วันนี้ (4 มิถุนายน 2568) นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติงบกลาง วงเงิน 123.53 ล้านบาท ให้กรมการปกครองดำเนินโครงการเร่งรัดการดำเนินงานตามหลักเกณฑ์การแก้ไขปัญหาสัญชาติและสถานะบุคคลให้แก่บุคคลที่อพยพเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรเป็นเวลานาน และกลุ่มบุตรที่เกิดในราชอาณาจักรตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2567 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564
ทั้งนี้กรมการปกครอง ระบุเหตุผลว่า กรมฯ มีภารกิจในการแก้ไขปัญหาสถานะบุคคลให้แก่บุคคลที่อพยพเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรเป็นเวลานานและกลุ่มบุตรที่เกิดในราชอาณาจักร เพื่อให้กลุ่มบุคคลเป้าหมายภายใต้หลักเกณฑ์ดังกล่าวได้รับการพัฒนาสถานะ เป็นคนต่างด้าวเข้าเมืองโดยชอบด้วยกฎหมาย (ใบสำคัญถิ่นที่อยู่ถาวร) หรือสัญชาติไทย ถือเป็นสถานะสำคัญอันก่อให้เกิดสิทธิตามกฎหมาย ได้แก่ สิทธิการอยู่อาศัย สิทธิเข้ารับการศึกษา สิทธิการเข้าถึงบริการ สาธารณสุข รวมถึงหลักประกันสุขภาพ และสิทธิในการประกอบอาชีพ
อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันยังมีกลุ่มบุคคลเป้าหมายที่ได้รับการสำรวจและจัดทำทะเบียนประวัติคงค้าง ซึ่งรอการพัฒนาสถานะกว่า 483,622 คน ประกอบด้วย กลุ่มบุคคลที่อพยพเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรเป็นเวลานาน 340,101คน และกลุ่มบุตรที่เกิดในราชอาณาจักร 143,525 คน
ดังนั้น เพื่อให้การเร่งรัดการแก้ไขปัญหาสัญชาติและสถานะบุคคลตามหลักเกณฑ์ใหม่เป็นไปด้วยความมีประสิทธิภาพภายในกรอบระยะเวลาที่คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบ กรมการปกครอง จึงเสนอขอรับการจัดสรรงบกลาง เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายโครงการเร่งรัดการดำเนินงานตามหลักเกณฑ์การแก้ไขปัญหาสัญชาติ และสถานะบุคคลให้แก่บุคคลที่อพยพเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรเป็นเวลานานและกลุ่มบุตรที่เกิดในราชอาณาจักร ให้รวดเร็วมากขึ้น
สำหรับการดำเนินการครั้งนี้ประกอบด้วย 2 กิจกรรม คือ
1.ค่าใช้จ่ายเร่งรัดการดำเนินการขอมีสัญชาติไทยของบุตรบุคคลต่างด้าวที่เกิดในราชอาณาจักร 73.84 ล้านบาท
2.ค่าใช้จ่ายเร่งรัดการดำเนินการขอมีสถานะคนต่างด้าวเข้าเมืองโดยชอบด้วยกฎหมาย แก่ขนกลุ่มน้อย 44.68 ล้านบาท
ทั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเร่งรัดการดำเนินงานด้านสัญชาติและสถานะบุคคลตามหลักเกณฑ์ เพื่อให้คนซึ่งไม่มีสัญชาติไทยที่ได้รับการพัฒนาสถานะมีบัตรประจำตัวไปติดต่อขอรับบริการจากภาครัฐและภาคเอกชน และเพื่อให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในระดับอำเภอและจังหวัดมีความเข้าใจขั้นตอนการปฏิบัติงานตามระเบียบกฎหมายพร้อมสนับสนุนงบประมาณแก่จังหวัด/อำเภอ และศูนย์บริหารการทะเบียนภาค สาขาจังหวัด และกลุ่มเป้าหมายการดำเนินการ ได้แก่ ชนกลุ่มน้อย/กลุ่มชาติพันธุ์ที่อพยพเข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศไทยเป็นเวลานาน และบุตรที่เกิด ในราชอาณาจักร 483,622 คน โดยมีระยะเวลาดำเนินโครงการตั้งแต่เดือนพฤษภาคม - 30 กันยายน 2568