ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
การเมือง / การปกครอง ย้อนกลับ
นายกฯ อนุทิน ลงพื้นที่แม่สอด ติดตามปฏิบัติการผลักดันลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายกลับประเทศ สั่งทุกหน่วยบังคับใช้กฎหมายเด็ดขาด
11 พ.ย. 2568

"นายกฯ อนุทิน" ลงพื้นที่แม่สอด ติดตามปฏิบัติการผลักดันลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายกลับประเทศ สั่งทุกหน่วยบังคับใช้กฎหมายเด็ดขาด มอบมหาดไทยคุมเข้ม "มาตรการ 3 ตัด" ตัดไฟ-ตัดน้ำมัน-ตัดอินเทอเน็ต ยกระดับ "ปราบสแกมเมอร์-อาชญากรรมข้ามชาติ"
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์บุคคลต่างชาติลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย โดยมี นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายวิชาวัฒน์ อิศรภักดี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นายชูชีพ พงษ์ไชย รองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย พล.ท.วรเทพ บุญญะ แม่ทัพภาคที่ 3 นายวินัย โตเจริญ รองอธิบดีกรมการปกครอง นายสวนิต สุริยกุล ณ อยุธยา รองผู้ว่าราชการจังหวัดตาก รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดตาก พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงประชุม ณ ห้องประชุมท่าอากาศยานนานาชาติแม่สอด อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก
นายอนุทิน กล่าวว่า วันนี้เรามาตรวจเยี่ยมปฏิบัติการส่งตัวผู้ที่ลักลอบเข้าเมืองกลับไปยังภูมิลำเนาของตน ซึ่งเป็นไปตามนโยบายที่รัฐบาลได้ดำเนินการกับปัญหาเหล่านี้ที่เป็นอุปสรรคและสร้างภาระให้กับประเทศ เสียทั้งเวลาและงบประมาณในการดูแล แม้ว่าบุคคลเหล่านี้จะถูกควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่ สิ่งที่ทำได้คือการเร่งประสานงานกับประเทศต้นทางให้มารับตัวกลับ ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ทั้งในด้านมาตรการทางการทูตและการดำเนินคดีส่งผู้ร้ายข้ามแดน เราดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อให้บุคคลเหล่านี้กลับไปรับโทษในประเทศของตน
"สำหรับการหารือกับเอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทย ซึ่งตนมีความคุ้นเคยเป็นการส่วนตัว ก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี หลังจากทราบว่าที่จังหวัดตากมีผู้ต้องหาลักลอบเข้าเมืองกว่า 1,000 คน อีกทั้งมีผู้ที่หนีความรุนแรงจากประเทศเมียนมาร์เข้ามาในประเทศไทยจนถูกดำเนินคดี ท่านได้ประสานงานกับรัฐบาลอินเดียและเกิดความร่วมมือในการส่งบุคคลเหล่านี้กลับไปยังประเทศอินเดีย เพื่อรับโทษตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป" นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ในส่วนการประชุมติดตามสถานการณ์ในวันนี้ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด สร้างระบบประสานงานแบบบูรณาการ เชื่อมโยงข้อมูลข่าวกรองและการสืบสวนให้มีเอกภาพ รวมทั้งดำเนินการยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับเส้นทางการเงิน ไม่ให้ประเทศไทยเป็นฐานฟอกเงิน ซึ่งที่ผ่านมาก็มีผลการดำเนินงานอย่างชัดเจน สามารถยึดทรัพย์ได้หลายหมื่นล้านบาท
"ได้กำชับให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติและสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองคัดกรองบุคคลที่เดินทางเข้ามา หากไม่ได้เดินทางมาท่องเที่ยวหรือประกอบธุรกิจที่เป็นสัมมาอาชีพ ก็ต้องสอดส่องดูแลเป็นพิเศษ ไม่ให้ประเทศไทยเป็นช่องทางผ่านในการทำธุรกิจหรือเดินทางไปยังประเทศเพื่อนบ้าน และเมื่อเกิดความรุนแรงก็ลักลอบกลับเข้ามา ซึ่งเรายืนยันว่าเราไม่สนับสนุนเรื่องเหล่านี้ที่ทำให้ประเทศต้องเสียงบประมาณและโอกาสในการบริหารจัดการ ดังนั้นจึงได้ย้ำกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองว่า เราต้องใช้โมเดลและวิธีการดังกล่าวกับประเทศอื่น ๆ เช่นเดียวกัน" นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของกระทรวงมหาดไทย ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอจัดทำแผนศึกษาปัญหาในพื้นที่รับผิดชอบ และจัดตั้งชุดปฏิบัติการพิเศษในการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยี บูรณาการทุกฝ่ายร่วมกันสกัดภัยไซเบอร์ ให้มีความเข้มงวดในการรักษาความสงบเรียบร้อยของชุดปฏิบัติการ พร้อมทั้งดำเนินให้ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดและอำเภอเป็นศูนย์ประสานงานช่วยเหลือผู้เสียหายจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และให้นายอำเภอใช้กลไกกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และชรบ. ในการเฝ้าระวังป้องกันภัยในชุมชน เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบจุดผ่านแดนและบุคคลที่มีพฤติกรรมเสี่ยง รวมถึงดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ถือสัญชาติที่กระทำความผิด ควบคู่กับการสร้างความรู้เท่าทันภัยดิจิทัลแก่ประชาชน
รัฐบาลเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ โดยเฉพาะสแกมเมอร์ อาชญากรรมข้ามชาติ และการค้ามนุษย์ ซึ่งเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติที่ทุกภาคส่วนให้ความสำคัญและติดตามอย่างใกล้ชิด เราได้บูรณาการทำงานอย่างเป็นรูปธรรมร่วมกับฝ่ายความมั่นคงและฝ่ายปกครองในการติดตามและปราบปรามอย่างเข้มข้นต่อเนื่อง โดยมีมาตรการที่ชัดเจน คือ “มาตรการ 3 ตัด” ได้แก่ ตัดไฟ ตัดเชื้อเพลิง และตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ต ซึ่งจะนำไปใช้ทันทีในจังหวัดชายแดนที่มีปัญหา เนื่องจากเป็นภัยต่อความมั่นคง ทั้งนี้ หากก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อความมั่นคง ก็สามารถระงับการดำเนินการได้ทันที พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบ เพื่อเป็นตัวอย่างสำหรับพื้นที่อื่น ๆ ซึ่งผมเชื่อมั่นว่าทุกท่านปฏิบัติงานอย่างเต็มที่ และขอให้ดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
รัฐบาลจะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ในทุกด้าน ขอให้ทุกภาคส่วนช่วยกันอุดช่องโหว่ที่พบ พร้อมเสนอแนวทางแก้ไขหรือข้อบกพร่องในการปฏิบัติงานให้รัฐบาลทราบเพื่อสามารถแก้ไขได้ เช่นเดียวกับการผลักดันผู้ที่เข้ามาโดยผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นอุปสรรคและปัญหาในการดูแลและสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน รวมถึงกรณีการหลอกลวงประชาชนคนไทย เราต้องทำให้ทุกคนตระหนักว่า "เจ้าหน้าที่ของรัฐไม่มีทางโทรหาประชาชน และไม่มีการให้โอนเงินมาตรวจสอบ" และขอขอบคุณทุกท่านที่ได้รายงานสถานการณ์ในพื้นที่ รวมถึงการดำเนินการและมาตรการในการป้องกันและปราบปราม Call Center ตามแนวชายแดนในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน ตลอดจนการดำเนินการกับต่างชาติที่ลักลอบเข้ามาในพื้นที่ ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นถือเป็นภัยอาชญากรรมข้ามชาติ การค้ามนุษย์ และการหลอกลวง หรือที่เรียกว่าสแกมเมอร์ ที่สร้างความเดือดร้อนให้กับคนจำนวนมาก รวมถึงผู้ที่เราส่งกลับไปในวันนี้ อันเป็นภาระต่อประเทศในการดูแลและแก้ไขปัญหา เสี่ยงต่อการต้องดำเนินการกับอาชญากรรมเหล่านี้ และเสียทั้งเวลาและงบประมาณในการพัฒนาประเทศ ดังนั้น เราจำเป็นต้องดำเนินการกับเรื่องดังกล่าวอย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน รัฐบาลได้มีการตั้งบอร์ดป้องกันสแกมเมอร์เพื่อบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน พร้อมทั้งจัดทำ MOU ประกาศสงครามสแกมเมอร์ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการอย่างจริงจังและเด็ดขาด

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 1 - 15 พฤศจิกายน 2568
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
15 ต.ค. 2568
กล่าวได้ว่าการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น นับเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญต่อการปกครอง ในระบอบประชาธิปโตย และก็กล่าวได้อีกเช่นกัน ว่า รัฐธรรมนูญ 2540 คือต้นธารที่ส่งผลให้การ กระจายอำนาจสู่ห้องถิ่นของประเทศไทยมีความ สำคัญมากขึ้นมาเป็นลำดับซึ่งแม้ในตลอด 20 กว่าปี ที่ผ่านม...