เมื่อวันที่ 2 ต.ค. 2568 นายธวัชชัย แสวงหา นักสาธารณสุข รพ.ศรีสะเกษ เปิดเผยว่า โรคฉี่หนู หรือโรคเลปโตสไปโรซิส รออยู่ทุกก้าว เมื่อฝนตกหนัก น้ำท่วมขังตามทุ่งนาและหมู่บ้าน เชื้อเลปโตสไปโรซิส หรือโรคฉี่หนู แฝงตัวอยู่ในน้ำ ดิน และโคลนชื้น เหมือนศัตรูที่มองไม่เห็น เชื้อเหล่านี้มาจากปัสสาวะของสัตว์ ทั้งหนู สุนัข วัว หรือหมู และรอจังหวะให้ผู้คนสัมผัส การเดินลุยน้ำท่วม การทำงานกลางนา หรือแม้แต่การก้าวลงในโคลนชื้น ทุกก้าวอาจพาเชื้อเข้าสู่ร่างกายผ่านบาดแผลเล็ก ๆ หรือรอยถลอก
งานวิจัยใหม่ปี 2567-2568 ชี้ชัดว่าเชื้อสามารถอยู่ในน้ำท่วมขังราว 10% และดินชื้นประมาณ 23% นั่นหมายความว่าการติดเชื้อ ไม่ได้เกิดจากการเจอหนูเพียงครั้งเดียว แต่เป็นผลรวมของวิถีชีวิตและธรรมชาติรอบตัวเรา พื้นที่นาที่มีน้ำท่วมขังต่อเนื่อง โคลนชื้น และฝนตกหนัก จึงเป็น “จุดเสี่ยงสูง” ที่ทุกคนต้องระวัง
ข้อมูลจากกรมควบคุมโรค ณ วันที่ 2 ตุลาคม 2568 ระบุว่า ตั้งแต่ต้นปี 2568 มีผู้ป่วยสะสม 3,406 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 39 ราย อัตราตายคิดเป็นประมาณ 1.1% ของผู้ป่วยทั้งหมด จำนวนผู้ป่วยรายใหม่วันเดียวเพิ่มขึ้น 30 ราย และมีผู้ป่วยใน 15 ราย อัตราการป่วยสูงสุดพบในจังหวัดสุรินทร์ มุกดาหาร และเชียงใหม่ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าความรุนแรงของโรค มีตั้งแต่ผู้ป่วยที่อาการเล็กน้อยไปจนถึงผู้ป่วยรุนแรง ที่อาจเสียชีวิต หากไม่ได้รับการดูแลทันเวลา
อาการเริ่มแรกของโรคอาจดูธรรมดา เช่น ไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ แต่บางรายอาจมีตัวเหลือง ตาแดง คลื่นไส้ ซึ่งคล้ายกับโรคอื่นในฤดูฝน ผู้ที่ไม่ระวังจึงมักละเลยและปล่อยให้เชื้อแฝงอยู่ในร่างกาย กลุ่มเสี่ยงสูง ได้แก่ เกษตรกร ชาวนา ผู้ที่ต้องลุยน้ำ ผู้ทำงานกลางแจ้ง หรือผู้ที่อยู่ในพื้นที่น้ำท่วมบ่อย
การป้องกันจึงไม่ซับซ้อน แต่ต้องละเอียด รอบคอบ และสม่ำเสมอ เช่น สวมรองเท้าบูทและถุงมือทุกครั้งที่ต้องลงน้ำหรือทำงานในโคลน หลีกเลี่ยงการแช่น้ำท่วมขัง ล้างมือและอาบน้ำทันทีหลังสัมผัสน้ำหรือดิน และหลีกเลี่ยงใช้น้ำสกปรกในการดื่มหรือปรุงอาหาร การสังเกตรอยถลอกหรือบาดแผลและระวังไม่ให้สัมผัสน้ำหรือดินโดยตรง ช่วยลดความเสี่ยงได้อย่างมาก
ชาวนาที่สวมรองเท้าบูทและถุงมือทุกครั้งเมื่อทำงานในนาเปียก จะลดโอกาสติดเชื้อได้ชัดเจน ขณะที่ผู้ที่ละเลยการป้องกันมักเสี่ยงสูง การป้องกันจึงไม่ใช่เรื่องเทคนิค แต่เป็นความรอบคอบและการรู้จักสังเกตธรรมชาติรอบตัว เปรียบเสมือนขงเบ้งที่วางหมากรอบคอบก่อนออกศึก รู้จักศัตรูก่อนจะลงสนาม ทำให้เราสามารถอยู่ร่วมกับภัยที่มองไม่เห็นนี้ได้อย่างปลอดภัย
โรคเลปโตสไปโรซิส ไม่ได้รุนแรงจนต้องหวาดกลัว แต่ต้องเข้าใจและระวัง การสังเกตสิ่งแวดล้อม การปรับวิถีชีวิตให้ปลอดภัย และรู้จักสัญญาณเตือนของร่างกาย คือเครื่องมือป้องกันที่ทรงพลังที่สุด หากทุกคนใส่ใจและปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง ช่วงน้ำท่วมจะไม่ใช่ภัย แต่เป็นบทเรียนที่ทำให้เราเรียนรู้การอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างปลอดภัย.
ทีมข่าว จ.ศรีสะเกษ // รายงาน