นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนเพื่อพัฒนาการผลิต ถั่วเหลือง ครั้งที่ 1/2568 โดยมี นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รมช.เกษตรและสหกรณ์ เข้าร่วม ณ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่า ปัจจุบันปริมาณ ผลผลิตถั่วเหลือง ของประเทศไทยไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ในประเทศซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี ขณะที่ความต้องการใช้ถั่วเหลืองในประเทศมีประมาณ 3.8 – 3.9 ล้านตันต่อปี แต่ปัจจุบันปี 2568/69 ประเทศไทยผลิตได้เพียง 15,875 ตันต่อปี จึงจำเป็นต้องมีการนำเข้าถั่วเหลืองจากต่างประเทศจำนวนมากถึง 3.8 - 3.9 ล้านตันต่อปี มูลค่าประมาณ 68,000 – 70,000 ล้านบาทต่อปี รวมทั้งพื้นที่การเพาะปลูกในประเทศลดลง ไม่สร้างแรงจูงใจ เนื่องจากมีพืชอื่นที่ให้ผลตอบแทนมากกว่า ซึ่งต้องเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เพิ่มรายได้ให้เกษตรกร ดังนั้น เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวที่ประชุมจึงมีมติเห็นชอบอนุมัติงบประมาณ จำนวน 6.9 ล้านบาท สำหรับดำเนินโครงการวิจัยพัฒนาพันธุ์ถั่วเหลืองให้มีความยาวของข้อแรกที่ติดฝักสูงจากพื้นดินเพิ่มมากขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตถั่วเหลือง และเพื่อลดต้นทุนการผลิต
“นายกรัฐมนตรีกำชับให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เร่งขับเคลื่อนงานวิจัยและพัฒนาพันธุ์พืชใหม่ๆ เพื่อเพิ่มผลผลิต ปรับปรุงพันธุ์ให้มีคุณภาพและผลผลิตที่ดีขึ้น เพื่อให้เกษตรกรมีเมล็ดพันธุ์ที่แข็งแรง ทนต่อโรค และเพิ่มคุณภาพผลผลิตทางการเกษตร พร้อมทั้งมอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) ประสานการทำงานร่วมกับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เพื่อสนับสนุนการพัฒนางานวิจัยด้านเกษตรร่วมกันต่อไป” สำหรับโครงการวิจัยพัฒนาพันธุ์ถั่วเหลืองฯ เกิดขึ้นเนื่องจากการใช้เครื่องจักรในการเก็บเกี่ยวนั้น มีการสูญเสียผลผลิต ซึ่งทำให้ผลผลิตของพืชไร่ตระกูลถั่วของไทยต่ำกว่าที่ควรจะเป็น โดยการสูญเสียผลผลิตจากการใช้เครื่องจักรในการเก็บเกี่ยวถั่วเหลืองนั้นอาจสูงถึง 60 กก./ไร่ หรือมากกว่า ดังนั้น มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบโครงการฯ จึงมุ่งพัฒนาถั่วเหลืองให้มีความยาวของข้อแรกที่ติดฝักสูงจากพื้นดินเพิ่มมากขึ้น เพื่อปรับปรุงพันธุ์ถั่วเหลืองเชียงใหม่ 60 ให้มีความยาวของข้อแรกเพิ่มมากขึ้นจากเดิมอย่างน้อย 5 เซนติเมตร และเป็นการรวบรวมเชื้อพันธุกรรมถั่วเหลืองและจัดทำฐานข้อมูลลักษณะที่เกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโต ผลผลิต และองค์ประกอบทางเคมีของเมล็ดถั่วเหลือง
สำหรับใช้ในการวิจัยและพัฒนาพันธุ์ โดยมีระยะเวลาดำเนินงานทั้งหมด 5 ปี (ตั้งแต่ปี 2568 - 2572) ดำเนินการในพื้นที่แปลงทดลอง ได้แก่ ภาควิชาพืชไร่นา คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน, ศูนย์วิจัยพืชไร่เชียงใหม่ จ.เชียงใหม่, ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรแม่ฮ่องสอน จ.แม่ฮ่องสอน จ.สุโขทัย และศูนย์วิจัยพืชไร่ขอนแก่น จ.ขอนแก่น รวมถึงแปลงเกษตรกรในจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย พะเยา จ.น่าน และชัยภูมิ ทั้งนี้ โครงการดังกล่าว จะทำให้ได้เชื้อพันธุกรรมถั่วเหลืองที่มีความหลากหลายทางพันธุกรรมสูงจำนวน 220 - 250 สายพันธุ์ (สายพันธุ์ที่ไม่ใช่พืชตัดแต่งพันธุกรรม หรือ non GMO) พร้อมกับข้อมูลลักษณะทางสัณฐานวิทยา ลักษณะทางพืชไร่ ผลผลิตและองค์ประกอบผลผลิต และชีวเคมี (โปรตีนและน้ำมันในเมล็ด) และได้ถั่วเหลืองสายพันธุ์ใหม่ จำนวน 1 สายพันธุ์ ที่มีลักษณะทางสัณฐานวิทยา ลักษณะทางการเกษตร และผลผลิตเหมือนหรือคล้ายคลึงกับพันธุ์เชียงใหม่ 60 แต่มีข้อแรกของการเกิดฝักสูงเพิ่มขึ้นกว่าเดิมอย่างน้อย 5 เซนติเมตร รวมถึงเกษตรกรผู้ปลูกถั่วเหลือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจังหวัดเชียงใหม่ที่เก็บเกี่ยวโดยใช้เครื่องเก็บเกี่ยวมีผลผลิตถั่วเหลืองต่อไร่เพิ่มขึ้นอย่างน้อยร้อยละ 10 เนื่องจากการสูญเสียผลผลิตด้วยเครื่องเก็บเกี่ยวลดลง ทั้งนี้ สศก. จะติดตามการดำเนินงานโครงการวิจัยดังกล่าวในทุกไตรมาส รวมถึงดำเนินการบูรณาการด้านข้อมูลสินค้าเกษตร เพื่อขับเคลื่อนโครงการให้บรรลุเป้าหมายในการวิจัยครั้งสำคัญนี้