ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
คุณภาพชีวิต ย้อนกลับ
คคบ. เอาจริง! สั่งฟ้อง 43 ผู้ประกอบธุรกิจ ละเมิดสิทธิผู้บริโภค เสียหายกว่า 30 ล้านบาท
02 ส.ค. 2568

วันศุกร์ที่ 1 สิงหาคม 2568 เวลา 13.00 น. รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม (นายบรรจง สุกรีฑา) ปฏิบัติหน้าที่ประธานการประชุมคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ครั้งที่ 4/2568 ณ ห้องประชุม 109 สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีทำเนียบรัฐบาล กรุงเทพมหานคร คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (คคบ.) เดินหน้าบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น มีมติให้ดำเนินคดีกับผู้ประกอบธุรกิจจำนวน
43 ราย ฐานละเมิดสิทธิผู้บริโภค ในคดีสำคัญซึ่งมีมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 30 ล้านบาท ครอบคลุมหลากหลายธุรกิจ ตั้งแต่อสังหาริมทรัพย์ สินค้า และบริการทั่วไป"
                    การดำเนินคดีกับผู้ประกอบธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 9 ราย
1.         กรณีสัญญาจ้างก่อสร้างบ้าน ผู้บริโภคทำสัญญาว่าจ้างก่อสร้างบ้านพักอาศัย
แต่ต่อมาพบว่าการก่อสร้างไม่ตรงตามแบบและใช้วัสดุที่ไม่ได้มาตรฐาน ทำให้เกิดความชำรุดบกพร่องและความเสียหาย เมื่อแจ้งให้ผู้รับจ้างทราบ แต่กลับเพิกเฉยไม่เข้าดำเนินการแก้ไข การกระทำดังกล่าวถือเป็นการละเมิดสิทธิของผู้บริโภค มติที่ประชุม ให้ดำเนินคดีแพ่ง เพื่อบังคับให้ผู้ประกอบธุรกิจคืนเงิน 1,500,035 บาท พร้อมดอกเบี้ย
2.         กรณีสัญญาจองซื้อบ้าน ผู้บริโภคทำสัญญาจองซื้อบ้านพร้อมที่ดินในโครงการ
ราคา 2,978,000 บาท โดยได้ชำระเงินจอง 5,000 บาท และเงินดาวน์อีก 7 งวด เป็นเงิน 70,000 บาท
รวมชำระไปแล้วทั้งสิ้น 75,000 บาท แต่เนื่องจากสัญญาไม่ได้กำหนดระยะเวลาแล้วเสร็จของโครงการ และการก่อสร้างเกิดความล่าช้าอย่างมาก ผู้บริโภคจึงขอยกเลิกสัญญา มติที่ประชุม ให้ดำเนินคดีแพ่ง เพื่อบังคับให้ผู้ประกอบธุรกิจคืนเงินจำนวน 75,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย
3.         กรณีสัญญาจ้างเหมาก่อสร้างบ้าน ผู้บริโภคทำสัญญาจ้างเหมาก่อสร้างบ้านเดี่ยว ราคา 1,659,217 บาท กำหนดแล้วเสร็จภายใน 90 วัน โดยได้ชำระเงินไปแล้ว 4 งวด เป็นเงิน 1,327,372 บาท แต่ผู้รับจ้างกลับทำงานไม่แล้วเสร็จและทิ้งงานไป ผู้บริโภคจึงร้องเรียนให้ผู้รับจ้างชดใช้ค่าเสียหายในส่วน
ของงานที่ยังไม่แล้วเสร็จ มติที่ประชุม ให้ดำเนินคดีแพ่ง เพื่อบังคับให้ผู้รับจ้างชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงินจำนวน 324,363 บาท พร้อมดอกเบี้ย
