ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
การเมือง / การปกครอง ย้อนกลับ
ด่วน วรภัค ยื่นลาออกรัฐมนตรีฯช่วยคลังปัดเอี่ยวสแกมเมอร์กัมพูชา
22 ต.ค. 2568

นายวรภัค ธันยาวงษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีมีการเผยแพร่ข่าวบิดเบือนและใส่ร้ายว่าตนมีส่วนเกี่ยวข้องกับแก๊งหลอกลวง ฟอกเงิน และธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศกัมพูชา โดยยืนยันว่า “ไม่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับขบวนการดังกล่าวทั้งสิ้น” และเตรียมดำเนินคดีทางกฎหมายกับผู้ที่เผยแพร่ข้อมูลเท็จ จากนั้น นายวรภัค ตัดสินใจลาออก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังโดยได้ปรึกษากับนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี แล้วและให้ตนเป็นผู้ตัดสินใจ ยืนยันไม่ได้ถูกกดดันจากรัฐบาล และการตัดสินใจใช้เวลาไม่นาน

นายวรภัค ยังบอกด้วยว่า กรณีการที่บุคคลใดนำชื่อของตนในอดีตไปเชื่อมโยงกับบุคคลหรือเครือข่ายใดในภายหลัง โดยการคาดเดากล่าวอ้างหรือกล่าวเท็จเรื่อง เป็นนอมินี หรือเป็นฟันเฟืองสำคัญของสแกมเมอร์ ถือเป็นการใส่ร้ายป้ายสีและบิดเบือนข้อเท็จจริง และขบวนการใส่ร้ายป้ายสีกได้เหิมเกริมไปถึงภรรยาว่าได้รับผลประโยชน์เป็นเงินคริปโทฯ จำนวนหลายล้านเหรียญ ซึ่งไม่เป็นความจริงแต่อย่างใดขอยืนยันว่าภรรยาของกระผมไม่เคยมีบัญชีคริปโทฯ ใดๆ ทั้งสิ้นทั้งในอดีตและปัจจุบัน และไม่เคยได้รับผลประโยชน์ใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการนี้เลย

พร้อมปฏิเสธข้อกล่าวหา ใส่ร้าย ป้ายสี ทั้งหมดอย่างชัดเจนว่า ไม่เคย มีส่วนเกี่ยวข้องหรือมี ผลประโยชน์ร่วมกับกลุ่มบุคคลหรือขบวนการที่เกี่ยวข้องกับ สแกมเมอร์กัมพูชา หรือกระบวนการต้มตุ๋น หลอกลวง ธุรกิจผิดกฎหมายใดๆ ทั้งสิ้น และจะการดำเนินการดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ที่บิดเบือนและเผยแพร่ข้อมูลเท็จ ที่ทำให้เสียชื่อเสียง เพื่อปกป้องชื่อเสียงส่วนบุคคลและเกียรติของตำแหน่งทางการเมืองที่ได้รับมอบหมาย ซึ่งตลอดชีวิตการทำงานกว่า 30 ปีของอยู่บนหลักความสุจริต โปร่งใส และความรับผิดชอบต่อสังคม ผมไม่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการหลอกลวง ต้มตุ๋น หรือธุรกิจผิดกฎหมายใด ๆ ทั้งในกัมพูชาหรือประเทศอื่น

สำหรับ นายวรภัค อยู่ในวงการการเงินและธนาคารมากกว่า 30 ปี เคยดำรงตำแหน่งสำคัญในสถาบันการเงินชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ เช่น

กรรมการผู้จัดการใหญ่ Bank of America (ประเทศไทย)

กรรมการผู้จัดการใหญ่ J.P. Morgan Chase (ประเทศไทย)

กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (ถึงปี 2559)

หลังเกษียณจากงานประจำเมื่ออายุ 52 ปี ได้ทำงานด้านองค์ความรู้ เขียนบทความทางเศรษฐกิจและการเงิน รวมถึงเป็นที่ปรึกษาให้บริษัทที่ปรึกษาระดับโลก

ต่อมาในปี 2567 ได้รับเกียรติให้ดำรงตำแหน่ง ประธานคณะที่ปรึกษาของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายพิชัย ชุณหวชิร และในปี 2568 ได้รับแต่งตั้งเป็น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อร่วมขับเคลื่อนนโยบายทางเศรษฐกิจของรัฐบาล ผมไม่เคยมีความทะเยอทะยานทางการเมือง มีเพียงความตั้งใจใช้ความรู้และประสบการณ์เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ในตอนหนึ่งของการแถลง นายวรภัค ยอมรับว่า รู้จัก Mr. Benjamin Mauerberger เพราะบุตรเรียนอยู่โรงเรียนเดียวกันในประเทศไทย แต่ไม่มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจใดๆ ทั้งสิ้น นอกจากนี้ ยังพูดถึง กรณีถูกโยงกับบริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส (Finansia Syrus : FSS)

นายวรภัคอธิบายว่า การเข้าซื้อหุ้น 29% ของบริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส ในปี 2564 ผ่านบริษัท Pilgrim Finansa เป็นการลงทุนที่ถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ และได้รับการอนุมัติจากตลาดหลักทรัพย์ฯ และสำนักงาน ก.ล.ต.

