ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
ท้องถิ่นไทย ย้อนกลับ
สกลนคร เนื้อแดดเดียว หนังเค็มแม่นี สุดยอดความอร่อยขายดีหน้าหนาว
31 ต.ค. 2568

ว่ากันว่า ในฤดูหนาวของแต่ละปี มักจะเห็นชาวบ้านจี่หนังเค็มเพื่อจะรับประทานกันในตอนเช้าหรือตอนค่ำ เพราะได้ผิงไฟไปด้วยขณะทำการจี่หรือเผา นายอาทิตย์ แสนมะฮุง รองนายกเทศมนตรีตำบลเชียงเครือ พาไปดูอาชีพแปรรูปหนังควายให้เป็นหนังเค็ม  นั่นก็คือ "หนังเค็มแม่นี" คือชื่อหนังเค็มที่ทำตามตำรับของ "แม่ณี" หรือนางเกษมณี พร้อมวงศ์ อายุ 60 ปี ชาวบ้านหนองสนม

ต.เชียงเครือ อ.เมือง จ.สกลนคร ซึ่งมีอาชีพทำหนังเค็มขายมากว่า 40 ปีแล้ว นอกจากจะทำหนังเค็มแล้ว ยังทำดนื้อแดดเดียวด้วย เรียกว่าขายทั้งเนื้อหนัง  เป็นสูตรทำหนังเค็มจากบ้านหนองสนม ผลิตภัณฑ์นี้เป็นหนังเค็มที่นำไปเผา ทุบ และนำไปประกอบอาหารอื่น ๆ ได้ เช่น แกงขี้เหล็ก ยำ หรือซุป ซึ่งวิธีการทำ หลังจากแล่และหมักหนังด้วยเกลือแล้ว จะนำไปคลุกกับรำข้าว ก่อนนำไปตากแดดให้แห้ง 
วิธีรับประทาน: สามารถนำไปเผาไฟให้หอมและทุบเป็นชิ้นเล็ก ๆ เพื่อทานเล่นได้ หรือนำไปประกอบอาหารอื่น ๆ เช่น แกงขี้เหล็ก ยำหนังเค็ม หรือซุปหนังเค็มก็ได้  ส่วนรสชาดมีความหอมกรอบจากการเผา ทำให้มีรสชาติอร่อยเป็นที่นิยม

นายเมธึ สังกฤษทอายุ 40 ปี
ลูกชายของแม่นีเป็นผู้มารับช่วงต่อเล่าว่าตนทำหนังเค็มมาตั้งแต่ยังเล็กกว่า 20 ปีแล้ว ในช่วงฤดูหนาวจะขายดีเป็นพิเศษ บางปีต้องสั่งหนังความมาสต๊อกไว้ถึง 2 ตัน โดยซื้อมาในราคา กิโลกรัมละ 25-30 บาท แต่เมื่อแผรรูปออกมาเป็นหนังแล้วราคาจะพุ่งถึง 3 เท่า เมื่อนำมาตัดเป็นท่อนๆละ5-6 นิ้ว 8 ท่อน จะขายราคา 40 บาท แต่ถ้าเป็นหนังยาวๆไม่ได้ตัด ความยาวประมาณ 80 ซม.มัดละ 20 บาท ขายส่ง 3 มัด 50 บาท โดยก่อนที่จะนำไปตากแห้งจะต้องเถือหนังให้เป็นเส้น แล้วจะนำไปหมักเกลือ 3 วัน จึงนำมาคลุกกับรำแก่ จากนั้นนำไปตากและนำไปขายได้ สำหรับเนื้อแดดเดียวนั้น ก็ชำแหละให้เป็นชิ่้นปรุงรสด้วย ซอส เกลือ น้ำตาล ผงชูรส และรสดี นำไปตากเพียงแดดเดียวก็นำไปจำหน่ายได้ ขายหมดทุกว้น วันละ 20-30 กิโลกรัมๆละ 500 บาท ใครที่ต้องการหนังเค็ม หรือเรื้อแดดเดียวไปรับประทาน ติดต่อที่  โทร 0885157885

/////////////////// วัฒนะ แก้วก่า/สกลนคร 0819541528

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16-31 ตุลาคม 2568
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
15 ต.ค. 2568
กล่าวได้ว่าการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น นับเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญต่อการปกครอง ในระบอบประชาธิปโตย และก็กล่าวได้อีกเช่นกัน ว่า รัฐธรรมนูญ 2540 คือต้นธารที่ส่งผลให้การ กระจายอำนาจสู่ห้องถิ่นของประเทศไทยมีความ สำคัญมากขึ้นมาเป็นลำดับซึ่งแม้ในตลอด 20 กว่าปี ที่ผ่านม...