4.            กรณีห้องชุดไม่เป็นไปตามโฆษณา  นิติบุคคลอาคารชุดได้รับเรื่องร้องเรียนจากเจ้าของร่วมว่า ห้องชุดที่ซื้อในโครงการไม่เป็นไปตามที่โฆษณาไว้หลายรายการ และจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่าผู้ประกอบธุรกิจดำเนินการก่อสร้างไม่ตรงตามแบบที่ได้รับอนุญาตและไม่ปฏิบัติตามโฆษณา ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของสัญญา จึงเป็นการผิดสัญญาและละเมิดสิทธิของผู้บริโภค มติที่ประชุม ให้ดำเนิน
คดีแพ่ง เพื่อบังคับให้ผู้ประกอบธุรกิจชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเป็นเงินจำนวน 6,444,791.30 บาท
พร้อมดอกเบี้ย
5.         กรณีสัญญาจะซื้อจะขายห้องชุด (เกี่ยวกับการขายคืน) ผู้บริโภคทำสัญญาจะซื้อจะ
ขายห้องชุด ราคา 3,000,000 บาท และชำระราคาครบถ้วนแล้ว ต่อมาผู้บริโภคต้องการขายห้องชุดคืน
ซึ่งผู้ประกอบธุรกิจตกลงรับซื้อคืนในราคาเดิม แต่กลับผัดผ่อนและไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง มติที่ประชุม
ให้ดำเนินคดีแพ่ง เพื่อบังคับให้ผู้ประกอบธุรกิจรับซื้อห้องชุดคืน และชำระเงินจำนวน 3,000,000 บาท
พร้อมดอกเบี้ย
6.         กรณีสัญญาจะซื้อจะขายห้องชุด (เกี่ยวกับการไม่โอนกรรมสิทธิ์) ผู้บริโภคทำสัญญาจะซื้อจะขายห้องชุด ราคา 12,177,616 บาท และได้ชำระเงินครบถ้วนตามสัญญาแล้ว แต่ผู้ประกอบธุรกิจ
ยังไม่ดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้ ทำให้ผู้บริโภคได้รับความเสียหาย  มติที่ประชุม ให้ดำเนินคดีแพ่ง เพื่อบังคับให้ผู้ประกอบธุรกิจโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้แก่ผู้บริโภค หากไม่สามารถดำเนินการได้ ให้คืนเงิน
ค่าห้องชุดเป็นจำนวน 11,900,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย
7.         กรณีสัญญาจ้างก่อสร้างบ้าน (เกี่ยวกับการก่อสร้างล่าช้า) ผู้บริโภคทำสัญญาว่าจ้างก่อสร้างบ้านในวงเงิน 1,146,000 บาท แต่ผู้ประกอบธุรกิจก่อสร้างไม่แล้วเสร็จตามกำหนดในสัญญา ผู้บริโภคได้ติดตามทวงถามให้ชำระค่าปรับจากการผิดนัดหลายครั้ง แต่ไม่ได้รับการตอบรับ มติที่ประชุม ให้ดำเนินคดีแพ่ง เพื่อบังคับให้ผู้ประกอบธุรกิจชำระค่าปรับจากการก่อสร้างล่าช้าเป็นเงินจำนวน 34,380 บาท พร้อมดอกเบี้ย
8.         กรณีสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง (เกี่ยวกับการก่อสร้างไม่ได้มาตรฐาน) ผู้บริโภคทำสัญญาซื้อที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ราคา 6,990,000 บาท แต่พบว่าการก่อสร้างไม่ได้มาตรฐานตามหลักวิศวกรรม จึงต้องการให้ผู้ประกอบธุรกิจรับซื้อบ้านคืน แต่กลับถูกเพิกเฉย มติที่ประชุม
ให้ดำเนินคดีแพ่ง เพื่อบังคับให้ผู้ประกอบธุรกิจรับซื้อบ้านคืนและโอนกรรมสิทธิ์กลับคืนโดยปลอดภาระจำนอง พร้อมทั้งชดใช้ค่าเสียหายต่างๆ รวมเป็นเงิน 7,092,500 บาท (แบ่งเป็นค่าบ้าน 6,990,000 บาท ค่าธรรมเนียม 8,000 บาท ค่าผ้าม่าน 26,500 บาท ค่าเฟอร์นิเจอร์ 45,000 บาท และค่าติดตั้งครัว 23,000 บาท) และให้ชดใช้ค่าเสียหายในส่วนของดอกเบี้ยที่ผู้บริโภคชำระให้สถาบันการเงิน พร้อมดอกเบี้ยตามกฎหมา
