เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา คณะผู้เข้าอบรมหลักสูตรผู้บริหารธุรกิจไทย – จีน รุ่นที่ 2 (บทจ.2) ซึ่งจัดโดยสมาคมผู้สื่อข่าวไทย – จีน ร่วมกับสถาบันสื่อและบริหารธุรกิจไทย-จีน และหอการค้าไทย – จีน โดยได้รับการสนับสนุนจากสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย และ China Media Group ได้เดินทางเข้าเยี่ยมชมโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของบริษัท บีวายดี ออโต้ (ประเทศไทย) จำกัด ณ นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ ระยอง 36 ซึ่งถือเป็นโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแห่งแรกในภูมิภาคอาเซียน

การเยี่ยมชมครั้งนี้เปิดโอกาสให้ผู้บริหารได้สัมผัสกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและศักยภาพการผลิตของ BYD ในประเทศไทย โดยโรงงานแห่งนี้ไม่เพียงผลิตรถยนต์เพื่อจำหน่ายในประเทศ แต่ยังเป็นฐานการผลิตสำคัญเพื่อส่งออกไปยังประเทศต่างๆ ในกลุ่มอาเซียนและยุโรปอีกด้วย

ทั้งนี้ BYD ได้ลงทุนในประเทศไทยแล้วกว่า 35,925 ล้านบาท และสร้างการจ้างงานรวมกว่า 6,100 ตำแหน่ง โดยพนักงานชาวไทยคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 88% หรือกว่า 5,300 คน ซึ่งรวมถึงผู้บริหารชาวไทยกว่า 40 คน และวิศวกรไทยกว่า 300 คน ถือเป็นการยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยทั้งในด้านเทคโนโลยี การผลิต และโอกาสการส่งออกอย่างเป็นรูปธรรม

ปัจจุบัน รถยนต์ที่ผลิตในประเทศไทยได้แก่ BYD DOLPHIN, BYD ATTO 3 และ BYD SEALION 6 DM-i ซึ่งมีการใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศ (Local Content) ประมาณ 45-50% และมี 2 รุ่นที่ได้รับการรับรอง "Made in Thailand" แล้ว

ซึ่งจุดแข็งของประเทศไทยในมุมมองของ BYD คือ การมีบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมรถยนต์ และ Supply Chain ที่ครบสมบูรณ์ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจลงทุนในไทย

โรงงาน BYD ในประเทศไทยเริ่มผลิตในเดือนกรกฎาคม 2567 และจนถึงปัจจุบันได้ผลิตรถยนต์ EV ไปแล้วมากกว่า 40,000 คัน ด้วยกำลังการผลิตเฉลี่ย 280 คันต่อวัน โดยใช้ระบบการผลิตแบบกะเดียว

ในส่วนของการส่งออก ผู้บริหารชี้แจงว่า การส่งออกรถยนต์จากโรงงานในไทยยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น โดยมีการส่งออกไปแล้วประมาณ 600 กว่าคัน ส่วนใหญ่ไปยังประเทศในกลุ่มอาเซียน เช่น เวียดนาม และประเทศในยุโรป โดยโรงงานในไทยไม่ได้เน้นตลาดสหรัฐอเมริกา จึงไม่ได้รับผลกระทบจากนโยบายภาษีของสหรัฐฯ

BYD ยังได้มีความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยกว่า 30 แห่งในประเทศไทย โดยมีนักศึกษากว่า 100 คนเข้ารับการฝึกงานในฐานะ Intern ที่ BYD ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาบุคลากรในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของไทย

สำหรับประเด็นการใช้ Local Content ผู้บริหาร BYD ยืนยันว่า โรงงานใช้ชิ้นส่วนในประเทศในสัดส่วนมากกว่า 45% ซึ่งเป็นไปตามที่ BOI กำหนด และมีบริษัทไทยที่เป็น Local Supplier กว่า 100 รายแล้ว

ล่าสุด BYD ได้ส่งมอบรถยนต์พลังงานใหม่ครบ 90,000 คันในประเทศไทย และฉลองครบรอบ 1 ปีของโรงงานผลิตรถยนต์ในไทย พร้อมประกาศเตรียมเปิดตัว BYD SEAL 5 DM-i รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) รุ่นแรกของแบรนด์ ที่จะผลิตขึ้นจากฐานการผลิตในประเทศไทยเป็นแห่งแรกอีกด้วย

การเยี่ยมชมโรงงาน BYD ในครั้งนี้ ทำให้ผู้เข้าร่วมหลักสูตรผู้บริหารธุรกิจไทย – จีน ได้เห็นด้วยตาตนเองถึงศักยภาพและบทบาทสำคัญของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาค ที่ไม่เพียงสร้างงานและกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ยังยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขันของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในเวทีโลก