ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
เศรษฐกิจชุมชน ย้อนกลับ
กรมธุรกิจฯเชือดบริษัทนอมินีร่วม1,000รายเสียหาย1.5หมื่นล้านบาท
27 ส.ค. 2568

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดในรูปแบบนอมินี ว่า ตั้งแต่มีการจัดตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 2567 - 31 ก.ค. 2568 มีการดำเนินการกับผู้กระทำความผิดแล้ว 873 ราย มูลค่าความเสียหายรวม 15,587 ล้านบาท ล่าสุด เดือนกรกฎาคม กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ได้มีการดำเนินการเพิ่มเติมกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจก่อสร้างอีกด้วยทั้งนี้ คณะกรรมการดังกล่าวถูกตั้งขึ้นตามคำสั่งนายกรัฐมนตรีตั้งแต่เดือนตุลาคม 2567 และขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับปรุงองค์ประกอบคณะกรรมการและคณะอนุกรรมการทั้ง 2 ชุด ได้แก่ คณะอนุกรรมการดูแลเรื่องนอมินี และคณะอนุกรรมการดูแลสินค้าต่างประเทศที่นำเข้ามาโดยผิดกฎหมาย เพื่อให้การทำงานมีความต่อเนื่องและชัดเจนยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม นางอรมน ย้ำว่า การแก้ปัญหาดังกล่าวถือว่ายังเดินหน้าต่อไปได้ไม่สะดุด เพราะได้มีการแต่งตั้งคณะทำงานลงพื้นที่ตรวจสอบทั้งส่วนกลางและระดับจังหวัด โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีนิติบุคคลจำนวนมากและเสี่ยงเข้าข่ายนอมินี ขณะที่ข้อมูลล่าสุดพบว่าธุรกิจที่ต่างชาติถือหุ้นตั้งแต่ 0.01–49.99% และอาจจะมีความเสี่ยงเข้าข่ายนอมินี มีจำนวนทั้งสิ้น 46,918 ราย จาก 6 กลุ่มธุรกิจ อย่างไรก็ดี นางอรมน ระบุว่า จากสถิติ 873 รายที่ถูกดำเนินคดี พบว่าเป็นธุรกิจท่องเที่ยวและเกี่ยวเนื่อง 110 ราย, อสังหาริมทรัพย์ 252 ราย, อีคอมเมิร์ซ 11 ราย, ก่อสร้าง 25 ราย และธุรกิจอื่นๆ 475 ราย ซึ่งในกลุ่มธุรกิจอื่นๆ พบว่ามีสำนักงานบัญชีและสำนักงานกฎหมายเข้าไปเกี่ยวข้อง รวมถึงธุรกิจเหมืองแร่ที่เพิ่งถูกตรวจพบเป็นความเสี่ยงใหม่ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการเกษตรยังอยู่ระหว่างการดำเนินการ ส่วนธุรกิจเหมืองแร่ถือเป็นธุรกิจใหม่ที่เราเพิ่งพบความเสี่ยง ขณะนี้ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบต่อเนื่อง เช่น ธุรกิจเหล็กในสมุทรปราการที่มีความสุ่มเสี่ยงสูงด้านการลงทุนจากต่างประเทศ ในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2568 มีนักลงทุนต่างชาติ 583 ราย เพิ่มขึ้น 27% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นทุนจดทะเบียนรวม 159,460 ล้านบาท ขยายตัว 15% โดยนักลงทุนหลัก 5 อันดับแรกคือ ญี่ปุ่น สหรัฐฯ สิงคโปร์ จีน และฮ่องกงสำหรับการจัดตั้งธุรกิจใหม่ มีจำนวน 51,548 รายในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ สูงกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลังที่อยู่ราว 48,040 ราย ทั้งนี้ ปี 2567 มีการจัดตั้งธุรกิจใหม่ทั้งปี 87,596 ราย และปี 2568 คาดว่าตัวเลขจะใกล้เคียงกัน อยู่ที่ 85,000–90,000 ราย

นอกจากนี้ นางอรมน กล่าวอีกว่า แนวโน้มการลงทุนยังมีปัจจัยบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว แต่ก็ยังมีปัจจัยท้าทาย เช่น ข้อพิพาทชายแดนไทย–กัมพูชา และมาตรการทางการค้าของสหรัฐฯ ที่อาจกระทบต่อบางธุรกิจ พร้อมย้ำว่าผู้ประกอบการที่สามารถปรับตัวและใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย จะยังคงรักษาความสามารถในการแข่งขันได้ในระยะยาว

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 31 สิงหาคม 2568
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
19 ส.ค. 2568
หากจะมองหานักวิชการด้านการศึกษา ที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่วัยหนุ่มแล้ว หนึ่งในนั้น คงจะต้องพูดถึง ผู้ช่วยศาสตราจย์ คร.คณกร สว่างเจริญ อธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จ เจ้าพระยาบ้านสมเด็จเจ้าพระยา (มบส.) หนึ่งใน สถาบันการศึกษาที่เก่าแก่แห่งหนึ่งของประเทศไทย...