9.         กรณีสัญญาเช่าห้องพัก ผู้บริโภค 2 ราย ทำสัญญาเช่าห้องพัก โดยมีค่าเช่าเดือนละ
12,900 บาท วางเงินประกัน 15,000 บาท และชำระค่าเช่าล่วงหน้า 4,500 บาท พร้อมค่าอินเทอร์เน็ตอีก 10,000 บาท ต่อมาผู้บริโภคต้องการยกเลิกบริการอินเทอร์เน็ต แต่ผู้ให้เช่าปฏิเสธ ผู้บริโภคจึงแจ้งขอยกเลิกสัญญาเช่าและ
ย้ายออก แต่กลับถูกผู้ให้เช่ายึดทรัพย์สินและเงินประกันไว้ ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่เป็นธรรม มติที่ประชุม
ให้ดำเนินคดีแพ่ง เพื่อบังคับให้ผู้ให้เช่าคืนเงินแก่ผู้เช่าทั้ง 2 ราย รวมเป็นเงิน 75,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย
 
ดำเนินคดีกับผู้ประกอบธุรกิจด้านสินค้าและบริการทั่วไป จำนวน 34 ราย
1.             กรณีสถานออกกำลังกาย ผู้บริโภคหลายรายใช้บริการสถานออกกำลังกาย  ต่อมาบริษัทฯ ได้ประกาศ "จะปิดทำการชั่วคราว" และชดเชยด้วยการขยายเวลาสมาชิก 30 วันโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
แม้พนักงานจะแจ้งว่าจะเปิดให้บริการตามกำหนด แต่ก็ไม่สามารถทำได้ ผู้บริโภคจึงขอเงินคืน มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้บริษัทคืนเงินแก่ผู้บริโภคพร้อมดอกเบี้ย
2.             กรณีสถาบันสอนภาษา ผู้บริโภคสมัครเรียนกับสถาบันสอนภาษาอังกฤษและชำระค่าเรียน 13,800 บาท แต่บริษัทฯ ยกเลิกการเรียนและเสนอว่าจะคืนเงินให้ ผู้บริโภคตกลงรับข้อเสนอว่าจะคืนเงินภายใน
30 วัน แต่มีการเลื่อนหลายครั้งและยังไม่ได้รับเงินคืน มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้คืนเงิน 10,692 บาท พร้อมดอกเบี้ย
3.             กรณีรายการนำเที่ยว ผู้บริโภคซื้อรายการนำเที่ยวกับบริษัทฯ และชำระเงิน 82,000 บาท
แต่บริษัทไม่สามารถจัดให้เดินทางได้และตกลงจะคืนเงินให้ ผู้บริโภคได้รับเงินคืนมาบางส่วน 41,500 บาท คงเหลือเงินที่ต้องชำระอีก มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้คืนเงิน 40,500 บาท พร้อมดอกเบี้ย
4.             กรณีบัตรโดยสารเครื่องบิน ผู้บริโภค 2 ราย ซื้อบัตรโดยสารเครื่องบินผ่านเว็บไซต์จำนวน
 2 ใบ ราคา 76,130 บาท แต่มีเหตุให้ไม่สามารถเดินทางได้จึงขอยกเลิกบัตร บริษัทฯ แจ้งว่าจะคืนเงินโดยหักค่าธรรมเนียม แต่ผู้บริโภคยังไม่ได้รับเงินคืน มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้คืนเงิน 107,986 บาท
พร้อมดอกเบี้ย
5.             กรณีกิจกรรมวิ่ง ผู้บริโภคสมัครกิจกรรมวิ่งและชำระเงินให้บริษัทฯ ต่อมาบริษัทฯ ยกเลิกกิจกรรมและแจ้งให้ผู้ที่ต้องการเงินคืนแจ้งความประสงค์ตามช่องทางที่กำหนด ผู้บริโภคได้แจ้งความประสงค์แล้ว
แต่บริษัทฯ ไม่ดำเนินการคืนเงินให้ มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้คืนเงิน 6,041.86 บาท พร้อมดอกเบี้ย
6.             กรณีรายการนำเที่ยว ผู้บริโภคหลายรายซื้อรายการนำเที่ยวกับบริษัทฯ แต่บริษัท
ไม่สามารถจัดให้เดินทางได้ มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้คืนเงิน 90,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย
7.             กรณีกล้องวงจรปิด ผู้บริโภคซื้อกล้องวงจรปิดพร้อมติดตั้ง 9 ตัว ราคา 45,500 บาท โดยชำระเป็น 4 งวด ต่อมาพบว่ากล้องใช้งานไม่ได้ ร้านค้าแจ้งว่าเกิดจากปัญหาสัญญาณอินเทอร์เน็ตและให้ซื้อกล่องรับสัญญาณใหม่ราคา 1,590 บาท แต่ติดตั้งแล้วปัญหาก็ยังคงอยู่ ผู้บริโภคจึงต้องจ้างร้านอื่นมาแก้ไข ซึ่งมีค่าใช้จ่าย 17,100 บาท มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้คืนเงิน 17,100 บาท พร้อมดอกเบี้ย         
8.             กรณีรถยนต์ไฟฟ้า ผู้บริโภคทำสัญญาจองสิทธิรถยนต์ไฟฟ้าและชำระเงิน 25,000 บาท
โดยพนักงานขายแจ้งว่าจะได้รับส่วนลด 50,000 บาท ต่อมาพนักงานขายแจ้งว่ารถมีการเปลี่ยนรุ่นและให้ชำระเงินมัดจำเพิ่มอีก 10,000 บาทเพื่อรักษาสิทธิส่วนลด แต่เมื่อถึงกำหนด บริษัทฯ กลับไม่ได้หักเงินจองสิทธิ 25,000 บาท มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้คืนเงิน 25,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย
9.             กรณีซ่อมแอร์รถยนต์ ผู้บริโภคนำรถยนต์เข้ารับการซ่อมระบบแอร์ ช่างแจ้งว่าจะ
เปลี่ยนโอริงแอร์และล้างตู้แอร์ในราคา 5,000 บาท หลังจากนำรถกลับไปใช้ แอร์ก็ไม่เย็นเหมือนเดิม ผู้บริโภคจึงนำกลับไปซ่อมอีก 3 ครั้ง แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ไขให้ใช้งานได้ตามปกติ มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่ง
เพื่อบังคับให้คืนเงิน 7,500 บาท พร้อมดอกเบี้ย
10.        กรณีไม่ได้รับสินค้า ผู้บริโภคสั่งซื้อคาร์ซีทในราคา 31,980 บาท โดยตกลงว่าจะได้รับสินค้าภายใน 90 วัน แต่เมื่อครบกำหนด บริษัทฯ ไม่ส่งมอบสินค้าให้ เมื่อผู้บริโภคติดตามก็ได้รับการบ่ายเบี่ยง ทำให้ได้รับความเสียหาย มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้คืนเงิน 31,980 บาท พร้อมดอกเบี้ย
11.        กรณีสัญญาบริการกำจัดปลวก ผู้บริโภคทำสัญญาบริการกำจัดปลวก 1 ปี รวม 4 ครั้ง ค่าบริการ 3,500 บาท เมื่อถึงเวลานัดหมาย บริษัทฯ ไม่เข้ามาดำเนินการและเพิกเฉย ผู้บริโภคจึงต้องการ
ขอเงินคืน มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้คืนเงิน 1,750 บาท พร้อมดอกเบี้ย
12.        กรณีซื้อรถยนต์ใช้แล้วและไม่ได้รับโอน ผู้บริโภคซื้อรถยนต์ใช้แล้วจากเต็นท์รถ
ในราคา 535,000 บาท และได้นำรถไปจำหน่ายพร้อมชำระเงินส่วนต่าง 131,000 บาท เต็นท์รถแจ้งว่าจะดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์และเล่มทะเบียนให้ แต่มีการผัดผ่อนมาโดยตลอด มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้เต็นท์รถจดทะเบียนรถยนต์คันดังกล่าวให้เป็นชื่อของผู้บริโภค มอบเล่มทะเบียน และคืนเงิน 5,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย
13.        กรณีซ่อมรถยนต์ ผู้บริโภคนำรถยนต์เข้าซ่อมเพื่อตรวจสอบสาเหตุคราบน้ำมันรั่ว บริษัทฯ ใช้เวลานานในการซ่อมและไม่มีรถสำรองให้ใช้ ทำให้ผู้บริโภคได้รับความเสียหาย มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่ง
เพื่อบังคับให้บริษัทฯ ชดใช้เงินค่าขาดประโยชน์ระหว่างซ่อมรถจำนวน 42,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย
14.        กรณีแหวนเพชรไม่ตรงปก ผู้บริโภคสั่งซื้อแหวนเพชรราคา 16,000 บาท ค่าส่ง 100 บาท
รวมเป็นเงิน 16,100 บาท ผ่านแอปพลิเคชัน แต่ได้รับสินค้าเป็นสร้อยข้อมือแทน จึงส่งคืนสินค้าแต่ผู้ขาย
ไม่ส่งมอบแหวนตามที่สั่งและจะคืนเงินให้เพียง 50% ผู้บริโภคไม่เห็นด้วย มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่ง
เพื่อบังคับให้คืนเงิน 16,100 บาท พร้อมดอกเบี้ย
15.        กรณีจอคอมพิวเตอร์ใช้งานไม่ได้ ผู้บริโภคสั่งซื้อจอคอมพิวเตอร์ผ่าน Facebook ราคา 5,840 บาท โดยผู้ขายโฆษณาว่า "สภาพไร้ตำหนิ จอโค้งสวยงาม ใช้งานได้ปกติทุกอย่าง" แต่เมื่อได้รับสินค้าแล้วพบว่าไม่สามารถใช้งานได้ มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้คืนเงิน 5,840 บาท พร้อมดอกเบี้ย
16.        กรณีซื้อสินค้าและได้ไม่ครบ ผู้บริโภคสั่งซื้อของใช้อุปโภคบริโภคผ่าน Facebook หลายรายการรวม 909 บาท ต่อมาได้ยกเลิกบางรายการเหลือยอดชำระ 599 บาท แต่ได้รับสินค้าไม่ครบถ้วน
จึงทวงถามให้ส่งมอบสินค้าที่เหลือ แต่ผู้ขายก็ยังไม่ได้ดำเนินการ มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้
คืนเงิน 428 บาท พร้อมดอกเบี้ย
17.        กรณีซื้อเสื้อยืดและขอคืนผู้บริโภคสั่งซื้อเสื้อยืดมือสอง 7 ตัว ราคา 700 บาท บวกค่าขนส่ง 110 บาท รวม 810 บาท และได้ชำระเงินมัดจำไป 150 บาท ต่อมาต้องการเปลี่ยนคำสั่งซื้อเนื่องจากเข้าใจผิดเกี่ยวกับระบบ แต่ผู้ขายแจ้งว่าไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับ
ให้คืนเงิน 150 บาท พร้อมดอกเบี้ย
18.     กรณีสั่งซื้อหญ้าเทียมไม่เป็นตามที่สั่งผู้บริโภคสั่งซื้อและติดตั้งหญ้าเทียมราคา 22,314 บาท ผ่าน Facebook ผู้ขายรับประกัน 2 ปี แต่หลังจากติดตั้งพบว่ามีวัชพืชขึ้นจำนวนมาก ผู้บริโภคจึงติดต่อให้มาแก้ไข แต่ผู้ขายกลับบ่ายเบี่ยง มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจำนวน 5,346 บาท พร้อมดอกเบี้ย
19.     กรณีสั่งซื้อเสื้อได้ไม่ตรง ผู้บริโภคสั่งซื้อเสื้อสีครีมราคา 650 บาทผ่าน Facebook
