เมื่อวันที่ 20 พ.ย. 2568 ดร.มานะ นิมิตรมงคล ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) หรือ ACT แสดงความเห็นถึง การปราบปรามสแกมเมอร์ และ กลุ่มทุนเทา ว่า อำนาจมืดและเส้นสาย ที่ทำให้ปราบสแกมเมอร์ล้มเหลว ประเทศไทยล้มเหลวในการปราบสแกมเมอร์ พนันออนไลน์ กลุ่มทุนเทาและการฟอกเงิน เพราะมี “บิ๊กเนม” ชนชั้นนำในวงการเมืองและราชการ เป็นยอดปิรามิดของการรับส่วยสินบนจากเครือข่ายอาชญากรรมเหล่านี้ การปราบปรามจึงทำได้เพียงไล่จับปลาซิวปลาสร้อยพอให้เห็นเป็นผลงาน
ดร.มานะ ระบุว่า เพื่อความเข้าใจ ขอให้ทุกท่านลองทบทวนข่าวอื้อฉาวเหล่านี้ ข่าวน่าตกใจอันดับแรก มีรัฐมนตรี และ ส.ส. รวมถึงอดีต ผบ.ตร. และนายตำรวจอีกกว่า 200 นาย ที่เกี่ยวข้องกับพนันออนไลน์ ค้ายาเสพติด ธุรกิจใต้ดินและคอร์รัปชัน ข่าวนี้ถูกตอกย้ำด้วยการแฉของบิ๊กโจ๊กเรื่ององค์กรอาชญากรรม
เมื่อวันที่ 20 พ.ย. 2568 ดร.มานะ นิมิตรมงคล ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) หรือ ACT แสดงความเห็นถึง การปราบปรามสแกมเมอร์ และ กลุ่มทุนเทา ว่า อำนาจมืดและเส้นสาย ที่ทำให้ปราบสแกมเมอร์ล้มเหลว ประเทศไทยล้มเหลวในการปราบสแกมเมอร์ พนันออนไลน์ กลุ่มทุนเทาและการฟอกเงิน เพราะมี “บิ๊กเนม” ชนชั้นนำในวงการเมืองและราชการ เป็นยอดปิรามิดของการรับส่วยสินบนจากเครือข่ายอาชญากรรมเหล่านี้ การปราบปรามจึงทำได้เพียงไล่จับปลาซิวปลาสร้อยพอให้เห็นเป็นผลงาน

ดร.มานะ ระบุว่า เพื่อความเข้าใจ ขอให้ทุกท่านลองทบทวนข่าวอื้อฉาวเหล่านี้ ข่าวน่าตกใจอันดับแรก มีรัฐมนตรี และ ส.ส. รวมถึงอดีต ผบ.ตร. และนายตำรวจอีกกว่า 200 นาย ที่เกี่ยวข้องกับพนันออนไลน์ ค้ายาเสพติด ธุรกิจใต้ดินและคอร์รัปชัน ข่าวนี้ถูกตอกย้ำด้วยการแฉของบิ๊กโจ๊กเรื่ององค์กรอาชญากรรม
ตั้งแต่ปี 2556 ประเทศไทยมีกฎหมายที่ทรงพลัง สามารถตรวจจับเส้นเงินที่โยงใยได้ดี แต่ “ไม่เคยถูกใช้” จริงจัง เพราะผู้มีอำนาจจงใจซ่อนเร้นไว้ เหตุผลอาจเป็นเพราะเกรงใจผู้ใหญ่ ห่วงใยพวกพ้อง หรือตัวเองมีส่วนได้เสีย เรื่องนี้ยังฟันธงไม่ได้ กฎหมายที่กล่าวถึงคือ
กฎหมายป้องกันการฟอกเงิน ที่ให้อำนาจ ปปง. ในการตรวจสอบพฤติกรรมการเงินของ “บุคคลที่มีสถานภาพทางการเมือง” (Politically Exposed Persons - PEP) ได้แก่ นักการเมืองระดับชาติและท้องถิ่น เจ้าหน้าที่รัฐระดับสูง ศาล องค์กรอิสระ ทหาร ตำรวจ ฯลฯ ทั้งที่เป็นคนไทยและคนต่างชาติที่อาศัยในประเทศไทย
โดยกำหนดให้สถาบันการเงินและผู้ประกอบธุรกิจบางประเภท เช่น ร้านค้าทองคำ บริษัทที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทแลกเปลี่ยนเงินตรา ฯลฯ ให้มีหน้าที่ต้องรายงานพฤติกรรมการเงินของบุคคลเหล่านั้นต่อ ปปง. ทันที เมื่อพบธุรกรรมผิดปรกติ
แต่ที่ผ่านมามาตรการนี้ไม่ถูกนำมาใช้จริงจัง เพราะไม่เคยมีการกำหนดให้ชัดเจนว่า บุคคลที่มีสถานภาพทางการเมือง หมายถึงใคร “ตำแหน่งอะไร” ในองค์กรใดบ้าง เช่น นายตำรวจต้องมียศและตำแหน่งระดับใด หน่วยงานที่มีหน้าที่รายงานจึงส่งข้อมูลพอเป็นพิธี ซ้ำร้ายในปี 2563 ยังมีการแก้ไขระเบียบของ ปปง. ตัดหน้าที่รายงานของ “สถาบันการเงิน” ออกไป ซึ่งรวมถึงธนาคารที่เป็นช่องทางหลักในการยักย้ายถ่ายโอนเงินให้แก่กันด้วย
ต้องขอบคุณ ธนาคารแห่งประเทศไทย ที่เห็นช่องโหว่นี้โดยออกมาตรการให้ธนาคารในกำกับดูแลต้องรายงานธุรกรรมการเงินที่น่าสงสัยเพื่อตรวจจับเครือข่ายเหล่านี้ แม้ไม่เข้มข้นเท่ากับอำนาจของ ปปง. ก็ตาม
1. ป.ป.ช. ควรยกระดับมาตรการตรวจสอบความร่ำรวยผิดปรกติ เชื่อมโยงกับข้อมูลบัญชีทรัพย์สิน/หนี้สิน ของนักการเมืองและข้าราชการะดับสูง ทั้งก่อนและหลังการรับตำแหน่ง
2. กรมสรรพากร ควรใช้มาตรการตรวจสอบการเสียภาษีรายได้ เชื่อมโยงบัญชีทรัพย์สินหนี้สินที่นักการเมืองและข้าราชการต้องยื่นต่อ ป.ป.ช. และยื่นต่อ กกต. ในการสมัครรับเลือกตั้ง
บทส่งท้าย..
ประธาน ACT ระบุด้วยว่า หยุดคอร์รัปชัน หยุดคนที่ปกป้อง ก็หยุดแก๊งอาชญากรรมได้ “เส้นเงินไม่เคยโกหก” การใช้ข้อมูลการเงินที่บันทึกไว้โดยเทคโนโลยีของเอกชนเป็นสิ่งที่บิดเบือนได้ยาก แม้จะใช้อำนาจข่มขู่ ปิดบัง แต่ทุกก้าวย่างย่อมมีรอยเท้าให้ตรวจจับย้อนหลังได้เสมอ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) จะเป็นที่พึ่งของสังคมได้ ต้องเป็นอิสระจากฝ่ายการเมือง และจำเป็นมากที่ต้องถูกตรวจสอบอย่างเข้มข้นจากองค์กรอื่นและภาคประชาชนครับ