ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
ท้องถิ่นไทย ย้อนกลับ
“ศรีสะเกษ” ด่วน! ผอ.เขื่อนหัวนา แจ้งเตือน ปชช. เตรียมอพยพสิ่งของขึ้นที่สูง หลังสถานการณ์น้ำเข้าขั้นวิกฤติ
27 ก.ย. 2568

เมื่อวันที่ 26 ก.ย. 2568 นายไพฑูรย์ ยังรักษา ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาหัวนา (เขื่อนหัวนา) เปิดเผยว่า ตามที่ได้ติดตามสถานการณ์น้ำในแม่น้ำมูล ลำน้ำห้วยสำราญ และห้วยขะยูง มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น อีกทั้งสถานีอุตุนิยมวิทยาศรีสะเกษ ได้รายงานสภาพอากาศประจำวันศุกร์ที่ 26 กันยายน 2568 พบว่า ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรง พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทย อีกทั้ง พายุโซนร้อนกำลังแรง “บัวลอย” บริเวณต้านตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ มีแนวโน้มจะเคลื่อนลงทะเลจีนใต้ตอนกลางในคืนวันนี้ (26 ก.ย. 68)

 

คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่ง ประเทศเวียดนามตอนบน ในช่วงวันที่ 29-30 ก.ย. 68 ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง จังหวัดศรีสะเกษ มีฝนเพิ่มขึ้น ร้อยละ 80 ของพื้นที่ ประกอบกับบริเวณพื้นที่ด้านเหนือเขื่อนหัวนา ยังมีฝนตกต่อเนื่องในพื้นที่ ทำให้สถานการณ์น้ำเขื่อนหัวนา เพิ่มขึ้นขึ้น โดยปัจจุบันแม่น้ำมูล ระดับน้ำหน้าเขื่อนอยู่ที่+113.98 ม.รทก. และระดับน้ำท้ายเขื่อนอยู่ที่ +113.87 ม.รทก. ซึ่งระดับวิกฤติของแม่น้ำมูลที่หน้าเขื่อนหัวนา คือระดับที่มากกว่า +114.00 ม.รทก.

  

ดังนั้น โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาหัวนา (เขื่อนหัวนา) จึงขอแจ้งการดำเนินการแขวนประตูระบายน้ำเขื่อนหัวนา เมื่อระดับน้ำหน้าเขื่อนหัวนาอยู่ที่ +114.00 ม.รทก. ประกอบกับความต่างระหว่างหน้าเขื่อนและท้ายเขื่อน ขณะนี้ มีระดับที่ใกล้เคียงกัน ไม่ส่งผลกระทบต่อด้านเหนือน้ำ-ท้ายน้ำ ของเขื่อนหัวนา เพื่อให้เกิดความสมดุลกับปริมาณน้ำ ที่เกิดขึ้นจึงต้องดำเนินการแขวนประตูระบายน้ำ เขื่อนหัวนา ทั้ง 14 บาน ในทันที

ทั้งนี้จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมตลิ่งแม่น้ำ ที่บริเวณเหนือน้ำและท้ายน้ำ เฝ้าระวังกับระดับน้ำที่เพิ่มขึ้น และเตรียมความพร้อมในการอพยพข้าวของเครื่องใช้ได้ทันท่วงทีหากเกิดสถานการณ์ พร้อมทั้งติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด.

ทีมข่าว จ.ศรีสะเกษ // รายงาน

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 กันยายน 2568
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
19 ก.ย. 2568
จากดีกรี วิศวเครื่องกล พระจอมเกล้าธนบุรีสู่เจ้าของ มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า “สัญชาติไทย” หากจะกล่าวถึงคำว่า "Made in Thailand" แล้ว ต้องถือว่าเป็นคำกล่าวที่จะไม่มีวันตกยุคตกสมัย เนื่องเพราะ เป็นได้ทั้งความภูมิใจของคนทั้งชาติ และตัวขับเคลื่อนเ...