ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
สื่อสาร - คมนาคม ย้อนกลับ
AOT ประกาศแผนลงทุนเสริมแกร่ง หนุนเป็นผู้นำสนามบินที่ดีระดับโลก
17 ก.ค. 2568

AOT ครบรอบ 46 ปี ประกาศภารกิจสำคัญเร่งขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมทางอากาศ พัฒนาท่าอากาศยานให้มีความทันสมัย เพื่อรองรับหน้าที่ประตูสู่ประเทศ โดยมุ่งมั่นก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค Aviation Hub และก้าวเป็นผู้นำท่าอากาศยานที่ดีระดับโลก

นางสาวปวีณา จริยฐิติพงศ์ รักษาการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT เปิดเผยว่า AOT ยังคงวางแผนขยายขีดความสามารถของท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่ง ให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้ตามปริมาณการเติบโตของผู้โดยสาร โดยเฉพาะท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จะเร่งก่อสร้างส่วนต่อขยายด้านทิศตะวันออก (East Expansion) วงเงินลงทุนราว 1.3 หมื่นล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติ คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2573 เพื่อเพิ่มขีดความสามารถจากปัจจุบัน 65 ล้านคนต่อปี เป็น 80 ล้านคนต่อปี

นอกจากนี้ ปัจจุบัน AOT ยังอยู่ระหว่างการศึกษาแผนแม่บทท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปีนี้ โดยนอกจากเดินหน้าสร้างส่วนต่อขยายด้านทิศตะวันออกแล้ว จะดำเนินการควบคู่กับการเริ่มดำเนินโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิด้านทิศใต้ ประกอบด้วย อาคารผู้โดยสารด้านทิศใต้ (South Terminal) เพิ่มพื้นที่อาคารหลักประมาณ 4 แสนตารางเมตร รองรับผู้โดยสารได้อีก 70 ล้านคนต่อปี และทางวิ่งเส้นที่ 4 (4th Runway) เพิ่มศักยภาพรองรับเที่ยวบินจาก 3 รันเวย์ในปัจจุบันที่ 94 เที่ยวบินต่อชั่วโมง เป็น 120 เที่ยวบินต่อชั่วโมง

อีกทั้งยังมีแผนขยายขีดความสามารถของท่าอากาศยานดอนเมือง โดยคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างอาคารผู้โดยสารอาคาร 3 ได้ภายในปี 2569 และเปิดให้บริการอาคารผู้โดยสารอาคาร 3 เพื่อรองรับผู้โดยสารระหว่างประเทศในปี 2573 และปรับปรุงอาคารผู้โดยสารอาคาร 1 เพื่อรองรับผู้โดยสารภายในประเทศในปี 2575

พร้อมกันนี้ จะดำเนินการปรับปรุงท่าอากาศยานเชียงใหม่ ให้แล้วเสร็จในปี 2576 ทำให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 20 ล้านคนต่อปี ส่วนท่าอากาศยานภูเก็ต จะก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ซึ่งจะเพิ่มขีดความสามารถของท่าอากาศยานภูเก็ตเป็น 18 ล้านคนต่อปี คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2573 และท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย มีแผนจะพัฒนาให้รองรับผู้โดยสารจาก 3 ล้านคนต่อปี เป็น 6 ล้านคนต่อปี คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2576

นางสาวปวีณา กล่าวเพิ่มว่า แม้ว่า AOT จะมุ่งเน้นการลงทุนเพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านการให้บริการผู้โดยสาร และโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ เพื่อก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค ซึ่งจะเป็นที่มาของแหล่งรายได้ที่เกี่ยวกับกิจการการบิน (Aeronautical Revenue) ขณะเดียวกัน AOT ก็มีแผนหาแหล่งรายได้อื่นเพื่อมาสนับสนุนสภาพคล่อง และเพิ่มรายได้อย่างแข็งแกร่ง ยั่งยืนในอนาคต โดยเฉพาะรายได้ที่ไม่เกี่ยวกับกิจการการบิน (Non-Aeronautical Revenue)

โดย AOT มีพื้นที่ศักยภาพรอบสนามบินทั้ง 6 แห่ง ที่จะสามารถนำมาสร้างโอกาสให้กับนักลงทุน และผู้ประกอบการธุรกิจหลายด้าน จึงได้จัดงาน AOT Property Showcase เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีนักลงทุนติดต่อสอบถามรายละเอียดเข้ามาจำนวนมาก ทั้งภายในประเทศ และต่างประเทศที่ให้ความสนใจ และแจ้งความประสงค์ขอเช่าพื้นที่กับ AOT จำนวน 28 โครงการ

สำหรับประกอบธุรกิจหลากหลายประเภท เช่น โรงแรม โครงการ MRO โครงการ Private Jet Terminal โครงการ Logistics Hub Training Center ศูนย์ซ่อมรถยนต์ไฟฟ้า โชว์รูมรถยนต์ สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า และโครงการ Attraction in Terminal เป็นต้น โดย AOT เปิดให้นักลงทุนที่สนใจเริ่มเสนอโครงการเข้ามา เพื่อ AOT จะได้พิจารณาความเหมาะสมของแต่ละโครงการให้สอดคล้องกับแนวทางการดำเนินงานของ ทอท. ต่อไป

ทั้งนี้ ทอท. ยังให้ความสำคัญกับการยกระดับคุณภาพการให้บริการ (Airport Service Quality) ณ ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่ง ซึ่งหนึ่งในภารกิจที่สำคัญ คือ การผลักดันและขับเคลื่อนแผนปรับปรุงพื้นที่ให้บริการภายในท่าอากาศยานให้มีความทันสมัย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้โดยสารในปัจจุบัน เพิ่มพื้นที่พักคอยในบรรยากาศผ่อนคลาย เพิ่มจุดให้บริการชาร์จอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงจัดการแสดงศิลปะวัฒนธรรมทั้งไทยและสากล เป็นต้น

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 31 กรกฎาคม 2568
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
17 ก.ค. 2568
การแพทย์เป็นหนึ่งในระดับความสำคัญของการดำรงชีวิตอยู่ของมนุษยชาติ ซึ่งนอกจากตัวนายแพทย์ผู้ทำการรักษาแล้ว อุปกรณ์ทางการแพทย์แน่นอนย่อมมีความสำคัญไม่แพ้กัน ยิ่งในยุคสมัยใหม่นี้ด้วยแล้ว อุปกรณ์ทางการแพทย์ได้พัฒนาไปได้รวดเร็วยิ่ง อย่างไรก็ตาม สำหรับประเทศไทยเรา...