(18 ส.ค.68) ณ ห้องประชุมทัพพระยา ศาลาว่าการเมืองพัทยา นายพัชรพัชร์ ศรีธัญญนนท์ นายอำเภอบางละมุง พร้อมด้วย นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายเมืองพัทยา ร่วมเป็นประธานการประชุมหัวหน้าส่วนราชการ โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมโดยพร้อมเพรียงกัน
ในการนี้ นายพัชรพัชร์ ศรีธัญญนนท์ นายอำเภอบางละมุง แจ้งให้ที่ประชุมได้รับทราบ เกี่ยวกับผลการดำเนินงานตามนโยบายของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ที่ประกาศให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็น วาระแห่งชาติ ภายใต้แนวคิด “NO Drugs, NO Dealers (ไม่มียา ไม่มีผู้ค้า) โดยอำเภอบางละมุงได้บูรณาการร่วมกับสถานีตำรวจทั้ง 4 แห่งในพื้นที่ ได้แก่ สภ.เมืองพัทยา สภ.บางละมุง สภ.หนองปรือ และสภ.ห้วยใหญ่ ร่วมกับเมืองพัทยา โรงพยาบาลพัทยาปัทมคุณ และสาธารณสุขอำเภอบางละมุง ภายใต้แผนปฏิบัติการ “BrokenDown Banglamung – หักดิบบางละมุง” เพื่อยกระดับพัทยาและพื้นที่โดยรอบให้เป็นเมืองท่องเที่ยวปลอดยาเสพติด
ผลการปฏิบัติการตั้งแต่วันที่ 17 กรกฎาคม – 16 สิงหาคม 2568 มีการดำเนินการรวมทั้งสิ้น 463 ครั้ง แบ่งเป็นฝ่ายความมั่นคง 207 ครั้ง, สภ.เมืองพัทยา 136 ครั้ง, สภ.บางละมุง 41 ครั้ง, สภ.หนองปรือ 61 ครั้ง และ สภ.ห้วยใหญ่ 18 ครั้ง โดยสามารถจับกุมผู้ค้าได้ 84 ราย ผู้เสพ 130 ราย ปิดสถานบริการ 9 แห่ง พร้อมตรวจยึดของกลางยาบ้า 29,040 เม็ด ไอซ์ 1,290 กรัม เคตามีน 51 กรัม ยาบ้าผง 49 กรัม ยาอี 13 เม็ด และพอร์ชเค 2 อัน นอกจากนี้ยังมีการตั้งจุดตรวจ–จุดสกัด 4 ครั้ง
ในที่ประชุมยังได้รายงานว่า ที่ผ่านมาอำเภอบางละมุงได้เรียกผู้ประกอบการสถานบันเทิงและสถานประกอบการคล้ายสถานบริการกว่า 1,000 แห่ง เข้ารับฟังและมอบนโยบายร่วมกัน โดยประกาศ “5 ปลอด” ได้แก่ ปลอดเด็ก ปลอดอาวุธ ปลอดยาเสพติด ปลอดภัย และปลอดการค้ามนุษย์ พร้อมจัดทำปฏิญญาร่วม ระหว่างฝ่ายความมั่นคงกับผู้ประกอบการมาตรการควบคุมกำหนดไว้อย่างเข้มงวด หากตรวจพบสารเสพติดในพนักงานหรือนักท่องเที่ยวรวมกันเกินร้อยละ 20 จะมีคำสั่งปิดสถานบริการทันที ครั้งแรก 15 วัน ครั้งที่สอง 30 วัน และครั้งที่สาม 5 ปี หากพบว่ามีนักท่องเที่ยวมากกว่าร้อยละ 30 เสพยาในร้าน หรือแม้แต่กรณีตรวจพบน้อยรายแต่ชี้ชัดว่าร้านไม่ใส่ใจตรวจสอบ เช่น นักท่องเที่ยว 200 คน พบเสพยา 5 คน ก็จะสั่งปิดสูงสุด 5 ปีเช่นกัน โดยมาตรการนี้ถูกเสนอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจารณาเพื่อบังคับใช้อย่างจริงจัง
ประธานในที่ประชุมกล่าวทิ้งท้ายว่า อย่างไรก็ตาม ผลการปฏิบัติการที่ผ่านมายังมีข้อจำกัดด้านงบประมาณในการจัดหาชุดตรวจสารเสพติด โดยเฉพาะการตรวจหาสารเคตามีนและเมทแอมเฟตามีน ซึ่งมีความจำเป็นต่อการลงพื้นที่ตรวจสถานบริการที่มีจำนวนมาก รวมไปถึงวัดทุกวัด อำเภอบางละมุงจึงเสนอขอการสนับสนุนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สามารถเป็นศูนย์กลางกระจายชุดตรวจไปยังสถานีตำรวจทั้ง 4 แห่ง ใช้ปฏิบัติการอย่างทั่วถึง เพื่อให้อำเภอบางละมุงเป็น “พื้นที่สีขาวปลอดยาเสพติด”