หลักสูตรภาษาตะวันออกเพื่อธุรกิจ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) ร่วมกับ ศูนย์วัฒนธรรมเกาหลีประจำประเทศไทย (KCC) ศูนย์การศึกษาเกาหลีประจำประเทศไทย (KEC) และมหาวิทยาลัยแห่งชาติคยองซัง (Gyeongsang National University- GNU) จัด “การแข่งขันสุนทรพจน์ภาษาเกาหลี ครั้งที่ 1” หัวข้อ “เรื่องราวของคยองนัมเบ่งบานที่ DPU (DPU 에서 피어나는 경남 이야기 )” ประเภททีมระดับชั้นมัธยมศึกษา” เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนความรู้ด้านภาษาและวัฒนธรรมเกาหลี ณ ห้องประชุมสนม สุทธิพิทักษ์ อนุสรณ์ เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2568 โดยมีนักเรียนระดับมัธยมเข้าร่วมกว่า 90 คน จาก 20 โรงเรียนทั่วประเทศ

การแข่งขันในวันนี้เป็นรอบชิงชนะเลิศ มีทีมผ่านเข้ารอบทั้งสิ้น 16 ทีม โดยมีคณะกรรมการตัดสินเป็นผู้ทรงคุณวุฒิจากทั้งสองประเทศ ได้แก่ นายปาร์ค ซ็องฮา (Seong-ha Park) ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาเกาหลี ประจำประเทศไทย (KEC) ศาสตราจารย์ยู ฮเย จุน (Hae-jun Yoo) รองผู้อำนวยการฝ่ายการศึกษานานาชาติ สำนักวิเทศสัมพันธ์แฮจุน อาจารย์ประจำภาควิชาการสอนภาษาเกาหลี จาก Gyeongsang National University (GNU) อาจารย์ ดร.สิรินาถ ศิริรัตน์ จากมหาวิทยาลัยศิลปากร และอาจารย์ ดร.คิม ยุนฮวาน (Yun Hwan Kim) อาจารย์หลักสูตรภาษาตะวันออกเพื่อธุรกิจ (ภาษาเกาหลี) คณะศิลปศาสตร์ DPU
ภายในงานยังมีการออกบูธกิจกรรมสัมผัสวัฒนธรรมเกาหลีที่จัดโดยศูนย์วัฒนธรรมเกาหลีประจำประเทศไทย (KCC) ประกอบไปด้วย บูธสมุดโคเรียโคจร หรือห้องสมุดภาษาเกาหลีเคลื่อนที่ บูธอาหารเกาหลี (ต๊อกบกกีและคิมบับ ) บูธการแต่งกายชุดประจำชาติฮันบก และบูธการละเล่นพื้นบ้านเกาหลี นอกจากนี้บริษัท LP Korean Store ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายสินค้าอุปโภคและบริโภคที่นำเข้าจากประเทศเกาหลีใต้ยังได้มาออกร้านจำหน่ายอาหารเกาหลีและเครื่องดื่มในราคาย่อมเยา ทำให้ผู้เข้าร่วมงานซึ่งมาจากโรงเรียนที่เข้าร่วมการแข่งขัน นักศึกษา และบุคลากร DPU ได้สัมผัสวัฒนธรรมเกาหลีอย่างครบทุกมิติ
.jpg)
สำหรับผลการแข่งขันปรากฏว่า รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ โรงเรียนกาฬสินธุ์พิทยาสรรพ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ โรงเรียนสงวนหญิง จังหวัดสุพรรณบุรี รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ โรงเรียนราชโบริกานุเคราะห์ จังหวัดราชบุรี ส่วนรางวัลชมเชยมี 2 รางวัล ได้แก่ โรงเรียนวัฒโนทัยพายัพ จังหวัดเชียงใหม่ และ โรงเรียนสาธิต มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร ฝ่ายมัธยม กรุงเทพมหานคร


เครือข่ายความร่วมมือภาษาเกาหลีสู่เวทีการแข่งขันของเยาวชนไทย
ดร.วริศ ลิ้มลาวัลย์ คณบดีคณะศิลปศาสตร์ DPU กล่าวเปิดงานและขอบคุณ Gyeongsang National University (GNU) ศูนย์วัฒนธรรมเกาหลีประจำประเทศไทย (KCC) และศูนย์การศึกษาเกาหลี ประจำประเทศไทย (KEC) ที่เป็นผู้สนับสนุนการแข่งขันในครั้งนี้ พร้อมย้ำว่างานในวันนี้เป็นเวทีแห่งโอกาสที่เยาวชนไทยจะได้แสดงความสามารถทางภาษาเกาหลี อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์และการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างประเทศไทยและประเทศเกาหลีอีกด้วย
.jpg)

