กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ตรวจพบข่าวปลอมรายสัปดาห์ ที่ประชาชนให้ความสนใจสูงสุดอันดับที่ 1 เรื่อง “ปลายปีนี้ ประชาชนเตรียมรับเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท” รองลงมาคือเรื่อง “อนุมัติเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เฟส 3 แล้ว” เตือนประชาชน อย่าหลงเชื่อข่าวปลอม อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด สับสน ตื่นตระหนก และวิตกกังวลในสังคม รวมทั้งอาจทำให้สูญเสียทรัพย์สิน และข้อมูลส่วนบุคคล ขอให้เลือกเชื่อ เลือกแชร์ ข้อมูลที่เป็นประโยชน์
นางสาวสุชาดา ซาง แทนทรัพย์ โฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวถึงผลการมอนิเตอร์และรับแจ้งข่าวปลอมของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประเทศไทย (AFNC) ซึ่งเป็นไปตามนโยบายการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยความมั่นคงและภัยทางสังคมของนายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ที่ต้องการให้มีการบูรณาการข้อมูลของหน่วยงานเพื่อเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจด้านการใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัลให้กับประชาชน โดยยกระดับความสำคัญเรื่องการสร้างความตระหนักรู้เท่าทันภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ข่าวปลอม และข้อมูลบิดเบือน ทั้งนี้ในระหว่างวันที่ 24 – 30 ตุลาคม 2568 พบข้อความที่เข้ามาทั้งหมด 1,000,907 ข้อความ โดยมีข้อความที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ (Verify) ทั้งสิ้น 809 ข้อความ
สำหรับช่องทางที่มีการพบเบาะแสมากที่สุด คือ ข้อความที่มาจาก Social Listening จำนวน 792 ข้อความ ตามมาด้วยการแจ้งเบาะแสผ่าน Line Official จำนวน 16 ข้อความ และช่องทาง Facebook จำนวน 1 ข้อความ รวมเรื่องที่ต้องดำเนินการตรวจสอบทั้งหมด 186 เรื่อง และจากการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับผลการตรวจสอบกลับมาแล้ว 63 เรื่อง
กระทรวงดีอี ได้แบ่งข่าวปลอมที่ได้รับความสนใจเป็น 5 กลุ่ม ประกอบด้วย
กลุ่มที่ 1 : นโยบายรัฐบาล ข่าวสารทางราชการ ความสงบเรียบร้อยของสังคม ขัดศีลธรรมอันดี และความมั่นคงภายในประเทศ จำนวน 115 เรื่อง
กลุ่มที่ 2 : ผลิตภัณฑ์สุขภาพ วัตถุอันตราย เครื่องสำอาง รวมถึงสินค้าและบริการที่ผิดกฎหมายจำนวน 29เรื่อง
กลุ่มที่ 3 : ภัยพิบัติ จำนวน 6 เรื่อง
กลุ่มที่ 4 : เศรษฐกิจ จำนวน 3 เรื่อง
กลุ่มที่ 5 : กลุ่มอาชญากรรมออนไลน์ จำนวน 33 เรื่อง
นางสาวสุชาดา กล่าวต่อว่า เมื่อพิจารณาจากข่าวปลอมที่ได้รับความสนใจในลำดับต้นๆ ในสัปดาห์นี้ส่วนใหญ่เป็นข่าวเกี่ยวกับนโยบายรัฐบาลที่ผ่านมา และการให้บริการของหน่วยงานรัฐ ความมั่นคงระหว่างประเทศ ข่าวที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์สุขภาพ ซึ่งทั้งหมดมีผลกระทบต่อสังคมส่วนใหญ่ อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด สับสน ตื่นตระหนก และวิตกกังวลได้ รวมทั้งอาจทำให้สูญเสียทรัพย์สิน หรือ ข้อมูลส่วนบุคคล โดยข่าวที่ได้รับความสนใจจากประชาชนมากที่สุด 10 อันดับ ได้แก่