แต่ได้รับสินค้าเป็นเสื้อที่ไม่ใช่สีครีมและไม่ตรงตามแบบที่สั่งซื้อ จึงคืนสินค้าดังกล่าวไป มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้คืนเงิน 702 บาท พร้อมดอกเบี้ย
20.     กรณีสั่งซื้อแท่นชาร์จโทรศัพท์ได้ไม่ตรง ผู้บริโภคสั่งซื้อแท่นชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย
ในตัว 2 ชิ้น ราคา 200 บาทผ่าน Facebook แต่เมื่อได้รับสินค้ากลับพบว่าเป็นแท่นวางโทรศัพท์ธรรมดา
ซึ่งไม่ตรงตามที่สั่งซื้อ มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้คืนเงิน 200 บาท พร้อมดอกเบี้ย
21.     กรณีสั่งซื้อเบาะนั่งนิรภัยแต่ไม่ได้รับสินค้า ผู้บริโภคสั่งซื้อเบาะนั่งนิรภัยสำหรับเด็ก
ในราคา 11,990 บาท แต่ผู้ขายไม่ส่งมอบสินค้าให้และไม่คืนเงิน มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้คืนเงิน 11,990 บาท พร้อมดอกเบี้ย
22.     กรณีสั่งซื้อสินค้าและได้ไม่ครบผู้บริโภคสั่งซื้อสินค้ารวมเป็นเงิน 130,690 บาท และ
ชำระเงินไป 125,000 บาท แต่ห้างหุ้นส่วนไม่ส่งมอบสินค้าให้ จึงได้ยกเลิกสัญญาและได้รับเงินคืนมาบางส่วน แต่ยังคงเหลือยอดที่ยังไม่ได้รับคืนอีก 9,000 บาท มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้คืนเงินและดอกเบี้ยผิดนัดรวม 17,035.28 บาท พร้อมดอกเบี้ย
23.     กรณีซื้อกางเกงได้ไม่ตรงปกผู้บริโภคสั่งซื้อกางเกงขาสั้น 3 ตัว รวม 1,099 บาท
แบบเก็บเงินปลายทาง แต่เมื่อได้รับสินค้าและชำระเงินแล้ว พบว่าสินค้าไม่ตรงตามที่สั่ง ผู้ขายเสนอจะคืนเงินให้เพียง 799 บาท ซึ่งผู้บริโภคเห็นว่าไม่ถูกต้อง มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้คืนเงิน 1,099 บาท พร้อมดอกเบี้ย
24.     กรณีซื้อชุดกระชับสัดส่วนได้ไม่ตรงปก ผู้บริโภคสั่งซื้อชุดกระชับสัดส่วนสีดำ 1 ตัว
ราคา 750 บาท ผ่านแอปพลิเคชันไลน์ ซึ่งผู้ขายโฆษณาว่า "มีเอวคอดทันที" และสามารถคืนสินค้าได้ภายใน 7 วัน แต่เมื่อได้รับสินค้าและชำระเงินแล้ว พบว่าเป็นชุดขนาดใหญ่และไม่ตรงตามโฆษณา มติที่ประชุมดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้คืนเงิน 750 บาท พร้อมดอกเบี้ย
25.     กรณีซื้อเจลอาบน้ำได้ไม่ตรงปก ผู้บริโภคสั่งซื้อเจลอาบน้ำกลิ่นหอมไวท์เทนนิ่ง 1 ชิ้น
ราคา 599 บาท ผ่าน Facebook แต่เมื่อได้รับสินค้าแล้วพบว่าไม่ตรงตามที่โฆษณา จึงส่งสินค้าคืนพร้อมค่าขนส่ง 83 บาท ผู้บริโภคต้องการให้ผู้ขายคืนเงินทั้งหมดรวมค่าขนส่ง มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้คืนเงิน 682 บาท พร้อมดอกเบี้ย
26.     กรณีสั่งซื้อนาฬิกาแต่ได้รับลูกบิดประตู ผู้บริโภคสั่งซื้อนาฬิกาดิจิทัล ราคา 1,150 บาท แต่ได้รับ ลูกบิดประตู แทน จึงติดต่อบริษัทขนส่งเพื่อระงับการจ่ายเงินแต่ไม่สำเร็จ เมื่อติดต่อผู้ขาย ผู้ขายกลับให้ชำระเงินเพิ่มอีก 350 บาท ซึ่งผู้บริโภคเห็นว่าไม่ถูกต้อง มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้คืนเงิน 1,150 บาท พร้อมดอกเบี้ย
