บอกอยากให้ทำอย่างถูกต้องและอยู่กับชุมชนได้ อย่าให้เป็นแบบเขมรจะลำบากภายหลัง
จากกรณีนายรพี ชำนาญเรือ ได้แชร์คลิปเป็นสาธารณะ เพื่อให้ประชาชนรวมถึงหน่วยงานภาครัฐได้เห็นสภาพป่า ที่สำคัญนายรพี ได้โพสต์ในลักษณะตั้งคำถามเอาไว้อย่างน่าสนใจว่า “ที่พักสงฆ์พม่า หรือเป็นที่ซ่องสุมฐานปฏิบัติการลับของการสู้รบกับรัฐบาลพม่า หรือเป็นที่พักแรงงานเถื่อนพม่าหรือเปล่า หน่วยงานภาครัฐช่วยตรวจสอบที” ล่าสุดได้นำหลายหน่วยงานเข้าตรวจสอบ แต่ไม่พบใครอยู่ในที่พักสงฆ์ แห่งนี้ ก่อนนำรถแบ็กโฮทำคันดินปิดเส้นทางเข้าแล้ว

วันนี้ 17 พ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายรพี ชำนาญเรือ ได้นำสื่อมวลชน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยงานฝ่ายทหารกองพันปืนใหญ่ที่ 9 กองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ ปลัดงานฝ่ายความมั่นคงอำเภอพนมทวน อบต.บ้านดอนตาเพรช กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตำรวจสภ.พนมทวน และชาวบ้านได้เดินทางเข้าไปยังบริเวณที่พักสงฆ์ เพื่อตรวจสอบในพื้นที่ แต่ไม่พบว่ามีผู้ใดอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว แต่พบเพียงสิ่งก่อสร้างเป็นเจดีย์ขนาดใหญ่ และสถานที่พักทำกิจกรรม และสิ่งก่อสร้างต่างไปแบบศิลปะของชาวมอญมากมาย สระน้ำ และบริเวณเจดีย์แบบของชาวมอญ พบว่าได้มีการผสมปูนดำเนินการก่อสร้างยังใหม่อยู่ แต่คาดว่าเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่เดินทางเข้าไปจึงพากันหลบหนีหายไปกันหมด

โดยนายอำนาจ ผู้ใหญ่หมู่ที่ 3 ตำบลดอนตาเพชร ได้ให้ชุดเคลื่อนที่เร็วขับรถจักรยานยนต์แบบวิบากขึ้นไปดู พบว่าด้านบนภูเขา ยังมีสิ่งก่อสร้างจำนวนมาก มีบ้านพัก 2 หลัง และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ เช่นพญาครุฑ ทางผู้ใหญ่แจ้งว่าปกติจะมีพระและคนต่างชาติอยู่เป็นจำนวนมาก ชาวบ้านบริเวณใกล้เคียงเข้ามาเห็ด ของป่าไม่ได้จะถูกไล่จะเพิด นำวัวเขามาเลี้ยงก็ไม่ได้ จะมีแต่พวกต่างชาติเท่านั้นที่เขามาอาศัยอยู่กับพระ ในช่วงกลางคืนจะมีรถตู้เขามาประจำไม่แน่ใจว่าเป็นที่พักพวกต่างชาติ ก็ไม่ทราบว่า มาซ่องสุมทำอะไรกัน สำนักสงฆ์นี้สร้างมาก็ว่า 10 ปีแล้ว แล้วก็หยุดชะงักการก่อสร้างไป ก็เริ่มมาก่อสร้างต่อในระยะ 2 - 3 ปี นี้ ส่วนใหญ่ลูกศิษย์พระเป็นทหารมอญ เส้นทางบนยอดภูเขา ซึ่งหากเดินเท้าต้องใช้เวลาและกำลังกายต้องแข็งแกร่งด้วย ถึงจะขึ้นไปยังยอดภูเขาแห่งนี้ได้ และเมื่อชุดเคลื่อนที่เร็วได้ขึ้นไปแล้วไม่พบผู้ใด คาดว่าน่าจะหลบอยู่ในระแวกแถวๆ นั้น เนื่องจากเป็นพื้นที่ป่ารกทึบ

ต่อมาทางนายรพี ชำนาญเรือ จึงได้ขอความร่วมมือกับกำนันและผู้ใหญ่บ้านให้จัดรถแบ็กโฮ เพื่อมาขุดเส้นทางเข้า เพื่อทำเป็นร่องให้ลึกแล้วนำดินทำคันปิดเส้นทางเข้าไปยังที่พักสงฆ์แห่งนี้ เพื่อไม่ให้มีการเข้าออกได้สะดวก พร้อมขอให้ผู้นำท้องถิ่นเฝ้าติดตามพฤติกรรมที่พักสงฆ์แห่งนี้ เป็นระยะๆ รวมถึงขอให้ทางฝ่ายกรมทหารปืนใหญ่ที่ 9 ค่ายสุรสีห์กาญจนบุรี เจ้าของพื้นที่ รวมถึงทาง อบต.ได้เข้าไปแจ้งความ บริเวณที่พักสงฆ์ ทางคุณรพี ชำนาญเรือ ได้แจ้งให้ทางอบต.ไปแจ้งความไว้โดยไม่พบผู้ต้องหาไว้ก่อนที่สถานีตรวจ ทางคุณรพีแจ้งว่าถ้าไม่ดำเนินการก็จะโดน ม.157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และไม่อยากให้เป็นเหมือนชายแดนเพื่อนบ้านเขมรจะเกิดปัญหาตามมามากมาย
ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์