วันที่ 13 พฤศจิกายน 2568 เวลา 10.00 น. นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้การต้อนรับ นายเปาโล ดีโอนีซี (Mr.Paolo Dionisi) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิตาลีประจำประเทศไทย ที่เข้าพบเพื่อแสดงความยินดีในโอกาสที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเข้ารับตำแหน่งใหม่ และหารือแนวทาง ยกระดับความร่วมมือด้านแรงงานระหว่างไทย-อิตาลี โดยมี พันตำรวจโท วรรณพงษ์ คชรักษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน นายสมชาย มรกตศรีวรรณ ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน รักษาราชการแทน อธิบดีกรมการจัดหางาน นายสมาสภ์ ปัทมะสุคนธ์ รองปลัดกระทรวงแรงงาน รักษาราชการแทน อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน และนายศักดินาถ สนธิศักดิ์โยธิน ผู้ช่วยปลัดกระทรวงแรงงาน และผู้บริหาร ร่วมให้การต้อนรับ ณ ห้องจัตุมงคล ชั้น 6 อาคารกระทรวงแรงงาน
นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ขอบคุณที่เห็นถึงความสำคัญและทักษะของแรงงานไทย ประเทศไทยและสาธารณรัฐอิตาลีมีความสัมพันธ์อันดีและยาวนานในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ การศึกษา วัฒนธรรม และการแลกเปลี่ยนบุคลากร ซึ่งความร่วมมือด้านแรงงานก็ถือเป็นอีกหนึ่งมิติสำคัญที่จะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้น การพบกันในวันนี้ เป็นโอกาสที่จะได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อพัฒนาความร่วมมือด้านแรงงานระหว่างสองประเทศให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น ซึ่งตนจะนำการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านแรงงานในวันนี้มาปรับประยุกต์ใช้
พร้อมระบุว่าไทยพร้อมร่วมมือกับอิตาลีในการ ขยายโอกาสแรงงานไทยสู่ตลาดยุโรป และส่งเสริมการรวมกลุ่มผู้ประกอบการ SMEs เพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองทางธุรกิจและยกระดับมาตรฐานแรงงานไทยให้เข้มแข็งมากยิ่งขึ้นนอกจากนี้ ไทยยังพร้อมสนับสนุนความร่วมมือในมิติด้านอื่นๆ การโชว์ศักยภาพแรงงานไทยในสาขาต่าง ๆ เพื่อให้ตลาดโลกเห็นถึงคุณภาพของแรงงานไทยมากยิ่งขึ้น
ขณะที่ นายเปาโล ดีโอนีซี (Mr.Paolo Dionisi) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิตาลีประจำประเทศไทย กล่าวชื่นชมแรงงานไทยว่าเป็นแรงงานที่มีศักยภาพและมีทักษะสูง ได้รับการยอมรับในตลาดแรงงานยุโรป โดยอิตาลีมีความต้องการแรงงานไทยในหลายสาขา เช่น สาธารณสุข เกษตร และภาคอื่นๆ รวมปีละกว่า 20,000–30,000 คน พร้อมเสนอแนวทางความร่วมมือเพิ่มเติม ได้แก่ ความร่วมมือด้านอาชีวศึกษาและการจัดตั้งศูนย์ฝึกแรงงานร่วม การถ่ายทอด โมเดลบำนาญชราภาพของอิตาลี การแลกเปลี่ยนนโยบายด้าน การคุ้มครองแรงงานและสวัสดิการครอบครัว เช่น สิทธิการลาคลอด การดูแลบุตร และระบบศูนย์เด็กเล็ก เพื่อสนับสนุนคุณภาพชีวิตแรงงานและการเพิ่มอัตราประชากรในระยะยาว
ซึ่ง ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะเดินหน้าความร่วมมือ เพื่อยกระดับศักยภาพแรงงานไทยให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานยุโรป และสร้างความสัมพันธ์ไทย–อิตาลีให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นในอนาคต.