ส่วน อาจารย์สุรีรัตน์ ณิชาพัฒน์ รองคณบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา คณะศิลปศาสตร์ DPU กล่าวว่า ปีการศึกษา 2568 เป็นปีแรกที่คณะศิลปศาสตร์ DPU เปิดการเรียนการสอนสาขาภาษาเกาหลี และรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมกับ KCC , KEC และ GNU ในการสนับสนุนการเรียนการสอนวิชาภาษาเกาหลีและเผยแพร่วัฒนธรรมเกาหลีให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างผ่านกิจกรรมการแข่งขันการพูดสุนทรพจน์และการจัดงานวัฒนธรรมในครั้งนี้
KCC และ KEC ย้ำภาษาคือประตูสู่โลกใหม่และโอกาสที่ก้าวหน้า
นอกจากการส่งเสริมทักษะภาษาแล้ว การจัดงานวันนี้ยังสะท้อนถึงความร่วมมืออันแข็งแกร่งระหว่างสถาบันการศึกษาไทยกับเกาหลี โดยนางซอนจู ลี (Sun-ju Lee) ผู้อำนวยการศูนย์วัฒนธรรมเกาหลีประจำประเทศไทย (KCC) กล่าวแสดงความยินดีต่อการจัดการแข่งขันพร้อมขอบคุณมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ที่เปิดสาขาวิชาเอกภาษาเกาหลีขึ้นในปีนี้ รวมทั้งเห็นความตั้งใจจริงของคณาจารย์และผู้จัดงานที่ทำให้เวทีนี้เกิดขึ้นได้
“การเรียนรู้ภาษาคือการเดินอย่างกล้าหาญเข้าสู่โลกใบใหม่ ดังเช่นการเรียนภาษาเกาหลีนี้ สิ่งสำคัญที่สุดคือการทำความเข้าใจภูมิหลังทางวัฒนธรรม ศูนย์วัฒนธรรมเกาหลีประจำประเทศไทยจะคอยให้กำลังใจและสนับสนุนเยาวชนไทยที่เรียนภาษาเกาหลีทุกคน”

ผู้อำนวยการ KCC ยังกล่าวถึงบทบาทของศูนย์ฯ ที่ก่อตั้งขึ้นในกรุงเทพฯ เมื่อปี 2013 โดยมีภารกิจในการเผยแพร่วัฒนธรรมเกาหลีทั้งแบบดั้งเดิมและร่วมสมัย รวมถึงศิลปะและวัฒนธรรมป๊อป โดยในงานนี้ได้จัดกิจกรรมประสบการณ์ทางวัฒนธรรม เช่น การสวมชุดฮันบก ชิมอาหารเกาหลี เล่นเกมพื้นบ้าน และจัดแสดงหนังสือภาษาเกาหลีผ่านกิจกรรมสมุดโคเรียโคจร “ห้องสมุดเคลื่อนที่”
ด้านนายปาร์ค ช็องฮา ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาเกาหลี (KEC) ประจำประเทศไทย กล่าวต้อนรับนักเรียนและอาจารย์ที่ปรึกษา พร้อมขอบคุณผู้บริหารและคณาจารย์ของ DPU และแสดงความหวังว่า DPU จะเป็นผู้นำด้านการศึกษาภาษาเกาหลีในประเทศไทย และสามารถผลิตบุคลากรที่มีความสามารถด้านภาษาเพื่อรองรับโอกาสในโลกธุรกิจที่เชื่อมโยงกับเกาหลีใต้

