ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
คอลัมนิสต์ / บทวิเคราะห์ ย้อนกลับ
ฮุนเซน ปิดฟ้าด้วยมือ...คงยาก
05 ส.ค. 2568

ฮุนเซน ปิดฟ้าด้วยมือ...คงยาก  

กลิ่นศพ!โชยฟ้องชาวโลก!

จับตา!โต๊ะเจรจาไทย-กัมพูชา

ถึงแม้ว่า....เสียงปืนสมรภูมิไทย-กัมพูชา จะพักรบชั่วคราว!

ภายหลังเสียงนกหวีด “หยุดยิง” ตามเวลา “เดดไลน์” 00.00 นาฬิกา วันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ดังขึ้น ส่งผลให้แนวปะทะเดือด ตลอดชายขอบพื้นที่ชายแดน 4 จังหวัดอีสานใต้ ค่อยๆเงียบลงเป็นการสิ้นสุดหยุดสิ่งหนึ่ง เพื่อเริ่มต้นสิ่งใหม่ ในการเดินหน้าต่อบนกระดานเกมการเมือง ที่เปิดฉากขึ้นในอีกบริบท!   

พักศึกสนามรบ ลากขึ้นโต๊ะเจรจา แต่ยังไม่รู้ว่าจะจบลงเช่นไร?

           การประชุม “คณะกรรมการชายแดนทั่วไป ไทย-กัมพูชา” ( General Border Committee ) หรือ “GBC” ซึ่งทางมาเลเซีย รับหน้าเสื่อเป็นคนกลาง ตั้งโต๊ะเจรจา ระหว่างวันที่ 4-7 สิงหาคม 2568 นี้ ผลจะลงเอยกันอีหรอบไหน? รอลุ้นกัน!

          แรกเริ่มเดิมที มีการกำหนดเปิดเจรจาแบบ “ทวิภาคี” คือคุยเฉพาะคู่ขัดแย้ง จะจัดขึ้นที่กรุงพนมเปญ โดยฝ่ายกัมพูชา ขอเป็นเจ้าภาพ...

           แต่อย่างที่เห็นๆกัน “เขมร” พูดอย่าง ทำอีกอย่าง ทำเองแท้ๆแต่กลับโยนขี้ใส่ร้ายป้ายสีกองทัพไทย พูดจาสับปลับกลับกลอก “ลิ้นตวัดถึงใบหู” ปลิ้นปล้อน ตลบตะแลง จนไม่น่าไว้วางใจได้ 

           รัฐบาลไทย จึงยื่นหนังสือแจ้งกัมพูชา ขอย้ายวงเจรจา “GBC” ไปถกกัน ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ให้ทางมาเลเซีย ชาติเป็นกลาง เป็นเจ้าภาพตั้งโต๊ะเจรจาแทน  โดยมี พี่ใหญ่ในซีกโลกตะวันออก “พญามังกรจีน” และ “ตำรวจโลก”อย่างอเมริกา เข้ามาร่วมเป็นสักขีพยาน

          สกู๊ปพิเศษ “อธิปบูรพา” ขอพาย้อนกลับไปตรวจการณ์ ขอบเขตแนวรบชายแดนไทย–กัมพูชา ตั้งแต่เสียงปืนนัดแรก ที่ฝ่ายกันพูชาเปิดฉากยิงก่อนเมื่อ 24 - 29 กรกฎาคม 2568 ก่อนตกลงหยุดยิงโดยไม่มีเงื่อนไข ให้มีผลตั้งแต่เที่ยงคืน 28 กรกฎาคม ที่ผ่านมา

          ถึงแม้ว่าทางการกัมพูชา จะพยายามปกปิดตัวเลขความสูญเสีย ชีวิตของทหารที่ส่งมารบในแนวหน้า แถมยังปั้นข่าวเป่าหูประชาชน ของตัวเองว่า บาดเจ็บไม่กี่นาย ตายก็แค่ไม่กี่คน!!

          ภาพลักษณ์ “นักรบห้องแอร์” นายพลไก่ย่าง5ดาว “ฮุนเซน”กำลัง “ปิดฟ้าด้วยฝ่ามือ” ปกปิดข้อมูลความจริง หลอกคนกัมพูชาทั้งชาติ ท่ามกลางกระแสข่าว กำลังพลทหารเขมร ล้มหายตายจากราวใบไม้ร่วง กลายเป็นผีเฝ้าป่าริมแดน มากมายน่าตกใจ!

