ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
ธรรมาภิบาล ย้อนกลับ
แม่ทัพภาคที่ 4 แถลงร่วม 3 ฝ่าย ถึงความคืบหน้าการบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
31 พ.ค. 2568

แม่ทัพภาคที่ 4 แถลงร่วม 3 ฝ่าย ถึงความคืบหน้าการบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เน้นย้ำความโปร่งใส ยึดหลักสิทธิมนุษยชน

วานนี้ที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า/ กองกำลังตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ร่วมกับ พลตำรวจโท ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9/ผู้บัญชาการกองกำลังตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ,ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ,รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ร่วมแถลงข่าวความคืบหน้าการบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ (จชต.) โดยเน้นย้ำว่า การดำเนินการของเจ้าหน้าที่เป็นไปอย่างต่อเนื่อง รอบคอบ และอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในพื้นที่ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลายเหตุการณ์ พบกลุ่มขบวนการ ผู้ก่ออาชญากรรม ได้กระทำการด้วยความโหดเหี้ยม โดยกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอแสดงความเสียใจกับผู้ที่สูญเสียและได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างสุดซึ้ง

จากเหตุที่เกิดขึ้น นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้สั่งการให้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า โดย พลโท ไพศาล  หนูสังข์  แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 และ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ดำเนินการติดตามผู้กระทำความผิดมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมให้ได้ และกำชับศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ เร่งเยียวยาให้กับผู้ได้รับผลกระทบในเหตุต่างๆ

แม่ทัพภาคที่ 4 ระบุว่าหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนดำเนินการควบคุมพื้นที่และบังคับใช้กฎหมาย จากหลักฐานวัตถุพยาน หลักฐานนิติวิทยาศาสตร์ และจากการแจ้งข้อมูลของพี่น้องประชาชน สามารถขยายผลบังคับใช้กฎหมายต่อผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุในพื้นที่หลายเหตุการณ์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ยึดหลักของกฎหมาย โดยมีมาตรการควบคุมการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่อย่างเข้มงวด โดยเฉพาะการใช้กฎหมายปกติ ไม่กระทำเกินกว่าเหตุ และไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างเด็ดขาด เจ้าหน้าที่ทุกระดับได้รับการอบรมเพื่อให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุภาพ รอบคอบ และไม่เลือกปฏิบัติ

ในส่วนของการควบคุมตัวบุคคลต้องสงสัย แม่ทัพภาคที่ 4 ระบุว่า เจ้าหน้าที่ต้องมีเหตุผลอันควรเชื่อว่าบุคคลนั้นเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ความรุนแรง และต้องประสานผู้นำชุมชน รวมถึงแจ้งญาติให้ทราบอย่างชัดเจนเกี่ยวกับสถานที่ควบคุมตัว ระยะเวลา และสิทธิในการเข้าเยี่ยม โดยจะมีการจัดทำหนังสือบันทึกการควบคุมตัวและให้แพทย์ตรวจร่างกาย พร้อมเชิญผู้นำท้องถิ่นและผู้นำศาสนาเข้ามามีส่วนร่วม เพื่อความโปร่งใสและเป็นธรรม

โดย กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้ดำเนินการบังคับใช้กฎหมาย โดย กองกำลังทหารพราน งานสืบสวนคดีความมั่นคงและฝ่ายปกครอง ได้ร่วมกันติดตามผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีทางกฎหมาย ซึ่งมีผลการปฏิบัติดังนี้ เข้าปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมาย 16 ครั้ง ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย 34 คน ให้การรับสารภาพ 22 คน นำไปสู่การดำเนินคดีเบื้องต้นเวลานี้ 7 ราย และอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานอีกหลายราย ซึ่งเกี่ยวข้องกับเหตุต่างๆ ได้แก่
1. เหตุระเบิดรถบัสรับ-ส่ง นักเรียนทางราชการ สังกัดกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 153 ริมถนนสาย 42 บ้านคลองขุด  อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2559
2. เหตุคนร้ายลอบวางระเบิดบริเวณหน้าร้านน้ำชานายไพรัช  บริเวณปากทางเข้าค่ายลูกเสือ หมู่ที่ 6 ตำบลบ่อทอง  อำเภอหนองจิก  จังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2559
3. เหตุระเบิดเจ้าหน้าที่กองร้อยทหารพรานที่ 4808  หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 48 บริเวณสะพานรอยต่อบ้านดอเฮะ ตำบลริโก๋และ บ้านสือแด ตำบลสากอ  อำเภอสุไหงปาดี  จังหวัดนราธิวาส วันที่ 18 ตุลาคม 2567
4. เหตุคนร้ายลอบยิงนายวิเชษฐ์ ไทยทองนุ่ม หรือนายกอาร์ม นายกเทศมนตรี รือเสาะ เสียชีวิต เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2567
5. แขวนป้ายผ้า ข้อความ สันติภาพยั่งยืน ถนนสาย 418 ใกล้สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง PTT Station อำเภอเมือง  จังหวัดยะลา เมื่อ 13 กรกฎาคม 2566 ซึ่งในวันเดียวกัน  มีการแขวนป้ายผ้าในพื้นที่จังหวัดยะลา รวม 10 จุด และมีวัตถุต้องสงสัย ระเบิดปลอม 3 จุด
6.  เหตุคนร้ายวางเพลิงเผากล้องวงจรปิด บริเวณสามแยกบายพาส หมู่ 2 ตำบลโกตาบารู  อำเภอรามัน  จังหวัดยะลา เมื่อ 30 มีนาคม 2568
นอกจากนี้ กอ.รมน.ภาค 4 สน. ยังได้จัดตั้ง “ศูนย์ซักถาม” จำนวน 6 แห่งในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งศูนย์เหล่านี้ดำเนินการภายใต้หลักการเคารพสิทธิมนุษยชนอย่างเคร่งครัด เพื่อซักถามข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการคลี่คลายสถานการณ์ความไม่สงบ และเพื่อเปลี่ยนแปลงทัศนคติของผู้ต้องสงสัยที่อาจถูกชักจูงเข้าสู่ขบวนการแบ่งแยกดินแดน

ท้ายที่สุด แม่ทัพภาคที่ 4 ได้ขอความร่วมมือจากประชาชน หากพบเห็นบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สายตรงแม่ทัพภาคที่ 4 หมายเลข 061-1732999 หรือสายด่วน 1341 ตลอด 24 ชม.

การแถลงข่าวในวันนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งความพยายามของหน่วยงานด้านความมั่นคงในการสื่อสารทำความเข้าใจกับประชาชน ยืนยันถึงความโปร่งใส ยุติธรรม และยึดมั่นในหลักสิทธิมนุษยชนในการดำเนินงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 1 - 15 มิถุนายน 2568
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
02 มิ.ย. 2568
หากจะพูดหรือเอ่ยถึง “กูรู” หรือ “ผู้รู้” โดยเฉพาะด้านกฎหมาย ที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางแล้ว ชื่อของ “ไพศาล พืชมงคล” ย่อมจะถูกปฎิเสธได้อยากยิ่ง เพราะไม่เพียงแต่บุคคลผู้นี้จะคร่ำหวอดในวงการกฎหมายมาอย่างยาวนา...