ดีอี ชงรัฐทุ่มลงทุน AI สร้างมูลค่า 4,000 ล้านบาท ตั้งศูนย์ธรรมาภิบาลภูมิภาค ดันเป็นผู้นำจริยธรรม AI บนเวทีโลก พร้อมเดินหน้าโครงสร้างพื้นฐาน-บุคลากร วางแผน 5 แสนล้าน สู่เศรษฐกิจดิจิทัลที่ยั่งยืน

เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ประกาศกรอบการลงทุนด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในเวที The 3rd UNESCO Global Forum on the Ethics of AI 2025 ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24–27 มิถุนายน โดยมีผู้แทนจากกว่า 104 ประเทศเข้าร่วม ประกาศชัดเจนว่าประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางการพัฒนา AI ที่มีธรรมาภิบาลและจริยธรรม โดยรัฐบาลตั้งเป้าสร้าง มูลค่าทางเศรษฐกิจจาก AI ไม่ต่ำกว่า 4,000 ล้านบาทภายในปี 2570

ในพิธีเปิด นายกรัฐมนตรีได้แสดงวิสัยทัศน์ว่า ไทยจะใช้ AI เป็นเครื่องมือเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต โดยเฉพาะในภาคเกษตร สาธารณสุข และการศึกษา โดยเน้นพัฒนาอย่างมีธรรมาภิบาล ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และไม่ใช้ AI เพื่อแทนที่แรงงาน แต่จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถของคนไทยในการแข่งขันในเศรษฐกิจดิจิทัล พร้อมส่งเสริมความร่วมมือภาครัฐ เอกชน และสถาบันการศึกษาในการพัฒนาบุคลากร

รัฐบาลยังได้วางแผนยุทธศาสตร์ปัญญาประดิษฐ AI แห่งชาติภายใต้การกำกับของคณะกรรมการ AI แห่งชาติ ซึ่งแบ่งการลงทุนออกเป็น 4 แกนสำคัญ ได้แก่

• การบ่มเพาะบุคลากร (Nurturing Talent): สร้างผู้ใช้งานทั่วไป 10 ล้านคน ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง 90,000 คน และนักพัฒนา AI 50,000 คน
• การสร้างโครงสร้างพื้นฐาน (Building Infrastructure): ลงทุนรวมกว่า 15.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 502,000 ล้านบาท ซึ่งรวมถึงศูนย์ข้อมูลแห่งชาติมูลค่า 61 ล้านดอลลาร์ หรือราว 2,200 ล้านบาท และการพัฒนาแพลตฟอร์มโอเพนซอร์ส
• การขับเคลื่อนผลกระทบ (Driving Impact): ใช้งบประมาณ 150 ล้านดอลลาร์ เพื่อผลักดันนวัตกรรม AI ใน 3 ภาคหลัก ได้แก่ เกษตร สาธารณสุข และการท่องเที่ยว
• การเป็นผู้นำด้านจริยธรรม (Leading Ethically): ก่อตั้ง AI Governance Practice Center (AIGPC) หรือศูนย์ธรรมาภิบาล AI แห่งแรกของเอเชียแปซิฟิก ร่วมกับยูเนสโก

ความร่วมมือนี้เป็นผลจากการหารือทวิภาคีระหว่างนายกรัฐมนตรี และ Ms. Audrey Azoulay ผู้อำนวยการใหญ่ของยูเนสโก ซึ่งทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องในการจัดตั้งศูนย์ธรรมาภิบาล AIGPC เพื่อสนับสนุนการพัฒนา AI อย่างมีจริยธรรมในภูมิภาค โดยจะรับบทเป็นศูนย์กลางอบรม แลกเปลี่ยนแนวปฏิบัติที่ดี ตลอดจนพัฒนาแนวทางรับมือภัยคุกคามใหม่ ๆ เช่น Deepfake และระบบหลอกลวงอัตโนมัติ

ด้านนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ดีอีเอส ย้ำว่า แม้จะมีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) แผนพัฒนา AI จะไม่สะดุด รัฐบาลยังเดินหน้าวางรากฐานทั้งบุคลากร โครงสร้างพื้นฐาน และการประเมินความพร้อมผ่านเครื่องมือ UNESCO RAM เพื่อประเมินจุดแข็ง-จุดอ่อน และกำหนดแผนยุทธศาสตร์ให้เหมาะสมกับบริบทไทย โดยมี ETDA เป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนศูนย์ AIGPC

ทั้งนี้ ภายในงานยังมีการจัดกิจกรรมคู่ขนานภายใต้ชื่อ Bangkok AI Week 2025 ภายใต้แนวคิด “AI Powered Nation: Unleashing the Digital Economy for All” โดยจัดแสดงนิทรรศการ เวิร์กช็อป และเสวนาจากนักวิจัยและสตาร์ทอัพทั่วโลก เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วมในการกำหนดอนาคตของ AI อย่างยั่งยืน

งานนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการยกระดับขีดความสามารถของไทยสู่การเป็นศูนย์กลางการพัฒนา AI ที่มีธรรมมาภิบาล พร้อมเชื่อมโยงความร่วมมือระดับภูมิภาค และยืนยันบทบาทไทยในฐานะผู้นำจริยธรรม AI บนเวทีโลก