ธุรกรรมดังกล่าวเป็นลักษณะ Management Buyout โดยเขาและคุณช่วงชัย ผู้บริหารของบริษัท ได้ร่วมกันลงทุนเพื่อพัฒนาบริษัทให้เติบโต มีผู้สนับสนุนทางการเงินจากธนาคารและกองทุนในสิงคโปร์ Capital Asia Investment (CAI) และ BIC Bank Lao ซึ่งเป็นธนาคารในลาวที่มีผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นกลุ่มธุรกิจลาวและการไฟฟ้าลาว ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับ BIC Bank Cambodia แต่อย่างใด

นายวรภัค ระบุเพิ่มเติมว่า หลังจากการปรับโครงสร้างบริษัทในช่วงปี 2564–2567 ได้ตัดสินใจขายหุ้นทั้งหมดให้คุณช่วงชัยและลาออกจากทุกตำแหน่งบริหาร และไม่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทอีกต่อไป

ต่อมา นายวรภัค โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว Vorapak Tanyawong ระบุว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา ผมปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต มุ่งมั่นขับเคลื่อนภารกิจด้านเศรษฐกิจและการคลังของประเทศให้เดินหน้าอย่างเต็มกำลัง ภายใต้ข้อจำกัดของเวลารัฐบาลที่มีอยู่อย่างจำกัด และความคาดหวังของประชาชนที่สูงมาก

อย่างไรก็ดี จากสถานการณ์ที่ผมถูกใส่ร้ายป้ายสีด้วยข้อมูลเท็จ ผมจำเป็นต้องใช้เวลาและพลังเป็นอย่างมากในการดำเนินคดีทางกฎหมายกับผู้ไม่หวังดี ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อภารกิจหลักของผมในการขับเคลื่อนนโยบายของกระทรวงการคลังให้บรรลุผล ผมจึงได้ตัดสินใจ ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อไม่ให้เรื่องส่วนบุคคลของผมกลายเป็นภาระหรือเงื่อนไขที่อาจกระทบต่อความคล่องตัวและประสิทธิภาพของรัฐบาล

การตัดสินใจครั้งนี้มีเป้าหมายสำคัญเพื่อ ยืนยันหลักความโปร่งใส และรักษาความเป็นอิสระของรัฐบาลในการบริหารประเทศ ให้ปราศจากข้อครหา และไม่เปิดช่องให้ฝ่ายใดนำเรื่องส่วนตัวของผมมาเป็นอุปสรรคต่อภารกิจของรัฐบาล ผมเชื่อมั่นว่า ความโปร่งใส ความเป็นมืออาชีพ และความมุ่งมั่นของรัฐบาล จะช่วยให้สามารถขับเคลื่อนนโยบายสำคัญเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนได้อย่างมั่นคงและต่อเนื่อง ผมยังคงยืนยันในความบริสุทธิ์ของตนเอง และจะดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ที่บิดเบือนและเผยแพร่ข้อมูลเท็จ เพื่อปกป้องเกียรติ ชื่อเสียง และหลักความจริง โดยทำทั้งหมดนี้ โดยไม่ให้เกิดความขัดแย้งกับภารกิจของรัฐบาล ผมขอขอบคุณท่านนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี ข้าราชการ และประชาชนทุกคนที่ให้ความไว้วางใจและสนับสนุนการทำงานของผมตลอดมา ผมจะยังคงยืนหยัดในหลักนิติธรรม และทำหน้าที่ในฐานะพลเมืองที่รักและปรารถนาดีต่อประเทศชาติอย่างเต็มกำลังต่อไป

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16-31 ตุลาคม 2568
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
15 ต.ค. 2568
กล่าวได้ว่าการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น นับเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญต่อการปกครอง ในระบอบประชาธิปโตย และก็กล่าวได้อีกเช่นกัน ว่า รัฐธรรมนูญ 2540 คือต้นธารที่ส่งผลให้การ กระจายอำนาจสู่ห้องถิ่นของประเทศไทยมีความ สำคัญมากขึ้นมาเป็นลำดับซึ่งแม้ในตลอด 20 กว่าปี ที่ผ่านม...