กรมทางหลวงชนบท (ทช.) กระทรวงคมนาคม เริ่มเข้าพื้นที่ดำเนินโครงการก่อสร้างถนนสาย ค2-1 และ ค2-2 ผังเมืองแม่สอด อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เพื่อรองรับการขยายตัวของเมืองในอนาคต ช่วยแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดในเขตอำเภอแม่สอด ส่งเสริมเศรษฐกิจการขนส่ง การท่องเที่ยว และเป็นการพัฒนาด้านที่อยู่อาศัย ด้านพาณิชยกรรมพื้นที่บริเวณโดยรอบให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน ปัจจุบันการก่อสร้างคืบหน้ากว่าร้อยละ 6 เร็วกว่าแผนที่กำหนดไว้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับเกลี่ยแต่งพื้นที่ บดอัดดินเดิม และงานถมคันทาง คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2570
นายพิชิต หุ่นศิริ อธิบดี ทช. เปิดเผยว่า อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เป็นพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ และเป็นจุดศูนย์กลางที่มีการส่งออกด้านการค้าระหว่างประเทศไทยกับเมียนมา ทช. เล็งเห็นถึงความจำเป็นในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งในเขตชุมชนเมือง รวมถึงการกำหนดแนวทางในการพัฒนาพื้นที่ให้เป็นเมืองน่าอยู่ มีความสวยงาม สอดรับกับยุทธศาสตร์การพัฒนาของจังหวัด โดย ทช. ได้ก่อสร้างถนนสายดังกล่าว เพื่อเชื่อมโยงโครงข่ายระหว่างถนนสาย ตก.3050 และ ทล.130 ซึ่งจะช่วยเชื่อมโยงโครงข่ายการเดินทางในอำเภอแม่สอดให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ใช้งบประมาณ 619.750 ล้านบาท แบ่งการดำเนินงานได้ดังนี้
1. ถนนสาย ค2-1 จะเริ่มก่อสร้างบริเวณ กม. ที่ 0+000 - 4+077 ระยะทาง 4.077 กิโลเมตร เป็นถนนผิวจราจรคอนกรีตเสริมเหล็ก ขนาด 4 ช่องจราจร มีเกาะกลางแบบยุบร่อง พร้อมไหล่ทาง และเขตทางทั่วไปกว้าง 40 เมตร
2. ถนนสาย ค2-2 จะเริ่มก่อสร้างบริเวณ กม. ที่ 0+000 - 3+554 ระยะทาง 3.554 กิโลเมตร เป็นถนนผิวจราจรคอนกรีตเสริมเหล็ก ขนาด 4 ช่องจราจร มีเกาะกลางแบบยก พร้อมไหล่ทาง และเขตทางทั่วไปกว้าง 30 เมตร
3. สะพานกลับรถ 1 แห่ง บน ทล.130 บริเวณ กม. ที่ 12+550 ขนาด 1 ช่องจราจร ความยาว 396 เมตร
4. สะพานคอนกรีตเสริมเหล็กสาย ค2-1 จำนวน 3 แห่ง
5. งานระบบระบายน้ำ ติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่าง สัญญาณไฟจราจร เครื่องหมายจราจร และสิ่งอำนวยความปลอดภัยสำหรับผู้ใช้เส้นทาง
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การดำเนินงานโครงการฯ สอดคล้องกับความต้องการ และเป็นประโยชน์ต่อประชาชนในพื้นที่ให้มากที่สุด ก่อนการก่อสร้าง ทช. ได้จัดประชุมการมีส่วนร่วมภาคประชาชน และลงนามบันทึกความร่วมมือ 3 ฝ่าย ระหว่าง ทช. ผู้รับจ้าง และผู้แทนประชาชน โดยได้มีการนำเสนอความเป็นมา ลักษณะของโครงการ ขั้นตอนการดำเนินงาน พร้อมทั้งได้มีการรับฟังข้อเสนอแนะ ความคิดเห็นจากผู้นำชุมชน ประชาชน หน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องอีกด้วย