับหน่วยงานในพื้นที่ในการจัดทีมแพทย์และสาธารณสุข ดูแลสุขภาพกายและจิตใจประชาชนที่ได้รับผลกระทบสนับสนุนเวชภัณฑ์ยาต่าง ๆ ให้เพียงพอ รวมถึงเฝ้าระวังโรคที่มากับน้ำท่วมขัง
“สำหรับการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัย ให้กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ร่วมกับจังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เร่งสำรวจและจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย เพื่อให้ผู้ประสบภัยได้รับการช่วยเหลือเยียวยาครอบคลุม ครบถ้วนทุกกรณี ทั้งนี้ ในส่วนการฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัย ให้ทุกหน่วยงาน เร่งสำรวจความเสียหายทุกด้าน พร้อมทั้งเร่งซ่อมแซม และฟื้นฟูความเสียหายต่างๆ ทั้งด้านบ้านเรือนที่พักอาศัย ระบบสาธารณูปโภค ระบบไฟฟ้า ประปา ระบบการสื่อสาร เส้นทางคมนาคม เพื่อให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยเร็ว” นายอนุทิน กล่าวในช่วงท้าย
การประชุมในครั้งนี้ เป็นการติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ต่าง ๆ โดยมีประเด็น สำคัญ อาทิ สถานการณ์อุทกภัยและการให้ความช่วยเหลือ การติดตามสภาพอากาศและแนวโน้มสถานการณ์ การบริหารจัดการน้ำ การติดตามสถานการณ์และการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสงขลา นครศรีธรรมราช และปัตตานี