ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
สังคม / บุคคล ย้อนกลับ
ศ.สุชาติ แนะการฟื้นศก.ต้องเพิ่มปริมาณเงินบาท เพื่อให้การลงทุนเพิ่มขึ้น
11 พ.ย. 2568

ศ.สุชาติ! การฟื้นศก.​ต้องเพิ่มปริมาณเงินบาท​ เพื่อให้การลงทุนเพิ่มขึ้น, ให้เงินบาทอ่อนค่าลง​ทำให้การส่งออกและท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น, และยังทำให้สินค้าเกษตร​ทุกชนิดราคาเพิ่มขึ้น​ ส่วนรายจ่ายรัฐบาลควรใช้ทำโครง​สร้างพื้นฐาน, พัฒ​นา​ทุนมนุษย์, และกระจายรายได้ให้ประชาชน

 

1.ศาสตราจารย์​ ดร. สุชาติ​ ธ​าดาธำรงเวช ​อดีตรัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวงการคลัง​กล่าวว่า​ เกือบทุกพรรค​การเมือง​ คิดว่าการฟื้นระบบเศรษฐกิจ​คือการใช้งบประมาณ​รายจ่าย มาทำโครง​การ​จำนวน​มากๆ​ ก็จะฟื้นเศรษฐ​กิจ​ได้​ ซึ่งไม่ถูกต้อง​ "โครงการ​ Micro​ แก้ปัญหา​ Macro ไม่ได้ "

2.พวกเขาไม่เข้าใจว่าใน​ปท.​ต่างๆ​ เช่น​ญี่ปุ่น​ (ตอนค่าเงินแข็งมากๆ)​ หรือประเทศที่ตอนเป็นสังคม​นิยม​เช่น​ จีน, พม่า, เวียดนาม​ ไม่เจริญเติบโตเพราะค่าเงินแข็งมากไป​ ขายสินค้าไม่ได้

3.จากสมการ​ P*GDP​ = M*V: ตัว​ V คือ​ velocity (จำนวนรอบของการหมุนของเงินใน1ปี​)​ เมื่อปริมาณเงิน​ (M)​ เพิ่ม​น้อยไป​ ตอนแรกๆ​ระดับราคา(P)​ ก็จะเพิ่มช้าลง​จนติดลบ​ (คือเงินเฟ้อติดลบ)​ จากนั้น​ GDP​ ก็จะเพิ่มขึ้นน้อยลง​ เพราะ​ค่าเงินแข็งไป ทำให้การส่งออกและท่องเที่ยวลด​ ขายไม่ได้ ก็มาลดการผลิต (GDP) ลดการใช้​ Capacity ของเครื่องมือเครื่อง​จักร จึงไม่มีการซื้อเครื่อง​มือเครื่องจักร, ซื้อเทค​โนโลยี​ใหม่ๆ​ มากนัก

4.ค่าเงินแข็งขึ้น​เพราะ​อัตรา​แลกเปลี่ยน​ e​ = P/Pw: ตัว​ Pw คือราคาของคู่ค้า​ เมื่อเงินเฟ้อเราต่ำกว่าเงินเฟ้อคู่ค้า​ ค่าเงินบาท​ (e)​ ก็ต้องแข็งค่า​ขึ้น (ค่าเงินแข็งค่า​คือ​ตัว​ e​ ลดลงเช่น​ จาก​ 37 บาทต่อ$ เป็น​32​ บาทต่อ$)

5.แต่เกือบทุกรัฐบาลไปใช้สูตรที่ไม่ใช่เหตุแห่งปัญหา​ คือ​ไปใช้ GDP​ = C+I+G+(X-M) เมื่อ​ส่งออก​ (X)​ ลดลง​ ก็ไปกู้เงินเพิ่ม​ หวังจะเพิ่มการใช้จ่ายรัฐบาล​ (G) แต่​ปริมาณเงินบาท​ (Money​ supply) ไม่เพิ่มขึ้น​ การกู้เงินเพิ่มของรัฐฯ​ จึงไปลดการกู้​ของเอกชน​ ซึ่งไปลดการบริโภค (C), และลดการลงทุน​ (I) จึงแทบไม่มีผลต่อ​ GDP​ เป็น​ Crowding​ out​ effect​ "นโยบายการคลังล้วนๆ​ จึงฟื้นเศรษฐ​กิจ​ไม่ได้ " รัฐบาลควรใช้รายจ่ายรัฐฯ​​ ทำโครง​สร้างพื้นฐานและพัฒ​นา​ทุนมนุษย์​ ให้ประเทศเติบโตสูงขึ้นในระยะยาว และกระจายรายได้ให้ประชาชน​ในระยะสั้น

6. ในกรณี​ New deal ของ​ประธานาธิบดี​ Roosevelt ที่ฟื้นเศรษฐ​กิจ​สหรัฐ​ฯ​ ในช่วงปี​ 1930​-40  โดยก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure​ projects) มากมาย​ด้วยรายจ่ายรัฐบาล​ ดูเหมือนเป็นการเพิ่มรายจ่ายรัฐบาล​ (G) แต่แท้จริงแล้ว​ รัฐบาลไปกู้เงินจากธนาคาร​กลางเกือบทั้งหมด, ​Money​ supply จึงเพิ่มในระบบ​เศรษฐกิจ​ ตามการใช้จ่ายของรัฐฯ​ ที่เพิ่มขึ้นซึ่งเรียกว่า Monetary​ ​financed​ fiscal ​policy​ (จริงๆ​ ก็คือการเพิ่มปริมาณเงิน) ระบบ เศรษฐกิจ​สหรัฐ​จึงฟื้นขึ้นมา​ ถ้าใช้ภาษาปัจจุบัน​ก็คือการทำ​Quantitative Easing (QE) โดยรัฐบาลกู้เงินแบงค์ชาติ​ มาลง​ทุนใน​โครงสร้าง​พื้นฐาน​ ซึ่งจะมีผลให้เงินอ่อนค่าลง​ด้วย ไปฟื้นการส่งออกและท่องเที่ยว​ ซึ่งไปฟื้น​ GDP และยังไปฟื้นราคาสินค้าเกษตร​ เนื่องจากได้​ $ มาแล้วแลกเงินบาทได้มากขึ้น อีกด้วย​ ศ.สุชาติ​ ​กล่าว..

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 1 - 15 พฤศจิกายน 2568
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
15 ต.ค. 2568
กล่าวได้ว่าการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น นับเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญต่อการปกครอง ในระบอบประชาธิปโตย และก็กล่าวได้อีกเช่นกัน ว่า รัฐธรรมนูญ 2540 คือต้นธารที่ส่งผลให้การ กระจายอำนาจสู่ห้องถิ่นของประเทศไทยมีความ สำคัญมากขึ้นมาเป็นลำดับซึ่งแม้ในตลอด 20 กว่าปี ที่ผ่านม...