เมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2568 นายจำรัส สวนจันทร์ ผอ.โครงการชลประทานศรีสะเกษ เปิดเผยว่า จ.ศรีสะเกษ มีอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง จำนวน 16 แห่ง ซึ่งเกินความจุเก็บกักแล้ว และล้นสปิลเวย์ ทั้งหมด 15 แห่ง หลังเกิดสถานการณ์จากพายุดีเปรสชั่นที่ผ่านมา และมีเขื่อนขนาดใหญ่ จำนวน 2 แห่ง คือเขื่อนหัวนา อ.กันทรารมย์ และขื่อนราษีไศล อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ โดยในขณะนี้เขื่องทั้ง 2 แห่ง ได้ดำเนินการเปิดแขวนบานระบายทั้งหมดทุกช่องบานแล้ว เพื่อการระบายน้ำที่คล่องตัว
ทั้งนี้อ่างเก็บน้ำที่ล้นสปิลเวย์ จะมีการระบายน้ำมาทางด้านท้ายอ่างฯ ลงมาตามลุ่มน้ำที่สำคัญใน จ.ศรีสะเกษ เช่น ลุ่มน้ำมูล ลำน้ำห้วยสำราญ ลำห้วยทับทัน ลำห้วยขะยูง และลำห้วยทา ซึ่งตอนนี้ที่ได้รับผลกระทบเดือดร้อนกับประชาชน คือในพื้นที่ ลำห้วยทับทัน ระดับน้ำล้นตลิ่งแล้วประมาณ 1.50 เมตร ซึ่งตอนนี้ทางจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งเข้าไปช่วยเหลืออยู่
ซึ่งลำห้วยทับทัน นอกจากจะรับน้ำจาก จ.ศรีสะเกษ แล้ว ยังรับน้ำ จากเขต จ.สุรินทร์ ด้วย จึงทำให้ปริมาณน้ำในลำห้วยทับทัน เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ช่วงแรกสูงขึ้นประมาณวันละ 50 ซม. ตอนนี้มีอัตราการเพิ่มขึ้นที่น้อยลง แต่ก็ยังสูงขึ้นอยู่ คาดว่าปริมาณน้ำจะหยุดการสูงขึ้นประมาณ 3-4 วันนี้ และคาดการณ์ว่าระดับน้ำจะขึ้นสูงสุด จากตลิ่งประมาณ 1.80 ซม. ตรงนี้ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
ส่วนที่ สถานีวัดน้ำ M.9 ลำห้วยสำราญ บริเวณสะพานขาว เขตเทศบาลเมืองศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ มวลน้ำตรงจุดนี้จะไหลมาจากเทือกเขาพนมดงรัก ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน อ.ภูสิงห์ และอ.ขุนหาญ เข้าสู่ อ.เมืองศรีสะเกษ และยังมีมวลน้ำที่ไหลมาจากลำห้วยต่างๆ ของ จ.สุรินทร์ เช่น จาก อ.บัวเชด และอ.สังขะ เข้ามาสมทบอีก
ก็จะทำให้จุดที่ต้องเตรียมรับน้ำ คือ ในเขตเทศบาลเมืองศรีสะเกษ ก่อนจะไหลผ่านเข้าสู่แม่น้ำมูล ซึ่งคาดว่าอาจจะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง โดยในปัจจุบันพบว่าระดับน้ำมีอัตราการเพิ่มขึ้น ประมาณวันละ 24 ซม. และคาดว่าในวันที่ 2 ต.ค. นี้ ระดับน้ำจะขึ้นสูงสุดที่ 8.80 เมตร โดยปกติแล้วหากระดับน้ำเกิน 8 เมตร ก็ถือว่าประชาชนได้รับผลกระทบเดือดร้อนแล้ว
นอกจากนี้ยังต้องเฝ้าสังเกตการณ์ มวลน้ำที่กำลังไหลมา จาก จ.สุรินทร์ เข้ามาสมทบอีก จึงคาดการณ์ว่า ระดับน้ำที่สถานีวัดน้ำ M.9 ลำห้วยสำราญ บริเวณสะพานขาว เขตเทศบาลเมืองศรีสะเกษ น่าจะขึ้นสูงสุดอยู่ที่ 9.40 เมตร ก็จะทำให้ราษฎรในเขตเทศบาลเมืองได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง หลายชุมชนในเขตเมือง อาจจะต้องได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำและพื้นที่ที่เคยประสบเหตุการณ์น้ำไหลเอ่อน้ำ ต้องเตรียมการรับมือ ทุกหน่วยงานต้องไปช่วยกัน เพราะขณะนี้ทั้ง 2 ลำน้ำ คือลำน้ำห้วยทับทัน และลำห้วยสำราญ น่าเป็นห่วงทุกสุด ส่วนระดับลำน้ำมูล กับแม่น้ำโขง ขณะนี้ ห่างกันประมาณ 78 ซม. ยังถือว่าระบายได้ดี จะมีล้นตลิ่งอยู่ที่ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ที่ต้องรับน้ำจากลำน้ำมูล และลำน้ำชี ซึ่งกำลังได้รับผลกระทบอยู่ในขณะนี้
อย่างไรก็ตาม ขอแจ้งเตือนพี่น้องประชาชนที่อยู่ติดลำห้วย ทั้ง 2 ลำห้วยดังกล่าว ให้เตรียมความพร้อมเคลื่อนย้ายสิ่งของและทรัพย์สินเก็บขึ้นที่สูง อย่าประมาท เพื่อให้กระทบน้อยที่สุด ในช่วงระยะนี้ และขอให้เฝ้าติดตามสาถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และขอเป็นกำลังใจให้พี่น้องประชาชนทุกคนด้วย.
ทีมข่าว จ.ศรีสะเกษ // รายงาน