27.     กรณีซื้อเครื่องดูดฝุ่นแต่ได้ของใช้งานไม่ได้จริง ผู้บริโภคสั่งซื้อเครื่องดูดฝุ่นและ
เป่าลม ราคา 999 บาท แต่เมื่อได้รับและชำระเงินแล้ว พบว่าเป็นเครื่องขนาดเล็กที่ไม่สามารถใช้งานได้จริง ไม่ตรงตามที่สั่งซื้อ และไม่สามารถติดต่อผู้ขายได้ มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้คืนเงิน 999 บาท
พร้อมดอกเบี้ย
28.     กรณีสั่งซื้อชั้นวางรองเท้าแต่ได้แผ่นพลาสติก ผู้บริโภคสั่งซื้อชั้นวางรองเท้าราคา
1,399 บาท เมื่อชำระเงินและได้รับสินค้าแล้ว พบว่าเป็นเพียงแผ่นพลาสติกสำหรับประกอบชั้นรองเท้าพร้อมวัสดุประกอบสีดำจำนวน 8 ชุด ซึ่งไม่ตรงตามที่สั่งซื้อ มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้คืนเงิน 1,399 บาท พร้อมดอกเบี้ย
29.     กรณีสั่งซื้อเสื้อโปโลแต่ได้ไม่ครบ ผู้บริโภคสั่งซื้อเสื้อโปโล 2 ตัว (ไซส์ L ชาย 1 ตัว และ
ไซส์ S หญิง 1 ตัว) ราคาตัวละ 250 บาท รวมค่าขนส่ง 30 บาท เป็นเงินทั้งสิ้น 530 บาท แต่ได้รับเสื้อเพียง 1 ตัว มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้คืนเงิน 250 บาท พร้อมดอกเบี้ย
30.     กรณีสั่งซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแต่ระบุส่วนผสมไม่ครบ ผู้บริโภคสั่งซื้อผลิตภัณฑ์
เสริมอาหารที่ช่วยให้นอนหลับง่าย 3 กล่อง (แถมฟรี 1 กล่อง) ราคา 690 บาท แต่เมื่อรับประทานแล้ว
มีอาการง่วงนอนและปวดศีรษะอย่างมาก เมื่อสอบถามผู้ขายจึงทราบว่ามีส่วนผสมของปลาและนมถั่วเหลืองซึ่งไม่ได้ระบุไว้บนฉลาก ผู้บริโภคจึงขอคืนสินค้าและเงิน แต่ผู้ขายไม่ยอมคืนให้ มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้คืนเงิน 690 บาท พร้อมดอกเบี้ย
 
 
31.         กรณีสว่านไฟฟ้าไร้สาย ผู้บริโภคสั่งซื้อสว่านไฟฟ้าไร้สายราคา 790 บาท แต่ได้รับแบตเตอรี่ไม่ครบ และผู้ขายไม่ยอมจัดส่งส่วนที่เหลือให้ มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้ผู้ขายส่งมอบแบตเตอรี่ที่เหลือและคืนเงิน 790 บาท พร้อมดอกเบี้ย
32.   กรณีเสื้อยืดพร้อมสกรีน ผู้บริโภคสั่งซื้อเสื้อยืดสกรีนภาพขาวดำแบบดิจิทัล 12 ตัว
ราคา 2,960 บาท แต่ได้รับสินค้าที่ไม่ตรงตามที่สั่ง มติที่ประชุม ดำเน

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 31 กรกฎาคม 2568
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
17 ก.ค. 2568
การแพทย์เป็นหนึ่งในระดับความสำคัญของการดำรงชีวิตอยู่ของมนุษยชาติ ซึ่งนอกจากตัวนายแพทย์ผู้ทำการรักษาแล้ว อุปกรณ์ทางการแพทย์แน่นอนย่อมมีความสำคัญไม่แพ้กัน ยิ่งในยุคสมัยใหม่นี้ด้วยแล้ว อุปกรณ์ทางการแพทย์ได้พัฒนาไปได้รวดเร็วยิ่ง อย่างไรก็ตาม สำหรับประเทศไทยเรา...