           ข้อมูลลับในทางลึกระบุว่า กองทัพกัมพูชา สูญเสียมากถึง 6,276 นาย โดยเฉพาะ “กองกำลังพิทักษ์ฮุนเซน” หรือหน่วย “ BHQ”  (Battalion Hun Sen’s Guards) หน่วยรบพิเศษที่ “ฮุนเซน” มั่นหน้าว่าสร้างมากับมือ เพื่อใช้ปกป้องคุ้มกะลาหัวของตัวเองและครอบครัว ยอดสูญหายไปร่วม 800 นาย

            หากกล่าวถึง กองกำลังBHQ องค์รักษ์พิทักษ์ตระกูลฮุน  สองพ่อลูก คุยฟุ้งน้ำลายแตกฟอง ยกย่องว่าเป็นตัวตึง หน่วยรบพิเศษที่ดีที่สุดของเขมร อาวุธยุทโธปกรณ์สุดล้ำสมัย ได้รับการฝึกขั้นสูงสุด ตั้งแต่ยุทธวินัย,ยุทธวิธี รวมทั้งฝึกรบการต่อต้านการก่อการร้าย อีกทั้งยังเคยส่งเข้าร่วมฝึกกับจีน และอินโดนีเซีย มาแล้ว

            ขุมกำลัง “ BHQ ” มีไพร่พลขนาดเทียบเท่า “กองพล” ยกระดับมาจาก “กองพลน้อยที่70” ฐานที่มั่นตั้งอยู่ที่เมืองตาขะเมา จังหวัดกันดาล ใกล้กรุงพนมเปญ  โดยมี พลเอก ฮิง บุนเฮียง คนสนิทมือขวาฮุนเซน เป็นผู้นำหน่วย เหนืออื่นใด “ BHQ ” มีความจงรักภักดีระดับสูงต่อผู้นำ “อังเคิล”และฮุน มาเนต  แบบว่าตายแทนได้ทุกสถานการณ์            

แต่หน่วย BHQ ถูกฝึกมารบเฉพาะทาง สำหรับปฏิบัติการพื้นที่ในเมืองเป็นส่วนใหญ่ เป็นกองกำลังอารักขาความปลอดภัยให้กับผู้นำ เป็น “แมวบ้าน”คอยไล่ตะปบหนู หาใช่พญาเสือ แห่งราวไพรชายแดน จึงโดนปิดจบไปยมโลกเฉียดพันศพ!

          จับความเคลื่อนไหว ภายหลังการเจรจาหยุดยิงชั่วคราว เกิดขึ้นในหมู่ญาติของทหารกัมพูชา ที่หายตัวขาดการติดต่อไปอย่างไร้ร่องรอย ต่างพากันออกมาประกาศตามหาผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย  ทั้งในรูปแบบข้อความ วิดีโอ และภาพถ่าย หวังว่าจะเจอเบาะแส หรือคำอธิบายใดๆ จากผู้บัญชาการรบ ผู้ที่สั่งให้ พ่อของลูก พี่ของน้อง ลูกของแม่ หลานของยายไปตาย ที่มีชื่อว่า “ฮุนเซน” และ “ฮุน มาเนต “นายกฯกัมพูชา

          แต่ผู้นำกระหายสงครามทั้งสอง ยังคงรูดซิป ปิดปากเงียบเชียบ ไม่มีดอกพิกุลใดๆ หลุดออกมาจาก “คุณลุงอังเคิล” และผู้นำประเทศฮุนมาเนต แม้แต่น้อย!

           การ “อมพะนำ”ไม่ยอมปริปาก มองได้มุมเดียวก็คือ ผู้นำขี้ขลาดต้องการปกปิดความพ่ายแพ้ย่อยยับในปฏิบัติการทางทหาร อันส่งผลต่อการปลุกระดมความรักชาติและคะแนนนิยม ความเสื่อมศรัทธาต่อตัวผู้นำ ที่อาจกระทบต่อคะแนนเสียง การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในอนาคต

           แต่ยิ่งเงียบนานเท่าไหร่ กลับกลายเป็นว่ายิ่งตอกย้ำ จุดเชื้อชนวนข้อสงสัยในชะตากรรมของเหล่าทหารกัมพูชา เริ่มปะทุครุกรุ่นรุนแรงขึ้นตามมาในสังคมกัมพูชา

          ปฐมบทเรื่อง “หลอนอุดรมีชัย” ชวนขนหัวลุก ผสมผสานเสียงหมาหอนตอนกลางดึก ไม่ใช่เพียงแค่ข่าวลือจาก “คิลลิ่งโซน” แนวรบชายแดนด้านจังหวัดอุดรมีชัย และพระวิหาร อีกต่อไป

