ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
สื่อสาร - คมนาคม ย้อนกลับ
มัลลิกา ยืนยัน Digital Taxi Meter เป็นแนวคิดพัฒนาและยกระดับแท็กซี่ไทย
21 ต.ค. 2568

มัลลิกา” ยืนยัน “Digital Taxi Meter” เป็นแนวคิดพัฒนาและยกระดับแท็กซี่ไทย เน้นย้ำ ยังไม่มีการขึ้นค่าโดยสาร มั่นใจทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้ประโยชน์

ห้องประชุมราชดำเนิน อาคาราชรถสโมสร กระทรวงคมนาคม นางสาวมัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วยนายปัญญา ชูพานิช รองปลัดกระทรวงคมนาคม หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านการขนส่ง และนายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ร่วมชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับแนวทางการยกระดับรถแท็กซี่ด้วย Digital Taxi Meter เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริการของรถแท็กซี่ให้มีความทันสมัย โปร่งใส สร้างความมั่นใจให้กับผู้โดยสารมากขึ้นในอนาคต รวมถึงการบังคับใช้กฎหมายในการปราบปรามรถแท็กซี่ผิดกฎหมายอย่างเคร่งครัด พร้อมนี้ได้แถลงยืนยันไม่มีการปรับขึ้นอัตราค่าบริการของรถแท็กซี่ตามเป็นกระแสข่าวแต่อย่างใด

นางสาวมัลลิกา กล่าวว่า กระทรวงคมนาคม โดยกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ขอชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับนโยบาย Digital Taxi Meter ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับมาตรฐานการให้บริการรถแท็กซี่ สร้างความโปร่งใส และเพิ่มความปลอดภัยแก่ผู้ใช้บริการ ดังนี้

1. ยกระดับความเชื่อมั่นและความปลอดภัยของผู้ใช้บริการ Digital Taxi Meter ไม่ใช่เพียงการปรับเครื่องคิดค่าโดยสาร แต่จะมีระบบ QR Code ที่ผู้โดยสารสามารถสแกนเพื่อตรวจสอบตัวตนคนขับได้ทันที ป้องกันแท็กซี่เถื่อนหรือการสวมสิทธิ์ และมีช่องทางเชื่อมโยงไปยังระบบรับเรื่องร้องเรียนของ ขบ. โดยตรง ทำให้ผู้โดยสารสามารถแจ้งเหตุเมื่อถูกปฏิเสธได้ทันที ซึ่งเป็นมาตรการที่ทำให้ผู้โดยสารมั่นใจว่าปลอดภัยและตรวจสอบได้ อีกทั้งจะมีช่องทางในการประเมินค่าโดยสาร เพื่อให้ประชาชนประมาณการค่าใช้จ่ายในการเดินทางได้ ที่สำคัญจะมีระบบ GPS ติดตั้งในมิเตอร์ ตรวจสอบค่าโดยสารกับรอบวิ่งจริงพร้อมแจ้งมาที่ ขบ. กรณีมีการคิดค่าโดยสารผิดปกติ

2. ใช้เทคโนโลยีเพื่อยกระดับมาตรฐานแท็กซี่ไทย Digital Taxi Meter มีการนำระบบ GPS มาใช้ สามารถนำข้อมูลมาใช้ประเมินผลการปฏิบัติงานของผู้ขับขี่ (KPI) เช่น พฤติกรรมการขับรถ ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยยกระดับมาตรฐานแท็กซี่ไทยในภาพรวม

3. “ยังไม่ขึ้นราคา” แต่กำลังศึกษาแนวทางค่าโดยสารที่เป็นธรรม การพัฒนาระบบ Digital Taxi Meter ยังอยู่ระหว่างการศึกษาถึงการดำเนินการเท่านั้น เป็นเพียงแนวคิดที่ต้องศึกษาผลกระทบอย่างรอบด้านทุกมิติ ซึ่งหากมีผลบังคับใช้แล้วจะใช้สำหรับรถใหม่ที่จดทะเบียนในอนาคตหรือภาคสมัครใจ โดยจะต้องไม่กระทบหรือเป็นภาระกับผู้ขับรถแท็กซี่ปัจจุบัน ทั้งนี้ ขอยืนยันกระแสข่าวที่จะมีการปรับอัตราค่าโดยสารรถแท็กซี่ว่า “ไม่เป็นความจริง” ยังไม่มีการปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารแต่อย่างใด

4. เปิดโอกาสให้แท็กซี่รายเดิมเข้าร่วมได้ จากกระแสข่าวที่ระบุว่า Digital Taxi Meter นี้ จะรองรับเฉพาะแท็กซี่ใหม่อายุไม่เกิน 4 ปี และรถใหม่ อาจทำให้เกิดความกังวลในหมู่ผู้ขับขี่แท็กซี่เดิม ขอย้ำว่า “แท็กซี่เดิมสามารถเข้าร่วมได้เช่นกัน” หากมีการปรับปรุงสภาพรถให้พร้อมใช้งาน ดูแลความสะอาด และผ่านการตรวจสภาพตามเกณฑ์ที่ ขบ. กำหนด แนวทางนี้จะช่วยให้ผู้ประกอบการแท็กซี่รายเดิมยังคงอยู่ในระบบได้ ขณะเดียวกันเป็นการยกระดับคุณภาพของรถแท็กซี่โดยรวมอีกด้วย

5. มุ่งเน้นความปลอดภัยและความสะดวกของผู้โดยสาร หัวใจของ Digital Taxi Meter คือ “การสร้างความมั่นใจให้ประชาชนผู้ใช้บริการ” ว่าจะได้รับบริการที่ปลอดภัย สะดวก และโปร่งใส ตรวจสอบได้และไม่ถูกเอาเปรียบ

“ขอยืนยันกับพี่น้องประชาชนอีกครั้งว่า นโยบาย Digital Taxi Meter นี้จะนำมาซึ่งประโยชน์ต่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งผู้โดยสารจะได้รับความปลอดภัยเพิ่มขึ้น ความโปร่งใสในการคิดค่าโดยสาร มีช่องทางร้องเรียนที่รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และเพิ่มความมั่นใจในการใช้บริการรถแท็กซี่โดยรวม ส่วนผู้ขับรถแท็กซี่ได้รับประโยชน์จากระบบการทำงานที่เป็นมาตรฐาน มีความเป็นธรรมในการแข่งขัน และช่วยยกระดับภาพลักษณ์ของวิชาชีพให้ดีขึ้น อีกทั้ง ขบ. มีข้อมูลที่แม่นยำสำหรับการวางแผนพัฒนาในอนาคต และช่วยยกระดับมาตรฐานการขนส่งสาธารณะของประเทศไทยให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น” นางสาวมัลลิกา กล่าว

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16-31 ตุลาคม 2568
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
15 ต.ค. 2568
กล่าวได้ว่าการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น นับเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญต่อการปกครอง ในระบอบประชาธิปโตย และก็กล่าวได้อีกเช่นกัน ว่า รัฐธรรมนูญ 2540 คือต้นธารที่ส่งผลให้การ กระจายอำนาจสู่ห้องถิ่นของประเทศไทยมีความ สำคัญมากขึ้นมาเป็นลำดับซึ่งแม้ในตลอด 20 กว่าปี ที่ผ่านม...