ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 23.20 น. วันที่ 11 มิ.ย. 68 นางเตือนใจ พึ่งเดช 57 ปี และ น.ส.ประภาศรี เพชรรัตน์ อายุ 32 ปี สองแม่ลูก อยู่บ้านเลขที่ 11/3 ม.1 ต.บางขะแยง อ.เมือง จ.ปทุมธานี ได้พากันมาแจ้งความกับ พ.ต.ต สิรวิชญ์ ไชยวรรณ สว.(สอบสวน) สภ.เมืองปทุมธานี พร้อมแจ้งว่า สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2568 เวลา 14.00 น. นางเตือนใจ ฯ ได้ถูก นางรัตนา (ขอสงวนนามสกุล) โทรศัพท์มาบอกให้ไปล้างตู้เย็นให้ที่บ้าน เมื่อนางเตือนใจ กำลังเดินไปที่บ้านของนางรัตนา ได้ครึ่งทาง ปรากฎว่านางรัตนา ฯ ได้ขับรถยนต์กระบะ สีน้ำเงิน มารับระหว่างทาง ซึ่งบนรถมี นางประภา (ขอสงวนนามสกุล) และคนขับรถเป็นชายไม่ทราบชื่อ และก็ไม่ใด้พาไปล้างตู้เย็นที่บ้านแต่อย่างใด แต่ได้ขับรถพานางเตือนใจฯ ไปที่ห้องประชุม โดยไม่ทราบสถานที่แน่ชัด เพราะคนขับรถให้ นางรัตนา ขับรถวกวน เพื่อให้นางเตือนใจ ฯ จดจำทางไม่ได้ เมื่อถึงห้องประชุมดังกล่าวแล้ว พบว่าสถานที่ในนั้นมีคนอยู่หลายคน โดยหนึ่งในนั้นได้มีผู้ชายคนหนึ่งอ้างว่าเป็นทนายความ โดยบังคับนางเตือนใจ ให้พูดตามคำสั่งว่า "ได้ค่าจ้างวันละ 100 บาท มาจาการเลี้ยงเด็กและถ้าวันไหนที่ได้เพิ่มคือให้บอกมาจากการล้างจานด้วย ซึ่งทั้งหมดไม่เป็นความจริง แต่ที่ให้กล่าวตามนี้เพราะ ถูกข่มขู่ว่า "ถ้าไม่ทำตาม จะแจ้งความจับในข้อหาว่า"ตนแจ้งความเท็จและยังอ้างว่ามีหมายเรียกจากทางตำรวจ หลังจากนั้น นางรัตนา ฯ ได้บังคับให้นางเตือนใจ ฯ มาแจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถ.เมืองปทุมธานี ว่าขอคัดสำเนา ประจำวันบันทึกหลักฐาน
ของวันที่ 13 พ.ค.2568 กรณีที่ตนเคยมาแจ้งความไว้ว่าก่อนวันเลือกตั้ง นางรัตนา เอาเงินซื้อเสียงเลือกนายกและสมาชิกเทศบาลตำบลบางขะแยง จำนวน 3,000 บาท มาให้นางเตือนใจ เลือกผู้สมัครนายกเทศบาลพร้อม สท.ยกทีม เมื่อถึงวันเลือกตั้ง (11 พ ค. 68) นางเตือนใจ จึงได้เดินทางไปที่หน่วยเลือกตั้ง และมีเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งถามตนว่าอยู่บ้านเลขที่เท่าไหร่ นางเตือนใจ จึงยื่นบัตรประชาชนให้ พร้อมกับพูดกับเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยว่า เขาให้ตนมาเลือกเบอร์ของผู้สมัครนายกและ สท.โดยให้เงินมา 3,000 บาท
โดยนางเตือนใจ พูดไปด้วยความซื่อ เมื่อเป็นดังนั้นเจ้าหน้าที่ในหน่วย จึงได้มีการลงบันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และพอวันที่ 13 พ.ค. จึงได้ให้นางเตือนใจ มาแจ้งความลงประจำวันไว้เป็นหลักฐานว่าใครนำเงินมาแจกในการซื้อเสียง จนเป็นเหตุวันนี้ (12 มิ.ย.) นางรัตนา บังคับให้มาขอคัดสำเนาประจำวัน ากนั้นนางรัตนา ฯ ได้นำสำเนาดังกล่าวไปด้วย โดยที่อ้างกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่า นางเตือนใจ ฯ จะขอคัดสำเนาเพื่อไปให้ลูกสาวคือ น.ส.ประภาศรี เพชรรัตน์ อ่านรายละเอียด หลังจากนั้นนางรัตนา และพวก ได้นำตัวนางเตือนใจ ให้ไปหา น.ส.ประภาศรีฯ และตามออกมาจากที่ทำงาน ให้ขึ้นรถไปด้วยกันเพื่อนั่งคุยกันบนรถ ซึ่งบนรถมีชายไม่ทราบชื่อ ด้านข้างคนขับชื่อ นางประภา (ขอสงวนนามสกุล) ด้านหลังคนขับมีนางรัตนา พร้อมได้พูดว่า มาคุยกันหน่อยว่า นางเตือนใจ ได้แจ้งความว่ารับเงินมาจากนางรัตนา จำนวน 3,000 บาท ถ้าไม่พูดตามที่บอก จะหาทนายมาฟ้อง ให้นางเดือนใจ ถูกดำเนินคดี จึงเกรงว่าจะได้รับอันตรายและเป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย จึงได้เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ให้พนักงานสอบสวน ดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำผิดและผู้ที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายจนกว่าคดีจะถึงที่สุด
ทางด้าน พ.ต.ต.สิรวิชญ์ ไชยวรรณ สว.(สอบสวน) สภ.เมืองปทุมธานี เบื้องต้นได้รับคำร้องทุกข์ไว้แล้ว และได้ดำเนินการสอบสวนเพื่อดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดตามกฎหมายต่อไป
สมเกียรติ ทรัพย์เฉลิม หน.ข่าวภูมิภาค