          กลิ่นเน่าของซากศพที่ผู้นำกัมพูชา ปล่อยทิ้งไม่สนใจ ไม่คิดจะดูดำดูดี กลายเป็นผีไร้ญาติ นอนตายเป็นเบือ เกลื่อนตามแนวป่าชายแดน ส่งสัญญาณเรียกฝูงแร้งกา บินว่อนเหนือท้องฟ้า ตลอดแนวรบ “ภูผี-ภูมะเขือ”  รวมทั้งพื้นที่แนวปะทะตลอดแนวชายแดน พื้นที่ทางยุทธศาสตร์ที่โดนฝูงบิน “กริพเพน”ฉลามอันดามัน “หว่านไข่” พินาศยับเยินราพณาสูร ในหลายจุด

        นักรบกล้า ทหารไทยที่ยังคงตรึงกำลังเฝ้าระวังชายแดน ถึงกับบอกว่า กลิ่นซากศพเหม็นเน่ารุนแรง ถึงกับกินข้าวกันไม่ลง ต้องสวมใส่หน้ากาก อนามัยป้องกันกลิ่นไม่พึ่งประสงค์ แถมในยามค่ำคืน ต้องฟังเสียง หมาหอน อย่างโหยหวนวังเวงราวเห็นผี พร้อมกับได้ยินเสียงแปลกๆดังทั้งคืน แบบชวนขนหัวลุก

          ข่าวทหารเขมรตายเกลื่อนทับถม ทิ้งร่างอย่างไร้เกียรติ สอดรับกับ “บิ๊กเล็ก” พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ออกมาพูด เมื่อวันเสาร์ที่ 2 สิงหาคม ที่ผ่านมา ฟาดกลางวงประชุมรัฐมนตรี “กลาโหมไตรภาคี” ไทย- กัมพูชา-มาเลเซีย

         “....จากการปฏิบัติการที่ผ่านมา มีทหารกัมพูชาบริเวณหน้าแนวฝ่ายเรา เสียชีวิตจำนวนมาก แต่ก็เสียใจแทนทหารกัมพูชาที่เสียชีวิต ที่รัฐบาลกัมพูชาปฏิเสธ ว่าไม่ใช่ทหารกัมพูชา....”

         “บิ๊กเล็ก” บอกต่ออีกว่า....

          “แต่ที่ห่วงใยและได้พูดกับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา คือ ทหารกัมพูชาที่เสียชีวิตหน้าแนวจำนวนมาก ยังไม่ได้ถูกเก็บศพกลับไป จึงอยากให้ทางการกัมพูชามาเก็บศพกลับไปเพื่อให้ถูกต้องตามสุขลักษณะ เพราะหากอยู่ไปนานๆก็จะเกิดโรคระบาดได้ ประชาชนของกัมพูชา ที่อยู่บริเวณนั้นก็อาจจะได้รับเชื้อโรค อีกเรื่องคือ ความสมเกียรติ และศักดิ์ศรีของความเป็นทหาร ไทยแม้จะเป็นคู่กรณี แต่เมื่อเสียชีวิตแล้ว เราก็ให้เกียรติ....”

           ชายแดนไทย-กัมพูชา ณ วันนี้ “ซีเนม่าจอยักษ์” กำลังฉายภาพ เรื่องราวเขย่าขวัญสั่นประสาท ทำ “อังเคิลฮุนเซน” และฮุนมาเนต นายกฯกัมพูชา ถึงกุมขมับ!

          โปรแกรมสยดสยองพองขน“หลอนอุดรมีชัย” วิญญาณเฮี้ยน ผีนักรบกัมพูชา กำลัง “โชยกลิ่น”ฟ้องประชาคมโลก!

นาทีนี้...คิดจะปิดฟ้า ด้วยฝ่ามือ ยากหน่อยนะ "อังเคิล"!

////////////////////////////////////

ธัญธนาฒย์ สิงห์โตนิเวศ ,อธิบดี บุญชารี รายงาน

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 31 กรกฎาคม 2568
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
04 ส.ค. 2568
การเลือกตั้งนายกองค์การบริหาร ส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) ลำสุดเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา ถือเป็นการเลือกตั้ง ท้องถิ่นทั่วประเทศตามวาระครั้งใหญ่ครั้งหนึ่ง แม้จะมีเพียง 47 จังหวัดเท่านั้น เนื่องจากมีการ ลาออกก่อนกำหนดไปก่อนหน้านี้หลายจังหวัด อย่างไรก็ต...