นางชนากานต์ ธีรเวชพลกุล ประธานศาลฎีกา ออก “คำแนะนำ” เรื่องการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในงานคดี โดยยืนยันว่าสามารถนำมาใช้ได้ แต่ต้องใช้อย่างระมัดระวัง เน้นความรับผิดชอบ ความลับ ความเป็นอิสระของผู้พิพากษา และการคัดเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะสม
แนวทางดังกล่าวประกอบด้วย 5 ข้อสำคัญ
1. ใช้ AI อย่างมีความรับผิดชอบ ผู้พิพากษาและเจ้าหน้าที่ศาลต้องตระหนักว่า AI ยังไม่สมบูรณ์ จึงควรใช้เพื่อเสริมประสิทธิภาพงาน ไม่ใช่เพื่อตัดสินหรือชี้ขาดข้อพิพาทในคดี เพราะอาจกระทบต่อความเป็นธรรมของกระบวนการยุติธรรม
2. รักษาความลับและข้อมูลส่วนบุคคล ห้ามนำข้อมูลราชการหรือข้อมูลส่วนบุคคลเข้าสู่ระบบ AI หากไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย เพื่อป้องกันการรั่วไหลและละเมิดสิทธิของคู่ความ
3. ยึดความเป็นอิสระของผู้พิพากษา การใช้ AI ต้องไม่ทำให้ผู้พิพากษาพึ่งพิงระบบมากเกินไป โดยเฉพาะการพิจารณาคดี ห้ามใช้ AI เป็นเครื่องมือในการวินิจฉัยหรือตัดสินคดีโดยเด็ดขาด การตัดสินใจทุกกรณีต้องอยู่บนดุลพินิจของผู้พิพากษาเท่านั้น
4. ใช้เพื่อสนับสนุนด้านธุรการและวิชาการ เช่น การจัดการข้อมูล การค้นคว้า หรือการสรุปงานวิชาการ โดยต้องตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำมาใช้อ้างอิง เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดในการพิจารณาคดี
5. เลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม สำนักงานศาลยุติธรรมต้องคัดเลือก AI ที่มีความน่าเชื่อถือ ปลอดภัย และสอดคล้องกับกฎหมาย โดยต้องคำนึงถึงการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและความลับของทางราชการเป็นสำคัญ
ทั้งนี้การใช้ AI ในงานศาลควรเป็นไปอย่างสมดุล คือใช้เพื่อสนับสนุนการทำงานและเพิ่มประสิทธิภาพ แต่ไม่กระทบต่อคุณค่าหลักของกระบวนการยุติธรรม ได้แก่ ความรับผิดชอบ ความเป็นอิสระ และความลับของข้อมูล เพื่อรักษาความน่าเชื่อถือของสถาบันตุลาการ