อันดับที่ 1 : เรื่อง ปลายปีนี้ ประชาชนเตรียมรับเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท
อันดับที่ 2 : เรื่อง อนุมัติเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เฟส 3 แล้ว
อันดับที่ 3 : เรื่อง กษัตริย์ภูฏาน มอบเงินช่วยเหลือคนไทย 1 ล้านบาท สนับสนุนทหารไทยปกป้องแผ่นดิน
อันดับที่ 4 : เรื่อง Bactofin ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ช่วยดีท็อกซ์ กำจัดปรสิต และพยาธิในร่างกาย
อันดับที่ 5 : เรื่อง การบินไทย แจ้งหลักเกณฑ์ผู้สูงอายุก่อนขึ้นเครื่องบิน
อันดับที่ 6 : เรื่อง ผลิตภัณฑ์ DHA Brain Kid ปรับสมดุลสมอง ช่วยควบคุมพฤติกรรมทางอารมณ์ของเด็ก
อันดับที่ 7 : เรื่อง วัคซีน mRNA มีผลข้างเคียงมากกว่า 1,200 รายการ
อันดับที่ 8 : เรื่อง สไบเป็นมรดกสืบทอดของกัมพูชามาแต่โบราณ
อันดับที่ 9 : เรื่อง ข้าราชการถูกรางวัลลอตเตอรี่หลายใบ อาจถูกพิจารณาให้ออกจากราชการ
อันดับที่ 10 : เรื่อง สสช. จัดอันดับ 10 จังหวัดที่คุณภาพชีวิตแย่ที่สุดในไทย
สำหรับอันดับ 1 เรื่อง “ปลายปีนี้ ประชาชนเตรียมรับเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท” กระทรวงดีอี ประสานงานร่วมกับ กลุ่มสารนิเทศการคลัง กระทรวงการคลัง ตรวจสอบพบว่าเป็นข้อมูลเท็จ โดยขอยืนยันว่ายังไม่มีการประกาศนโยบายหรือรายละเอียดการดำเนินงานอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ในช่วงปลายปี 2568 ตามที่ปรากฏในสื่อสังคมออนไลน์แต่อย่างใด หากมีความคืบหน้าเกี่ยวกับโครงการดังกล่าว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะแจ้งให้ประชาชนทราบอย่างเป็นทางการต่อไป
ทั้งนี้ เนื้อหาข่าวสารและแหล่งข้อมูลที่เผยแพร่ อาจไม่มีความน่าเชื่อถือและมีความเสี่ยงต่อการหลอกลวงประชาชน ขอประชาชนติดตามประกาศอย่างเป็นทางการ จากรัฐบาลเพื่อหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิด หรือสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.thaigov.go.th หรือติดต่อสายด่วนรัฐบาล 1111
เช่นเดียวกับข่าวปลอมอันดับ 2 เรื่อง “อนุมัติเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เฟส 3 แล้ว” ซึ่งกลุ่มสารนิเทศการคลัง กระทรวงการคลัง ได้ยืนยันว่าเป็นข่าวปลอมเช่นกัน จึงขอเตือนประชาชนโปรดอย่าหลงเชื่อ
อย่างไรก็ตาม ดีอี มีความห่วงใยประชาชน เรื่องความตระหนักรู้เท่าทันข่าวปลอมที่ถูกแพร่กระจายบนสื่อออนไลน์ โซเชียล ซึ่งหากขาดความรู้เท่าทัน และส่งต่อข้อมูลข่าวปลอม ทำให้เกิดการหลงเชื่อ สร้างความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน เกิดความวิตกกังวล หรืออาจสร้างความเสียหายต่อชีวิต ทรัพย์สิน หรือข้อมูลส่วนบุคคล และอาจส่งผลกระทบต่อประชาชนในสังคมเป็นวงกว้าง ดังนั้นจึงควรตรวจสอบข้อเท็จจริงของข่าวหรือลิงก์เว็บไซต์ให้แน่ชัด
หากประชาชน พบข่าวน่าสงสัย ข้อมูลบิดเบือน สามารถแจ้งเบาะแส และตรวจสอบข่าวปลอมได้ที่ โทรสายด่วน 1111 ต่อ 87 (24 ชม.) หรือที่| เว็บไซต์ www.antifakenewscenter.com | Line ID: @antifakenewscenter | Facebook : Anti-Fake News Center Thailand X : @AFNCThailand | TikTok : @antifakenewscenter | IG : afnc_thailand/