ผู้อำนวยการ KEC ย้ำว่าศูนย์ฯ จะสนับสนุนการเรียนการสอนภาษาเกาหลีในไทยอย่างต่อเนื่อง พร้อมส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางการศึกษาระหว่างสองประเทศ เพื่อเปิดทางให้นักเรียนไทยได้เรียนต่อหรือทำงานในบริษัทเกาหลี โดยเชื่อมั่นว่าความร่วมมือด้านภาษาและวัฒนธรรมจะเป็นรากฐานสำคัญในการกระชับมิตรภาพระหว่างไทยกับเกาหลีให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
"คยองนัม" หัวข้อที่มากกว่าเวทีสุนทรพจน์
อาจารย์ ดร.คิม ยุนฮวาน (Yun Hwan Kim) อาจารย์หลักสูตรภาษาตะวันออกเพื่อธุรกิจ (ภาษาเกาหลี) คณะศิลปศาสตร์ DPU ซึ่งร่วมเป็นกรรมการตัดสิน ได้กล่าวถึงการเลือกหัวข้อการแข่งขันว่า ผู้จัดงานมีความตั้งใจที่จะขยายมุมมองเกี่ยวกับประเทศเกาหลีใต้ของเยาวชนไทย โดยเฉพาะการแนะนำภูมิภาคที่ยังไม่เป็นที่รู้จักแพร่หลายในประเทศไทย อย่างเช่น จังหวัดคยองนัม ซึ่งมีความโดดเด่นทั้งด้านการอยู่อาศัยและการศึกษา
อาจารย์ ดร. คิม ยังอธิบายเพิ่มเติมว่า การเลือกจังหวัดคยองนัมเป็นหัวข้อหลักของการแข่งขันครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อสร้างความเข้าใจใหม่ๆ นอกเหนือจากเมืองหลักอย่างโซลและปูซานที่คนไทยคุ้นเคยอยู่แล้ว โดยเชื่อมั่นว่านักเรียนที่เข้าร่วมทุกคนได้ค้นคว้าเกี่ยวกับจังหวัดนี้มาอย่างลึกซึ้ง และจะสามารถถ่ายทอดเรื่องราวได้อย่างมีมิติผ่านเวทีสุนทรพจน์
นอกจากการเลือกหัวข้อที่เปิดโลกทัศน์ใหม่ ๆ แล้ว รูปแบบของการแข่งขันสุนทรพจน์ยังช่วยให้ผู้เรียนได้ฝึกฝนการใช้ภาษาเกาหลีในสถานการณ์จริง โดยเฉพาะการนำเสนอและตอบคำถามต่อหน้าคณะกรรมการเจ้าของภาษา ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่หาได้ยากในระดับชั้นมัธยม อาจารย์ปองพนธ์ สวนศรี หัวหน้าหลักสูตรภาษาตะวันออกเพื่อธุรกิจ DPU มองว่า การเตรียมตัวอย่างจริงจังและการได้รับข้อเสนอแนะจากอาจารย์ผู้ฝึกซ้อมเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยให้ผู้เรียนพัฒนาทักษะได้ลึกกว่าการเรียนในห้องเรียนทั่วไป

จากซีรีส์เกาหลีสู่เวทีใหญ่ "ความพยายามไม่เคยทำให้ผิดหวัง"
หลังการแข่งขันที่เข้มข้นและสนุกสนาน ทีมชนะเลิศจาก “โรงเรียนกาฬสินธุ์พิทยาสรรพ์” ได้เปิดเผยว่า การเตรียมตัวอย่างหนักเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการนำเสนอ และครั้งนี้เป็นการขึ้นเวทีสุนทรพจน์ภาษาเกาหลีครั้งแรกของโรงเรียนอีกด้วย
"พวกหนูรู้สึกว่าความพยายามไม่เคยทำให้เราผิดหวังเลยค่ะ เพราะยิ่งเราพยายามมาก ความพยายามนั้นก็จะยิ่งพาเราไปถึงเป้าหมายของเราได้มากขึ้น และถึงแม้ว่าในตอนแรกจะไม่คิดว่าจะชนะด้วยซ้ำ แต่การได้ขึ้นเวทีนี้ก็ทำให้พวกเรามีความมั่นใจในตนเองสูงขึ้นอย่างมาก"
ด้านอาจารย์ผู้ควบคุมทีมกล่าวเสริมว่า แม้จะต้องปรับบทอย่างกะทันหัน แต่นักเรียนก็เตรียมตัวอย่างหนักในช่วงปิดเทอม โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อสร้างแฟ้มผลงานสำหรับใช้สมัครเข้ามหาวิทยาลัย พร้อมย้ำความเชื่อมั่นในศักยภาพของนักเรียนว่า “เราต้องเชื่อว่าตัวเรามีศักยภาพ ดังนั้นครูจะบอกให้นักเรียนมั่นใจในตนเองแล้วทำให้เต็มที่ ต้องซ้อมให้เหมือนแข่งจริง ส่วนวันแข่งจริงก็คิดว่าทำให้เหมือนตอนซ้อม เพื่อที่จะไม่กดดันเวลาขึ้นเวที”

ส่วนทีมรองชนะเลิศอันดับ 1 จาก “โรงเรียนสงวนหญิง” จังหวัดสุพรรณบุรี กล่าวว่า หัวข้อที่กำหนดให้คือเรื่องราวของจังหวัดคยองนัม กลายเป็นแรงจูงใจให้ค้นคว้าข้อมูลอย่างจริงจัง จนได้เรียนรู้ประวัติและบริบทของพื้นที่นั้นควบคู่ไปกับการฝึกภาษา ขณะเดียวกันทีมยังให้ความสำคัญกับการคัดเลือกผู้เข้าแข่งขันจากความตั้งใจมากกว่าความเก่งเฉพาะด้าน โดยเชื่อว่าคนที่ “ตั้งใจจริง” จะสามารถทุ่มเทกับการซ้อมได้เต็มที่และสามารถสร้างผลงานที่ดีที่สุดบนเวทีได้เช่นกัน
เช่นเดียวกับทีมรองชนะเลิศอันดับ 2